วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค ออกมาชื่นชมการทำหน้าที่ของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย ที่เพิ่งพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 45 มาครอง โดยชี้ว่าทีมมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลายอย่าง และถ้าหากได้ผู้เล่นตัวหลักมาร่วมทัพ ทีมจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีก
โดยหลังจากจบทัวร์นาเม้นท์คิงส์คัพ สมาคมฟุตบอลฯ ได้จัดประชุมหารือกันระหว่างสมาคมฯ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ครั้งนี้เป็นการสรุปผลงานและหารือเกี่ยวกับข้อบกพร่องต่างๆ ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 45 เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในการแข่งขันครั้งต่อไปให้ดีและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ภายหลังจากการประชุม วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคฟุตบอลไทย กล่าวว่า “แน่นอนว่าการแข่งขันครั้งนี้ เราขาด เมสซี่เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์)และ ธีรศิลป์ แดงดา สิ่งที่เปลี่ยนไปในการแข่งขันครั้งนี้ คือ เกมโต้กลับเร็ว จะเห็นได้ว่า ทีมชาติไทยมีเวลาฝึกซ้อมเพียงแค่ 1-2 วัน แต่นักเตะในทีมสามารถตอบสนองแท็คติคของ ราเยวัช ได้เป็นอย่างดี ประตูที่ทำได้ในเกมกับ เกาหลีเหนือ อย่างลูกจุดโทษ ก็เกิดจากจังหวะโต้กลับเร็ว”
“ต้องขอชื่นชมเกมรับ โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ที่มีความสัมพันธ์ในการเล่นดีมาก ธีราทร บุญมาทัน เองก็ทำผลงานได้ดีกับบทใหม่ ต้องขอชื่นชม ราเยวัช ที่สามารถเค้นฟอร์มของนักเตะออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม”
“สิ่งที่ต้องแก้ไขปรับปรุงต่อไปคือ กองหน้า ถ้าหากเรามี ธีรศิลป์ อยู่ คงไม่มีปัญหาอะไร คือ ความสัมพันธ์ระหว่างกองหน้าและกองกลาง ต้องปรับปรุงอีกเยอะ โดยเฉพาะกองหน้าต้องสร้างพื้นที่ให้กองกลางขึ้นไปโจมตีมากขึ้น รวมทั้งการจบสกอร์ เพราะการสร้างจังหวะทำประตูยังน้อยเกินไป”
“สิ่งที่เราไม่เคยเห็นในฟุตบอลไทยสมัยก่อน คือ การครอบครองบอล เราจะเห็นว่าเกมที่สอง การครองบอลของเราอยู่ในระดับมาตรฐานสากลเลยทีเดียว”
“การเตรียมทีมสำหรับการลงแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เกมต่อไป ราเยวัช มีเวลาเตรียมทีมเกือบหนึ่งสัปดาห์ เราได้นำข้อมูลที่ได้จากการแข่งขันคิงส์คัพไปให้กับเขา เพื่อเตรียมความพร้อมต่อไป”
“ส่วนนักเตะไทยทุกคนต้องพยายามเรียนรู้แท็คติคใหม่ๆ จากโค้ช เพื่อยกระดับการเล่นของตัวเองให้มากขึ้น เพราะอีก 2-3 ปี ราเยวัช หรือ เอคโคโน เขาก็กลับไปแล้ว ดังนั้นเราต้องมีโค้ชคนไทยที่เข้าใจแท็คติคการเล่นต่างๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ในอนาคต เพื่อจะได้คุ้มกับเงินที่เราเสียไป”
“การแข่งขันคิงส์คัพ ที่ผ่านมาแน่นอนต้องขอชื่นชมคู่กองหลัง ที่มีความสัมพันธ์ในการเล่นที่ดีมาก ธีราทร เองเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญ มีอิสระในการทำเกม วิสัยทัศน์ในการมองเกมดีมาก คงไม่ใช่ผมคนเดียวที่ชื่นชมเขา คนทั้งประเทศ สเกาท์ต่างชาติที่เข้ามาดูเกมต่างชื่นชมเขา อนาคตถ้าเราได้ ธีรศิลป์, ชนาธิป, นูรูล และ สารัช อยู่เย็น กลับมา ทีมชาติไทยจะมีความแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน ทั้งนี้ต้องอยู่ที่ตัวผู้เล่นด้วยว่าจะเปิดรับแท็คติคของ ราเยวัช ได้มากแค่ไหน ซึ่งนักเตะและโค้ชจะต้องร่วมมือกันต่อไป”
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ คือการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 9 พบกับทีมชาติ อิรัก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 31 สิงหาคม 2560