เกือบหนึ่งสัปดาห์ของชีวิตในฮอกไกโด เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องอากาศหนาวเย็นได้หอบเอาลมหนาวเข้ามาทักทายพร้อมกับสายฝนที่โปรยปราย
แม้ว่าจะเป็นวันอาทิตย์ และทีมมีแข่งขันในช่วงค่ำแต่ว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังคงปักหลักลงฝึกซ้อมกับทีมต่อไป ที่สนามซ้อม มิยาโนะซาวะ สเตเดียม ของทีมเช่นเคย ร่วมกับนักเตะที่ไม่ได้เดินทางไปกับทีม ท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นที่สุดนับตั้งแต่เริ่มฝึกซ้อมมา ซึ่งในหน้าหนาวอากาศจะหนาวกว่านี้อีก แต่ทีมจะย้ายไปซ้อมในสนามที่มีโดม เพราะอากาศในช่วงหน้าหนาวอากาศเลวร้ายถึงติดลบ และมีหิมะตกลงมาด้วย
หลังการฝึกซ้อมช่วงเย็นที่ทีมมีเกมการแข่งขันในเกมที่จะต้องออกไปเยือน คาชิวา เรย์โซล ที่ตอนนี้กำลังนำเป็นจ่าฝูง ส่วนคอนซาโดเล ซัปโปโร สถานการณ์เริ่มที่จะล่อแหลมเพราะว่าหล่นลงมาอยู่เหนือโซนตกชั้นหลังจากที่พ่ายมา 5 เกมติด หากว่าแพ้อีก และทีมที่อยู่อันดับต่ำกว่า จะหล่นลงมาอยู่โซนตกชั้นทันที เพราะแต้มไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก
แต่ก่อนจะถึงช่วงเย็น ที่ฟุตบอลจะแข่งขันเวลา 1 ทุ่มของประเทศญี่ปุ่น ยังพอมีเวลาอีกนิดหน่อย เลยได้เข้าไปเดินในห้างสรรพสินค้าในซัปโปโร ซึ่งขนาด และร้านค้าต่างๆ ก็ไม่หนีจากบ้านเรามาก แต่สิ่งที่แตกต่างไปเห็นจะเป็น เด็กเล็กๆที่ทุกบ้านพร้อมใจกันพาออกมาข้างนอก เหมือนวันอาทิตย์เป็นวันครอบครัวของที่นี่เหมือนกันก็ดูอบอุ่นไปอีกแบบ ส่วนพ่อแม่นั้นก็ยังหนุ่มยังสาวกันส่วนใหญ่
เมื่อมีเวลาเยอะ เลยเดินเตร็ดเตร่ไปแบบไม่ค่อยมีจุดหมายนัก และผมได้ไปสะดุดตากับร้านขายสัตว์เลี้ยงในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งราคาแพงเอาเรื่อง เหมือนกัน เมื่อลูกสุนัขหนึ่งตัว ราคาประมาณ 200,000 เยน หรือราวๆ 6 หมื่นบาทไทย ซึ่งเงินจำนวนเท่านี้ในญี่ปุ่นสามารถซื้อรถเก๋งมือสองสภาพเยี่ยมมาใช้งานได้เลยทีเดียว
ใกล้ได้เวลาที่ฟุตบอลจะคิกออฟ ลืมไป..คนญี่ปุ่น ไม่ได้เรียกฟุตบอลแบบที่บ้านเรา แต่เขาเรียกซอคเกอร์ แต่ออกเสียงเพี้ยนไปเป็น “ซักกา” (サッカ) และเรียกคนที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นฟุตบอลว่า “ซักกา บากะ” (サッカ-バカ) ผมก็เดินทางไปยังผับที่จองเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ เพื่อชมเกม
ซึ่งผับที่ว่าอยู่ในย่าน ซูซูกิโนะ ที่เรียกได้ว่าคึกคักที่สุดในซัปโปโร และมีขนาดไม่ใหญ่นัก ผมไปถึงก่อนเกมราวๆ ครึ่งชั่วโมงมีคนแค่ครึ่งร้าน แต่เมื่อเงยหน้ามาอีกที คนก็เต็มร้านซึ่งทั้งหมดเป็นกองเชียร์คอนซาโดเล ซัปโปโร ดูจากเสื้อก็รู้ ทำให้ร้านที่ดูเล็กไปแล้ว เล็กลงไปอีกถนัดตา แต่ก็แทนที่ด้วยบรรยากาศที่คึกคักเข้ามาแทน และทุกคนไม่ได้แค่ดูกันเฉยๆ แต่มีร้องเพลงเชียร์ ประหนึ่งว่าอยู่ในสนาม ยิ่งตอนที่ทีมยิงได้ ดีใจกันแบบไม่รู้ใครเป็นใครเลยทีเดียว
