เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

ภาระของคนเบิกทาง – เมื่อ “ชนาธิป” ตกที่นั่งเดียวกับ “นาคาตะ”

หลังจากการประเดิม 90 นาทีเต็มครั้งแรกของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในเกมที่ คอนซาโดเล ซัปโปโร พ่ายแพ้ให้กับจ่าฝูงเจลีกอย่างเซเรโซ โอซาก้า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา กับผลงานการทำ 1 แอสซิสต์ ที่ดูเหมือนจะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของทั้งแฟนบอลชาวไทยและญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้ผลงานโดยรวมของดาวเตะทีมชาติไทยวัย 23 ปี ในเกมดังกล่าว นั้นถือว่าดีในระดับหนึ่งทั้งเรื่องความขยันที่ทำระยะทางการวิ่งรวมทั้งหมด 9.7 กิโลเมตร ซึ่งมากสุดเป็นอันดับที่ 4 ของทีม, จังหวะสปรินท์สูงถึง 15 ครั้ง เป็นอันดับ 2 ของทีม นอกจากนี้การมีส่วนร่วม การประสานงานกับเพื่อนในแนวรุก นัดล่าสุดที่พบเซเรโซฯ ก็ทำได้ดี และมีมากกว่าเกมแรกที่ซัปโปโรสามารถเอาชนะอุราวะ เรดส์ ได้เสียอีก

หลายคำถามมากมายเกิดขึ้นหลังจากจบเกมนี้ เพื่อนร่วมทีมยังไม่ไว้ใจ?…คงไม่ใช่, คอนซาโดเลเล็กเกินไปสำหรับชนาธิป?…

จริงอยู่ คอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับสู่เจลีกในรอบ 4 ปี อาจเป็นสโมสรไม่ได้มีประวัติการคว้าแชมป์ หรือชื่อเสียงโด่งดังเทียบเท่ากับคาชิมา อันท์เลอร์ส, อุราวะ เรดส์ หรืออย่างกัมบะ โอซาก้า แต่ทีมจากฮอกไกโดก็มีแฟนคลับเหนียวแน่น และสนามที่จุผู้ชมได้สูงราว 40,000 คน ดังนั้นคำถามที่ว่าสโมสรนี้เล็กเกินไปสำหรับชนาธิปหรือไม่? ก็คงไม่ใช่อีก

การที่ทีมจากเจลีกจะเลือกนักเตะจากประเทศในแถบอาเซียนมาค้าแข้ง แน่นอนทีมระดับบิ๊กเนมคงมองข้ามจุดนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าเปรียบให้เห็นภาพก็คงเหมือนกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด หรือเชียงราย ยูไนเต็ด ก็ยังไม่มีการเซ็นสัญญานักเตะจากลาว, เมียนมา, กัมพูชา หรือเวียดนาม มาร่วมทีม

ทั้งนี้การที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ย้ายมาสวมชุดคอนซาโดเล ซัปโปโร ถือเป็นก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าตัวและวงการฟุตบอลไทยแล้ว แต่ภารกิจของเขาเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ภารกิจของผู้แบกความหวังชาวอาเซียนกับโอกาสค้าแข้งที่ญี่ปุ่นยังมีอุปสรรคมากมายรอเขาอยู่ เสมือนกับ ฮิเดโตชิ นาคาตะ ที่เคยรับภาระเป็นคนเบิกทางแข้งญี่ปุ่นสู่เวทียุโรป…

ย้อนไปเมื่อปี 1998 นักเตะที่ปัจจุบันทุกคนรู้จักในฐานะตำนานทีมชาติญี่ปุ่นอย่าง ฮิเดโตชิ นาคาตะ ก็เคยเป็นผู้เล่นที่ต้องการล่าฝันตัวเองในต่างแดน เขาทำผลงานโดดเด่นกับเบลล์มาเร ฮิรัตสึกะ (ปัจจุบันคือ โชนัน เบลล์มาเร) ในลีกบ้านเกิด ก่อนจะได้โอกาสย้ายไปร่วมทีมเล็กๆอย่าง เปรูจา ในกัลโช ซีเรีย อา อิตาลี

ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครคิดว่า นาคาตะ จะมาเปลี่ยนมุมมองของชาวยุโรปที่มีต่อนักเตะเอเชีย สถานะของเขาในตอนนั้นคงไม่ต่างอะไรกับชนาธิปในตอนนี้ ที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองทั้งเรื่องการใช้ชีวิต เรียนรู้ภาษาและวิธีการสื่อสาร ศึกษารูปแบบการเล่นในยุโรป รวมถึงการสร้างความมั่นใจต่อเพื่อนร่วมทีม

นัดประเดิมสนามของ นาคาตะ ถือเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่ฮือฮาในวงการฟุตบอลอิตาลี หลังเขายิงสองประตูใส่ทีมยักษ์ใหญ่อย่างยูเวนตุสในยุคที่มีสตาร์ดังอย่าง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร, ซีเนดีน ซีดาน, ดิดิเยร์ เดสชองส์, เอ็ดการ์ ดาวิดส์ และฟิลิปโป้ อินซากี้

