ฟุตบอลไทย ไทยลีก

BEST & WORST: ยอดเยี่ยม-ยอดแย่ โตโยต้า ไทยลีกนัดที่ 31

โค้งสุดท้ายของฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก สถานการณ์หลายอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ทีมลุ้นแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขยับเข้าใกล้การทวงแชมป์คืนเต็มที หลังจากบุกเอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี และรองจ่าฝูงอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำได้แค่บุกไปเสมอกับท่าเรือ ส่วนทีมลุ้นตกชั้น ศรีสะเกษ เอฟซี ตกที่นั่งลำบาก เมื่อบุกไปพ่าย ราชนาวี  และนี่คือการจัดอันดับยอดเยี่ยมยอดแย่ประจำสัปดาห์

 

กดลูกศรทางขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

BEST MOMENT : แฟนเจ้าท่าชมเกมจากมุมสูง

เป็นที่ทราบกันดีว่า เกมระหว่าง การท่าเรือ กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามแพทสเตเดี้ยมนั้น ห้ามไม่ให้แฟนบอลเข้าชมเกม แถมยังไม่อนุญาตให้มีการตั้งจอใหญ่เพื่อรวมตัวแฟนบอล ทำให้แฟนบอลทั้งหมดอดซึมซับกับบรรยากาศการเชียร์ฟุตบอลแบบสนุกๆ แต่ก็มีบางส่วนที่สามารถชมเกมสดๆด้วยตาเปล่าได้ แม้ว่าอาจจะไกลซักหน่อย และไม่ได้ละเมิดข้อห้ามของไทยลีก เมื่อแอบชมเกมอยู่บนตึกบริเวณสนาม ซึ่งตอนนี้แฟนบอลทั้งสองทีมได้รับรู่ถึงความทรมานที่ไม่ได้ชมทีมรักแบบที่เคยทำได้และน่าจะทำให้เกิดความยั้งคิดมากขึ้นในครั้งต่อไป

WORST MOMENT :  ความวุ่นวายท้ายเกมสุพรรณ-บุรีรัมย์

แม้ว่าสุพรรณบุรี เอฟซี จะมีหน้าที่เพียงแค่ขวางทางไม่ให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ได้สะดวก เพราะอันดับในตารางของพวกเขาไม่ต้องลุ้นทั้งหนีตกชั้น หรือว่าโควตาอะไร แต่เจ้าบ้านเลือดสุพรรณสู้กับ จ่าฝูงอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างสุดใจ และมีการงัดเอาเอาจังหวะปะทะหนักๆมาเล่นหลายครั้ง และเป็นจอมพร้ิวแบบ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ที่โดนอัดจนล้มกลิ้งล้มหงายในกรอบเขตโทษหลายครั้งจนสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่าให้ แต่ก็ทำให้นักเตะทั้งสองทีมไม่ค่อยพอใจนัก โดยอันเดรส ตูเญซ ที่เข้าไปโวยจนมีเหตุชุลมุนอยู่พักใหญ่ และเหตุการณ์สงบลง ก่อนที่ ดาวยิงชาวแซมบ้าจะซัดประตูชัยจากลูกจุดโทษ

BEST PLAYER : ดราแกน บอสโควิช

ดาวรุกชาวมอนเตเนโกร ยังคงฟอร์มแรงแบบฉุดไม่อยู่ต่อเนื่องอีกสัปดาห์ เมื่อสวมบทเครื่องจักรถล่มประตู เมื่อจัดการยิงคนเดียวสองประตูช่วยให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด เอาชนะ ราชบุรี มิตรผล จนขยับมาหายใจรดต้นคอเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง และโอกาสในการแย่งโควตาเพลย์ออฟ ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกของพวกเขา เปิดกว้างขึ้นอีก

WORST PLAYER : ชาริล ชัปปุยส์

แม้ว่าจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ย้ายจาก สุพรรณบุรี เอฟซี มาร่วมทีมเมื่อช่วงเลกที่สอง จนล่าสุดกลับไปมีชื่อติดทีมชาติไทยอีกครั้ง แต่ในเกมนี้กองกลางรูปหล่อกลับโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง โดยแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับการขับเคลื่อนเกมของทีมเลย ถือว่าฟอร์มค่อนข้างน่าผิดหวัง สวนทางกับที่สต๊าฟฟ์โค้ช และกองเชียร์ได้ตั้งความหวังไว้กับเขา

