4-2-3-1
เป็นแผนที่ โค้ชแบนใช้มาเกือบจะตลอด ในเลกแรกจนพาทีม กิเลนผยองมายืนที่หัวตารางได้ และทำผลงานได้น่าประทับใจในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งแผนนี้ ระบบการเล่น และ การยืนตำแหน่งจะเหมือนเดิม ต่างกันแค่เพียงคนที่จะลงไปยืนที่มีการเปลี่ยนแปลงทดแทนนักเตะที่ขาดหายไป รวมไปถึงการบริหารจัดการโควตาของนักเตะต่างชาติในทีม เมื่อมีจำนวนนักเตะกลับมาครบ 5 คนอีกครั้ง หลังจากที่ในเลกแรกต้องเล่นด้วยนักเตะต่างชาติเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น
ในระบบนี้แนวรับแทบจะเป็นหน้าเดิม และรูปแบบเดิม หากแต่ว่าอาจจะไม่สามารถส่งคู่เซนเตอร์ต่างชาติลงสนามพร้อมกันได้ หากว่าต้องการที่จะใช้โควตานักเตะต่างชาติในแนวรุก และแดนกลาง ผู้รักษาประตูมือหนึ่งยังเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ชั่วโมงนี้คงหาใครมาเบียดได้ยาก แนวรับ ตำแหน่งแบ็กขวายังเป็น ทริสตอง โด และ แบ็กซ้ายเป็น ธีราทร บุญมาทัน ส่วนในตำแหน่ง คู่เซนเตอร์ เซลิโอ ซานโต๊ส กับ นาโออากิ อาโอยามะ อาจจะต้องเปลี่ยนจาก คู่หูมาเป็นคู่แข่งในการเบียดแย่งตำแหน่งกัน เพื่อลงสนามเคียงข้าง อดิศร พรหมรักษ์
ส่วนในตำแหน่งแดนกลาง หลังจากที่ทีมเพิ่ม ประกิต ดีพร้อม กับ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร เข้ามาทำให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น และอาจจะได้สารัช อยู่เย็น ที่กำลังเรียกความฟิตกลับมาช่วยในช่วงปลายเลกก็เป็นได้ แต่ตำแหน่งตัวจริง น่าจะเป็นของ อี โฮ ห้องเครื่องมากประสบการณ์ จับคู่กับ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร โดยมี วัฒนา พลายนุ่ม และ ประกิต ดีพร้อม รวมไปถึง รัชพล นาวันโน คอยสอดแทรก
ส่วนแนวรุกสามคน เลอันโดร อัสซัมเซา จะยืนทำเกมอยู่ทางขวา โดยที่สามารถสลับตำแหน่งกับ สิโรจน์ ฉัตรทอง ที่จะอยู่ทางซ้ายได้ตลอด และหน้าต่ำ หรือกองกลางตัวรุกเป็น เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดส ที่จะได้กลับมาเล่นในตำแหน่งถนัดอีกครั้ง ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา จะได้กลับไปยืนตำแหน่งถนัดอีกครั้งคือกองหน้าตัวเป้า