จะว่าไปเกมนี้เป็นเกมที่ผมได้เห็นการเล่นของ คอนซาโดเล ซัปโปโร อย่างจริงจัง ซึ่ง กุนซืออย่าง ชูเฮ โยโมดะ ใช้แผนการเล่น 3-5-2 และเมื่อมองถึงตำแหน่ง ที่ชนาธิป จะเบียดลงตัวจริงได้ก็น่าจะเป็นแค่ตำแหน่ง กองกลางตัวรุกของ ชินโงะ เฮียวโด นักเตะที่ย้ายมาจาก โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เมื่อฤดูกาลก่อน และโจนาธาน เรส ดาวเตะชาวบราซิลที่เล่นตำแหน่งกองหน้า เคียงข้างกับ เคน โทคุระ เท่านั้นหากว่ากุนซือยังยึดแผนนี้อยู่ ครั้นจะลุ้นตำแหน่งริมเส้นที่ใช้งานวิงแบ็กนั้น น่าจะยาก และไม่เกิดประโยชน์ทั้งตัวของ ชนาธิป เองและทีม เพราะต้องเล่นเกมรับค่อนข้างเยอะ
ว่ากันที่บรรยากาศ การชมฟุตบอลในผับของญี่ปุ่น คึกคักแบบสุดๆ เหมือนเชียร์ที่สนาม แต่ติดตรงที่ การถ่ายทอดสดฟุตบอลของญี่ปุ่นนั้น ลิขสิทธิ์ถูกขายไปให้กับ dazn.com ทำให้การถ่ายทอดสดฟุตบอลทั้งหมดตั้งแต่เจลีก 1 ไปถึง เจลีก 3 ย้ายไปอยู่บนอินเตอร์เนท โดยไม่มีการถ่ายทอดทางทีวี และบางครั้งสัญญาณก็สะดุด หรือดับไปดื้อๆระหว่างถ่ายทอดทำเอาเสียอารมณ์ไม่น้อย ซึ่งตรงนี้ คนไทยถือว่าโชคดีที่ได้ดูฟุตบอลเจลีก ผ่านโทรทัศน์ เมื่อผู้ให้บริการรายใหญ่ทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ ไปเรียบร้อยแล้ว และได้ถ่ายทอดสดไปบ้างแล้ว และเมื่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีโอกาส แฟนบอลที่ไทยจะได้ชมแบบสะดวกกว่าคนญี่ปุ่นแน่นอน
ระหว่างพักครึ่งการถ่ายทอดสดฟุตบอลเจลีก มีการสัมภาษณ์กุนซือทั้งสองฝั่งด้วย ถึงรูปเกมในครึ่งแรก และสิ่งที่จะทำในครึ่งหลัง ถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่ทีเดียว
ผมมีโอกาสได้คุยกับแฟนบอลญี่ปุ่นผ่านล่าม เมื่อรู้ว่าผมมาจากเมืองไทย เพื่อติดตามข่าวการย้ายทีม ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากจะเห็นฝีเท้าของดาวเตะจากไทย รายนี้ลงเล่นให้ทีมเร็วๆ และพร้อมที่จะเอาใจช่วยอยู่
จบเกม เป็น คาชิวา เรย์โซล ที่เอาชนะไป 2-1 ทำให้ ยังรักษาสถานการณ์จ่าฝูงต่อไปได้ ส่วนคอนซาโดเล ที่แพ้ 6 นัดติดหล่นลงไปอยู่ในโซนสีแดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเลกสองน่าจะเป็นงานหนักของทั้งทีมที่จะต้องต่อสู้เพื่ออยู่รอด
ส่วนผมก็มีโอกาสได้ลาดตระเวนชมผ่านแสงสีของซูซูกิโนะ ที่คึกคักไปด้วยร้านต่างๆมากมายทั้งร้านอาหาร, คาราโอเกะ, ผับ, บาร์, ปาจิงโกะ ท่ามกลางป้ายโฆษณาที่เต็มไปด้วยสาวๆ สวยๆ ทั้งคอลเพลย์ และ บันนี่เกิร์ล ซึ่งผมและทีมงานเลือกที่จะเข้าไปชมร้าน “เกม บาร์” ที่หน้าตาเหมือนบาร์ธรรมดา แต่มีวิดีโอเกมทุกอย่างให้บริการ ซึ่งเราสามารถเลือกได้และพนักงานจะนำเอาเกมมาเสิร์ฟให้ได้เล่นกัน
แน่นอนว่า “ซักกา บักก้า” แบบเราเลือกดวลฝีเท้าในเกม ฟีฟ่า และเมื่อเล่นกันไปได้พอหอมปากหอมคอก่อนจะติดลมกว่านี้ เราก็ต้องรีบไปขึ้นรถไฟกลับบ้านก่อนจะถึงเที่ยวสุดท้าย เป็นอันว่าจบทริปวันนี้ แบบแฮปปี้ ก่อนที่จะต้องเตรียมตัว ติดตาม การฝึกซ้อมของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จะลงซ้อมในช่วงบ่ายโมงของวันจันทร์กันต่อไป ซึ่งทุกท่านสามารถติดตามผ่านทาง Football Tribe ได้เช่นเดิม