BEST GOAL : มิลอส สโตยาโนวิช

กองหน้าทีมชาติเซอร์เบียของพัทยา ยูไนเต็ด พังประตูสุดสวยเป็นประตูเบิกร่องให้กับทีม เมื่อวิ่งควบไปกับบอลที่ ชัยณรงค์ ทาทอง เปิดยาวมาให้จากกลางสนามก่อนที่จะกระดกบอลข้ามตัว นนท์ ม่วงงามเข้าประตูไปแบบสุดเหนือชั้น

WORST GOAL : ณัฐชานนท์ โจถาวร

นายทวารของไทยฮอนด้า เอฟซี เป็นจุดเริ่มต้นของการเสียประตูที่สองเมื่อ เปิดเกมพลาดง่ายๆแบบไม่น่าเชื่อจากจังหวะออกบอลให้เพื่อนเพื่อเซตเกม และถูก โรดิเกวซ โมเรียร่า ตัดบอลได้ก่อนลากไปยิงง่ายๆให้ทีมเยือนออกนำ 2-0 ก่อนที่ ราฟาเอล ลิมา จะมาซัดคนเดียวสองประตูช่วยให้เจ้าบ้านตามมาตีเสมอแบ่งแต้มไปได้อย่างสนุกด้วยสกอร์ 2-2

BEST MATCH :   พัทยา ยูไนเต็ด - เชียงราย ยูไนเต็ด

แม้ว่าทั้งสองทีมแทบจะไม่เหลือเป้าหมายอะไรในลีกฤดูกาลนี้แล้ว เพราะเจ้าบ้านนั้นรอดตกชั้นแน่นอนแล้ว ส่วนเชียงราย ยูไนเต็ด ก็ลุ้นตำแหน่งรองแชมป์เพื่อไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกยากเต็มที แต่ว่าทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันจนกลายเป็นกำไรของแฟนบอลในนัดนี้ ที่ได้ชมเกมมันๆ และพลิกไปพลิกมาตลอด สุดท้ายจบลงที่การแบ่งแต้มกันไปในเกมที่มีให้ชมถึง 4 ประตูด้วยกัน จากผลเสมอ 2-2

 

WORST MATCH : การท่าเรือ - เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ทั้งสองทีมถูกสมาคมฟุตบอลลงโทษแบนแฟนบอลทั้งเกมที่พบกับ ทำให้บรรยากาศที่แพทสเตเดี้ยม ที่ได้รับการขนานนามว่านรกของทีมเยือนเงียบเหงาลงไปแบบจับใจ ในเกมนี้ บวกกับสภาพสนามที่ชุ่มไปด้วยน้ำขังขากฝนที่ตกติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้ทั้งสองทีมแทบจะเล่นเกมแบบที่ถนัดไม่ได้โดยเฉพาะเมืองทอง ที่แทบจะเล่นเกมเท้าต่อเท้าไม่ได้เลย เกมเลยจบแบบกร่อยๆด้วยการเสมอกัน 1-1 พร้อมกับโอกาสป้องกันแชมป์ของกิเลนผยองที่ใกล้หมดลงเต็มที

BEST TEAM : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

หลังจากที่พลาดท่ากระเด็นตกตกรอบบอลถ้วยสองรายการในรอบ 1 สัปดาห์หลายคนกังวลว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเสียศูนย์หรือไม่ และการมาเยือนสุพรรณบุรี เอฟซี ก็ไม่ใช่งานง่าย ทำให้สัปดาห์นี้พวกเขาถูกจับตาว่าอาจจะถูก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ขยับช่องว่างเข้ามาได้หากเมืองทองเอาชนะท่าเรือได้ แต่กิเลนผยองก็ทำไม่สำเร็จ เพราะทำได้แค่เสมอส่วนปราสาทสายฟ้าก็สวมหัวใจนักสู้ ที่สู้จนวินาทีสุดท้าย ก่อนที่จะได้ประตูชัยแบบสุดดราม่าจากจุดโทษของ ดิโอโก หลุยส์ซานโต ตอนนี้พวกเขาต้องการอีกเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้นเพื่อที่จะทวงแชมป์ของตัวเองกลับมา

WORST TEAM : ศรีสะเกษ เอฟซี

กูปรีอันตรายกลายเป็นทีมเดียวในกลุ่มหนีตกชั้นในสัปดาห์นี้ ที่ไม่สามารถคว้าแต้มติดมือมาครองได้ ในขณะที่ทีมที่อยู่ในโซนท้ายตารางต่างมีแต้มกันหมด พวกเขาบุกไปพ่าย ราชนาวี 1-0 จากประตูชัยของ โรดริโก เวอร์จิลิโอ ทำให้ตอนนี้พวกเขามีโอกาสสูงเหลือเกินที่จะร่วงตกชั้นกลับไปตั้งต้นใหม่ในไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า