ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผู้จัดการทีมราชบุรี มิตรผล เอฟซี ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอโทษชลบุรี เอฟซี กับเหตุการณ์วุ่นวายในเกมสุดสัปดาห์ และขอรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม
เหตุการณ์วุ่นวายในเกมที่ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เปิดบ้านเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 5-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในช่วงพักครึ่งเมื่อ ติอาโก้ คุนญ่า ไปสาดน้ำใส่ ธนวัชร์ นิติกาญจนา ผู้จัดการทีมราชบุรี ในขณะกำลังเดินเข้าห้องแต่งตัว ก่อนที่เสี่ยฟลุคจะตบเข้าที่หน้าของ คุนญ่า และการ์ดเข้ามาสาวหมัดจนจมูกแตก โดยก่อนเริ่มครึ่งหลัง ผู้ตัดสินให้ใบแดง คุนญา ไล่ออกจากสนาม และ ไล่นายใหญ่ราชันมังกรขึ้นไปบนอัฒจันทร์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ธนวัชร์ นิติกาญจนา ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่ออธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อหน้าสื่อมวลชล ณ โรงแรม มาริออต สุขุมวิท 44 พร้อมด้วย โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้อำนวยการสโมสร
โดยผู้จัดการราชันมังกรแจงเหตุผลว่า “ครึ่งเวลาแรกเรานำ 3-0 ในเชิงของฟุตบอลมันไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี แต่พอหมดครึ่งแรกหมายเลข 37 ของชลบุรีเข้าไปกดดันผู้ตัดสินซึ่งนี่คือเรื่องปกติของวงการฟุตบอลพอเห็นเป็นเช่นนั้นผมจึงเข้าไปกดดันผู้ตัดสินเพื่อทีมของผมเช่นกัน โดยสิ่งที่เกิดขึ้นต่างฝ่ายต่างคุยกับผู้ตัดสิน ไม่มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างผมกับผู้เล่นของชลบุรี”
“แต่ขณะที่ผมคุยกับผู้ตัดสินอยู่ก็มีน้ำสาดเข้ามาบริเวณไหล่และช่วงลำตัว ด้วยวินาทีนั้นด้วยอารมณ์หลังจากครึ่งแรกและต่อหน้าแฟนบอล 4000 คน เป็นวินาทีที่เกิดขึ้นเร็วมาก จากนั้นผมจึงไปตบหัว จากนั้นผมก็บอกว่า คุณทำอะไร? วินาทีนั้นเขาก็สวนเข้ามาด้วยขวดที่บริเวณใบหน้า แต่พอได้ดูคลิปก็ได้เห็นการ์ดเข้ามา การ์ดมีหน้าหน้าที่ต้องปกป้องความปลอดภัยของทุกคน แต่สิ่งที่การ์ดทำผิดคือการทำเกินกว่าเหตุ การ์ดควรจะแยกทั้ง 2 คนออกไปมากกว่าการไปทำให้ผู้เล่นของชลบุรีบาดเจ็บ แต่ถ้าการ์ดไม่เข้ามาในวินาทีหลังจากผมก็ไม่มั่นใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นเช่นกัน ในส่วนในเกิดขึ้นในซุ้มม้านั่งสำรองไม่ว่าจะเป็นการชกและวิ่งหนีกันไม่ใช้ประเด็นที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้”
“ผมก็เป็นคนๆหนึ่งถ้าผมไปด่าทอใครก่อนแล้วผมถูกกระทำกับอันนี้มันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง … แต่ถ้าผมอยู่ของผมไม่มีอะไรกับใครแล้วคนมาทำผมเนี่ย โอเคมันผิดที่ผมคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ผมอยู่ในสนามตัวเองและต่อหน้าแฟนบอลผมก็ได้กลับมานอนคิดว่าผมควรจะทำยังไงดีมันใช่เหรอ…ผมก็ไม่มั่นใจว่าผมจะสามารถยืนเฉยๆได้แล้วก็ปล่อยให้เขาสาดน้ำใส่ผม”
