ทีมชาติไทย แชมป์เก่าฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ลงประเดิมสนามในเกมแรก ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงด้วยการเอาชนะ เกาหลีเหนือไป ขาดลอย ด้วยสกอร์ 3-0 จากการพังประตูของ มงคล ทศไกร, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ปิดท้ายด้วย ลูกโทษที่จุดโทษของ ธีรเทพ วิโนทัย ถือเป็นชัยชนะนัดแรกในการคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย ทำให้ทีมช้างศึก ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ กับ เบลารุส ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม
ตัวจริง
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 7 : มีจังหวะให้เซฟบ้าง ในช่วงแรก แต่ก็ไม่ได้เป็นลูกยากมาก ซึ่ง นายด่านจากเมืองทองก็ไม่ได้แสดงความผิดพลาดอะไรออกมาให้เห็น ยังเล่นได้ตามฟอร์มเดิมของตัวเอง มีเซฟจังหวะอันตรายให้เห็น และกระตุ้นแนวรับตลอดเวลา รักษาคลีนชีตเอาไว้ได้
อดิศร พรหมรักษ์ 6 : ได้รับผิดชอบตำแหน่งแบ็กขวา เล่นเกมรับของตัวเองได้พอสมควร แต่จังหวะเติมเกมบุกขึ้นไปเปิดบอลยังทำได้ไม่ดีนัก แต่ถือว่ารับผิดชอบเกมรับของตัวเองที่ได้รับมอบหมายได้ดี ไม่ปล่อยให้ริมเส้นของเกาหลีเหนือได้เล่นง่าย
พรรษา เหมวิบูลย์ 7 : จับคู่กับเฉลิมพงษ์ และเล่นได้นิ่ง จนไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งจะมีประสบการณ์ทีมชาติแค่ไม่กี่เกม สกัดบอลเด็ดขาดในหลายจังหวะ ใช้รูปร่างที่สูงใหญ่ของตัวเองให้เป็นประโยชน์
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว 7 : แม้จะเป็นเกมทีมชาติแค่เกมที่สาม แต่ว่าสามารถรับผิดชอบแนวรับได้ดี อ่านจังหวะบอลสวยๆได้หลายครั้ง ช่วยแนวรับเคลียร์จังหวะอันตรายหยุดเกมรุกของเกาหลีเหนือได้หลายครั้ง
พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 6 : ถูกเกาหลีเหนือ เจาะในช่วงต้นเกม แต่ก็ยังไม่มีข้อผิดพลาด แม้จะถูกดดัน หุบเข้าไปช่วยเซนเตอร์ดักบอลได้ แต่ยังมีการประสานงานกับธีราทร ที่ไม่เข้าใจให้เห็นบ้าง แต่เริ่มปรับเกมของตัวเองได้ดีขึ้นครึ่งหลังเกมเติมได้มากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นคนจ่ายให้ ฐิติพันธ์ ยิงประตูที่สอง
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 9 : เป็นที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นเกม วิ่งไล่ตัดบอลในแดนกลางของ เกาหลีเหนือ ได้สวยๆหลายครั้ง มีส่วนกับเกมในแดนกลางของไทยอยู่ตลอด บอลอยู่ที่ไหน เขาก็จะอยู่ที่นั่น และยังเติมขึ้นไปพังประตูที่สองให้ทีม รวมไปถึงเรียกจุดโทษเป็นประตูปิดท้ายให้ทีมได้อีกด้วย
ธนบูรณ์ เกษารัตน์ 7 : เป็นคนคอยช่วยคุมจังหวะในแดนกลาง ไม่ฉายแววโดดเด่นมากนัก เพราะคอยไล่บอลและเชื่อมเกม พยายามออกบอลง่ายๆ เล่นได้ตามมาตรฐานไม่แสดงความผิดพลาดให้เห็น แต่ก็ไม่ได้ฉายแววโดดเด่นมาก
มงคล ทศไกร 7 : ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมมากนักในช่วงต้นเกม แทบจะไม่โดนบอลเลย แต่ก็โผล่มาในจังหวะพังสกอร์ให้ทีมชาติไทย จากจังหวะเกี่ยวบอลแล้วหมุนตัวยิงอย่างเฉียบขาด แต่ก็หายไปอีกครั้งในช่วงครึ่งหลัง
สรรวัชญ์ เดชมิตร 7 : มีบทบาทพอสมควรกับเกมรุกของทีมในช่วงต้นเกม แต่จังหวะออกบอลยังไม่เฉียบคมพอในบ้างจังหวะ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงไหวพริบ จากจังหวะที่เล่นฟรีคิกเร็วจนไทยได้ประตูออกนำ และยังมีส่วนกับเกมรุกของทีมหลายจังหวะครึ่งหลังแยวรับเกา
ธีราทร บุญมาทัน 7 : ถูกดันให้เล่นในตำแหน่งตัวรุกทางซ้าย ช่วงแรกยังต้องปรับจังหวะการเล่นของตัวเองอยู่ แต่ค่อยๆ เล่นได้เนียนตาขึ้นเรื่อยๆ ครึ่งหลังวิ่งเชื่อมเกมไปทั่วสนาม และมีบทบาทกับเกมมากขึ้นเรื่อยๆ
อดิศักดิ์ ไกรษร 6 : ถูกวางบทบาทให้เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า ช่วยทีมเก็บบอลได้ดี ในหลายครั้ง แต่บางครั้งขยับออกมารับบทนอกพื้นที่มากเกินไป และถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในช่วงแรก แทบจะไม่มีจังหวะสั่นสกอร์เลย จนถูกถอดออก
ตัวสำรอง
สิโรจน์ ฉัตรทอง 6 : ถูกส่งลงไปเล่นในครึ่งหลังแทนที่ของ อดิศักดิ์ ไกรษร ใช้พลังและความเร็วที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง ป่วนแนวรับของ เกาหลีเหนือได้ดี แต่น่าที่จะช่วยให้ทีมทำประตูเพิ่มได้ จากจังหวะจ่าย หรือลากไปยิงเอง
ฟิลิป โรลเลอร์ 6 :ถูกส่งลงมาแทนที่อดิศร พรหมรักษ์ แต่ยังไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก
ธีรเทพ วิโนทัย 7 : ได้ลงมาเล่นแทน สรรวัชญ์ เดชมิตร ในครึ่งหลังการสัมผัสบอลไม่กี่ครั้งก็ช่วยให้ทีมได้ประตู จากจังหวะจ่ายทะลุช่องให้ ฐิติพันธ์ หลุดเข้าไปเรียกจุดโทษ และยิงได้เฉียบขาดให้ไทยปิดกล่องคว้าชัยไปได้สวยงาม