ผลงานในฤดูกาลแรกของ ฮิเดโตชิ นาคาตะ ได้ลงสนามให้กับเปรูจาไป 33 นัด ยิง 10 ประตู จากนักเตะโนเนมกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่พาทีมรอดตกชั้นได้สำเร็จ แม้ปีต่อมา นาคาตะ จะได้ลงเล่นเพียง 15 นัด แต่ผลงานของเขาต่างเป็นที่ยอมรับก่อนจะย้ายไปร่วมทีมดังอย่าง โรมา

แม้ในช่วงเวลาที่นาคาตะค้าแข้งกับโรมาจะไม่ใช้ผู้เล่นตัวหลัก แต่ถือเป็นกำลังเสริมที่ดีของฟรานเชสโก้ ต็อตติ ในการผนึกกำลังกับ วินเซนโซ มอนเตลลา, กาเบรียล บาติสตูต้า พาทีมคว้าแชมป์กัลโช ซีเรีย อา ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามดีลของ ฮิเดโตชิ นาคาตะ สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ต่อฟุตบอลอิตาลี เขาไม่แค่เพียงเล่นได้ แต่เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมและสามารถยกระดับฟุตบอลลีกชั้นนำของยุโรปได้ เขาทำให้นักเตะญี่ปุ่นได้รับการยอมรับมากขึ้น และได้ย้ายไปค้าแข้งในทวีปยุโรปตามไปอีกมากมายอาทิ ชินจิ โอโนะ, เคสุเกะ ฮอนดะ, ชุนสุเกะ นาคามูระ, ชินจิ คางาวะ และอีกหลายราย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ต่างประสบความสำเร็จในยุโรปทั้งนั้น

ย้อนกลับมามองที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในตอนนี้ สถานะของเขาคงไม่ต่างอะไรจากนาคาตะในอดีต ชนาธิปที่มีภาระเป็นคนเบิกทาง ไม่ได้แบกความหวังแค่ชาวไทย แต่เป็นความหวังที่จะเป็นผู้เปิดประตูของชาวอาเซียนได้ไปค้าแข้งในเจลีกมากขึ้น

ก่อนหน้านี้นักเตะอาเซียนหลายรายที่เคยมาล่าฝันในเจลีกทั้ง อิรฟาน บัคดิม (อินโดนีเซีย), สเตฟาโน่ ลิลิปาลี่ (อินโดนีเซีย), เหงวียน กง เฝิง  (เวียดนาม), เล กง วินห์ (เวียดนาม) ต่างไม่ประสบความสำเร็จบนแดนอาทิตย์อุทัย โดยหลายหลังสุดเพิ่งได้พบกับชนาธิปและฝากข้อความถึงแข้งความหวังรายนี้ว่า

“ผมคิดว่าเขาจะไปได้สวยแน่ที่เจลีก เพราะเขายังหนุ่มยังแน่น แม้จะรูปร่างเล็ก แต่มีความแข็งแกร่งมาก นั่นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะเล่นได้ดีแน่นอนกับคอนซาโดเล”

“ตอนนี้ คอนซาโดเล มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากตอนที่ผมอยู่เมื่อสี่ปีก่อนหลายตำแหน่ง อันที่จริงแล้วตอนนั้นมันก็ไม่ง่ายนะ กับการเล่นใน เจ 2 แต่พอเห็นผลงานของทีมบนเจลีกช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลนี้แล้ว มันทำให้ผมเห็นว่าการแข่งขันนั้นยากขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน”

“ถ้าถามว่าเขาจะทำได้ดีกว่าผมตอนนั้นมั้ย (ปี2013) ผมบอกเลยว่า ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เขาทำได้ดีกว่าผมแน่นอน เพราะเขายังหนุ่มอยู่เลย ผมเชื่อนะว่าเขาจะทำประตูได้เยอะ และช่วยให้ทีมอยู่รอดในลีกสูงสุดต่อไปได้ในฤดูกาลนี้ ที่เขาต้องการตอนนี้คือเวลาเท่านั้น แน่นอนว่ามันไม่ง่ายสำหรับเขาเลย”

“เมสซี่ไทย ผมหวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จ สู้ๆ” ตำนานทีมชาติเวียดนามทิ้งท้ายให้กำลังใจจอมทัพทีมชาติไทยที่ไปล่าฝันในแดนปลาดิบ

เส้นทางการค้าแข้งเจลีกของ ชนาธิป ในตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น การเดิมพันครั้งนี้ต้องแลกกับผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ เจ้าของฉายาเมสซี่แห่งสยามที่มีรางวัลแข้งยอดเยี่ยมเอเอฟเอฟ 2 สมัยเป็นเครื่องการันตีว่าเป็นนักเตะอาเซียนที่ดีที่สุดในยุคนี้ ซึ่งหากเขาไม่สามารถทลายกำแพงนี้และเลือกเก็บกระเป๋ากลับบ้านแบบเดียวกับที่ผ่านมา ก็ยังมองไม่ออกว่าใครจะมาเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางนี้ต่อ และโควต้าอาเซียนในเจลีกก็คงจะไร้ความหมาย…

แต่ถ้าหากเขาทำสำเร็จชื่อของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะเป็นที่จดจำของแฟนบอลเจลีกเสมือน ฮิเดโตชิ นาคาตะ ที่แฟนฟุตบอลอิตาลีไม่มีวันลืม