“ผมไม่สามารถอยู่เฉยได้หลังจากที่เขาสาดน้ำ แต่เมื่อผมเป็นผู้จัดการทีมเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นและผมควรจะยอม นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงมาแถลงข่าว นั่นก็เพราะผมรู้สึกผิดที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ประสบการณ์ 8 ปีที่ผ่านมาของผมทำให้ผมควรจะทำได้ดีกว่านี้”
“ผมขอลดบทบาทตัวเองลงและจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเทคนิคโซนอีก หลายคนเห็นผมเข้ามาทำทีมฟุตบอลตั้งแต่อายุ 25 บางคนก็เชื่อมั่นในตัวผมบ้างบางคนก็ไม่เชื่อ วันนี้ผมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผมรักฟุตบอลจริงๆ วันนี้ที่ผม Give Up ให้กับสิ่งที่ผมทำลงไปเพื่อต้องการรับผิดชอบกับสิ่งที่ผมทำ ผมว่าผมได้แสดงสปิริต”
“ราชบุรี เอฟซี จนถึง ราชบุรี มิตรผล ก็เหมือนกับลูกของผม ผมทำตั้งแต่คว้าแชมป์ดี 1 หนีตกชั้นในพรีเมียร์ลีก จบในอันดับที่ 4 และคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ร่วมในปีที่แล้ว และวันนี้ผมมีนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ 3 คน U23 3 คน สิ่งที่ผมต้องการคือพัฒนาฟุตบอลไทย แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นทำให้มีเสียงวิจารณ์มาถึงวงการฟุตบอลไทยที่ผมอาศัยอยู่ผมจึงขอรับผิดชอบด้วยการลดบทบาทของตัวเองลง จะไม่ลงไปยุ่งตรงนั้นแม้จะเป็นสิ่งที่ผมรักที่สุดในชีวิตก็ตาม”
“สุดท้ายผมอยากจะขอโทษทางผู้บริหารชลบุรีสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยในฟุตบอลไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมเกมนั้น ผมขอขอบคุณแฟนชลบุรีที่เดินทางมาเชียร์ที่ถึงแม้ว่าเกมจะมีปัญหาใน 45 นาทีแรก แต่หลังจากนั้นต่างฝ่ายก็มีสปิริต มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเร็วมากภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที แต่เมื่อมันก็เกิดขึ้นแล้วผมจึงต้องการรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ”
“ส่วนเรื่องของเฟซบุ๊คที่ผมได้โพสต์ลงไปในตอนนั้น เพราะหลังจากที่เกิดขึ้นผู้เล่นของชลบุรีโดนใบแดง ผมจึงคิดว่าผมโดนใบแดงด้วย เราจึงได้คุยกันในห้องแต่งตัวของชลบุรีโดยที่อารมณ์เย็นลงแล้ว ผมเข้าใจเขาเพราะว่ามันเป็นอารมณ์ชั่ววูบเพียงเสี้ยววินาทีอะไรก็เกิดขึ้นได้ เจตนาของผมคือไม่อยากให้เป็นใบแดง”
“สุดท้ายขอฝากถึงแฟนบอลราชันมันกรว่า วันนี้ผมอาจจะไมได้อยู่ข้างสนามและเป็นผู้จัดการทีมราชบุรีอีกต่อไป แต่ก็จะมีคุณ โรเบิร์ต เข้ามาทำหน้าที่แทนผมซึ่งผมไว้ใจเขา วันนี้ผมยอมปล่อย ราชบุรี ที่เป็นเหมือนลูกของผมให้เขาดูแลนั่นแสดงว่าผมมั่นใจว่าเขาจะนำทีมนี้เดินหน้าต่อไปได้” เสี่ยฟลุ๊คปิดท้าย