เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เปิดใจครั้งแรกหลังจากที่ต่อสัญญากับสมาคมฟุตบอลออกไปอีก 1 ปีโดยยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องข้อเสนอ และที่ผ่านมาได้ออกไปชมเกมฟุตบอลเพื่อเลือกนักเตะเข้าทีมตลอด
ภายหลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลได้บรรลุข้กตกลงในการต่อสัญญากับ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ออกไปอีก 1 ปีซึ่งหลังจากที่มีการเซ็นสัญญาเรียบร้อยซิโก้ได้เปิดใจเป็นครั้งแรกว่า
“จริงๆต้องเรียนพี่ๆสื่อมวลชน อย่างที่บอกพี่โก้กับนายกคุยกันตลอด เพียงแต่อยู่ในขั้นตอนที่เราคุยรายละเอียดกัน เป็นแค่ฝ่ายกฏหมายโต้กันไปมาเฉยๆ ส่วนท่านนายกจะไปต่างประเทศเลยอยากให้เซ็นสัญญาให้เรียบร้อย แค่นั้นเอง” ซิโก้กล่าวเริ่ม
“พี่โก้เตรียมงานทีมชาติมาตลอด ฉะนั้นสิ่งที่พี่โก้คุยวันนี้มันเป็นรายละเอียดอยากให้พี่โก้ช่วยทำงาน เช่นการวางแผนทีมชาติ วางแผนทำงานเยาวชนร่วมกัน ถึงแม้ว่าจะมีฝ่ายดูแลเยาวชนจากสเปนมา ซึ่งพี่โก้เองต้องลงไปช่วยด้วย รุ่น 14 ปี รุ่น 16 ปีอะไรก็แล้วแต่ ยังไม่ได้ลงรายละเอียด แต่ปี 2026 เราต้องไปถึงตรงนี้ (ฟุตบอลโลก) นั่นเป็นสิ่งที่เราคุยกัน”
“ส่วนเรื่องระยะเวลา 1 ปี ก็ไม่ใช่ปัญหา ร่างของสัญญาสมาคมเป็นคนนำเสนอ พี่โก้ก็เป็นคนดูแค่นั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวเรื่องอื่นเลย ไม่ได้เกี่ยวเรื่องค่าจ้างได้เท่าไหร่ หรือเสียภาษีหรือไม่เสียภาษี ทุกคนในเมืองไทยต้องเสียภาษี อย่าเอาประเด็นพี่โก้ไม่ยอมเสียภาษีมา มันไม่ใช่ ฉะนั้นวันนี้มันขึ้นอยู่กับว่าเรื่องภาษีทุกคนที่เป็นคนไทยต้องจ่ายภาษีกันอยู่แล้ว นอกจากว่าบริษัทไหนที่ไม่จ่ายบ้าง คงไม่มี ฉะนั้นฝ่ายกฏหมายรวมถึงบัญชีของสมาคมก็ต้องดูแลเรื่องนี้เช่นเดียวกับพี่โก้ ที่มีคนดูแลเรื่องภาษีให้ ฉะนั้นพี่โก้อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าที่เราคุยกันเป็นขั้นตอนรายละเอียด ผมเข้าใจว่าทุกคนเร่ง พี่โก้ก็เรียนนายกไปว่าครั้งที่แล้วพี่โก้ทำงานไป 2-3 เดือนก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญากัน ก็ยังทำมาได้ ฉะนั้นวันนี้ท่านนายกไม่สบายใจใช้เสียงไม่ได้ พี่โก้อยากให้ทุกคนสบายใจโฟกัสช่วยกันว่าจะทำยังไงให้มีแต้มจากซาอุ ญี่ปุ่นได้ อยากให้ทุกคนโฟกัสกับตรงนี้”
“ฉะนั้นวันนี้ก็ถือว่าทุกคนต้องเตรียมตัวทั้งนักบอลเอง ส่วนพี่โก้ก็ต้องเตรียมว่าใครจะเป็น 11 คนแรกใครเป็น 23 คน ฉะนั้นผมเองก็ขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนที่ให้ข้อมูล รวมถึงเพื่อนโค้ชหลายสโมสรก็พยายามส่งข้อมูลมา มีใครที่นักเตะหน้าใหม่โชว์ฟอร์มดี”
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงประเด็นในการออกไปชมเกมเพื่อเลือกตัวนักเตะเข้าสู่ทีมว่า
“แต่ผมก็เรียนท่านนายกว่าถ้าผมไม่ได้ไปดูบอล ผมก็คงไม่มีนักเตะ30คน บางคนอาจไม่รู้ บางคนไม่ได้บอกก่อนไปเคาะหลังบ้าน ก่อนหน้านี้ผมไปเคาะหลังบ้านมีใครรู้ไหมครับว่าผมไปขอนักเตะจากบุรีรัมย์ ผมไปขอชลบุรี ผมไปขอเมืองทอง ผมไปขอจากทุกสโมสรมีใครรู้ไหมครับ ไม่มีใครรู้ ก็ผมไม่ได้อยากไปโชว์หน้าโชว์ต่อว่าผมมาทำงานนี้นะ ฉะนั้นการทำงานของสตฟาฟ์โค้ชผมก็แบ่งให้ทุกคนไปดูว่า วันนี้เชียงรายเตะ สุพรรณบุรีเตะ ผมไปผมไปได้ แต่ผมไม่อยากไปยืนถ่ายรูปเซลฟี่แจกลายเซ็น 30-40 นาทีผมไม่ได้ดูเกมเลยก็มีถูกไหมครับฉะนั้นให้ผมทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดหลายคนอาจไม่เห็นหน้าผมแต่ผมดูบอลมากกว่าคนที่บอกมาด้วยถ้าผมไม่ไปดูผมจะได้ปีโป้มาไหมผมจะไปดูไทยลีกอย่างเดียวหรอก็ไม่ใช่หรือนักเตะที่บาดเจ็บตัวอย่างชัปปุยส์เขาเจ็บมาปีกว่าผมก็เห็นเขากลับมายังไม่ร้อยผมถามเขาพร้อมหรือยังคนที่หายเจ็บกลับมาถ้าไปถามก็บอกอยากติดทุกคนแหละคับหายไม่ร้อยก็อยากติดถ้าผมเอามาแล้วไม่สมบูรณ์ไม่เต็มที่สโมสรก็ด่าผมเองคราวที่แล้วคุณท็อปก็โกรธว่าผมจะเอานักบอลกลับมาทั้งที่ไม่ร้อยหรอแต่พอคุยกันก็เกิดความเชื่อมั่นกันมากขึ้นรวมถึงหลายๆสโมสรผมก็พยายามไปเทสต์นักเตะด้วยนะแต่ผมไม่ได้บอกพี่ๆนักข่าวแต่ต้องทำเพราะต้องดูว่าหายเจ็บมาแล้วเต็มร้อยหรือเปล่าเขาหายเจ็บกลับมาก็จริงแต่ผมต้องมั่นใจก่อนแล้วก็ไปขอสโมสรว่าปล่อยหรือไม่
“ฉะนั้นต้องเรียนว่าผมไม่ใช่คนคอนโทรลนักเตะ ไม่ใช่เจ้าของไม่สามารถเอาใครมาได้ถ้าสโมสรไม่ปล่อย ฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าผมทำงานด้วยการเชื่อมโค้ชและประธานสโมสรทุกคนในลีก ฉะนั้นวันนี้เราอยากได้นักเตะสมบูรณ์ไหมครับ สำหรับคนที่จะถามผม ผมตอบได้เลยว่านักเตะของเราอายุ 23 24 25 ปี ผมปั้นมาใช้งาน 10 ปี ตราบใดที่เข้าใช้งานได้อยู่เราก็ใช้ ผมรู้ว่าทุกคนอยากเห็นเหมือนปีโป้ แต่สักร้อยคนหาให้หน่อย ฉะนั้นผมก็พยายามบอกว่านักเตะที่หน้าใหม่มาให้ทุกคนคิดไว้ในใจว่าวันที่ 13 เราเรียกตัว แต่จะสมบูรณ์ไหม คงไม่ เพราะมีหลายคนต้องไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก แล้วมีเวลา 5 วัน ถ้าเอานักเตะหน้าใหม่มา ถ้าไม่ชนะมา ใครรับผิดชอบครับ ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยพี่โก้คิดด้วยว่า ไม่ใช่อยู่ดีๆอยากนำเสนอว่าต้องเอาคนนี้มาเล่น แต่ต้องคิดด้วยว่า 5 วันจะสามารถเล่นด้วยกับพวกที่อยู่ 3-4 ปีหรือไม่ การหาน้ำใหม่จะให้ลง 11 ตัวแรกเลยไหม ถ้าพวกเราเป็นนักกีฬาคงรู้ว่าต้องทำยังไง“
“วันนี้ต้องขอบคุณพวกเราผมก็ตกใจมาเยอะมากเลย ด้วยความสบายใจจริงๆผมคุยกับนายกตลอด เพียงแต่ตกใจช่วงเสาร์ อาทิตย์ไปปั่นจักรยานแล้วก็อยู่ดีๆมีคนมาถามว่ารู้สึกยังไงเกี่ยวกับเพจที่ขึ้น ผมก็ไม่รู้จริงๆว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนี้ ก็ให้คิดว่าที่เกิดขึ้นเป็นบรรยากาศฟุตบอลไทยละกัน ท่านนายกอาจอยากให้ทุกคนไปร่วมงานเปิดตัววอริกซ์ อยากให้นักข่าวไปร่วมงานเยอะๆ และเจอหน้าวันนี้อีก ก็ไม่มีอะไรนะ”