ยุโรป พรีเมียร์ลีก

11 ตัวจริงนัดประเดิมคุมทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอนนี้อยู่ไหมกันบ้าง?

8 ตุลาคม 2015 เจอร์เก้น คล็อปป์ ตอบรับงาน ลิเวอร์พูล แทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก่อนจะประเดิมคุมทัพนัดแรกในเกมบุกเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ณ สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน

ผลการแข่งขันจบลงด้วยผลเสมอกัน 0-0 ในเกมที่สูสี แต่เพื่อนๆ จำได้ไหมว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงวันนั้นมีใครบ้าง และปัจจุบันทำอะไรกันอยู่?

ซิมง มินโญเลต์ - คลับ บรูช

มินโญเลต์ เฝ้าเสาให้ ลิเวอร์พูล กว่า 202 เกมก่อนที่ คล็อปป์ จะซื้อ อลิสซอน เบ็คเกอร์ จอมเซฟทีมชาติบราซิลมาเสียบแทนที่ในตำแหน่งมือหนึ่ง ลดบทบาทโกลทีมชาติเบลเยียมในฤดูกาล 18/19 เหลือแค่เพียงฟุตบอลถ้วยในประเทศซึ่ง มินโญเลต์ ก็ได้โอกาสลงสนามเพิ่มอีกเพียง 2 เกมเท่านั้น บีบให้สุดท้ายต้องเก็บข้าวของกลับไปเล่นในลีกสูงสุดของ เบลเยียม กับสโมสร คลับ บรูช เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

นาธาเนียล ไคลน์ - ลิเวอร์พูล

ฟอร์มที่ดีวันดีคืนของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทิ้งอดีตแบ็คขวาตัวจริงอย่าง นาธาเนียล ไคลน์ ไว้ข้างหลังแบบไม่เห็นฝุ่น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อยเพราะหากยังจำกันได้ ไคลน์ มีดีกรีเป็นแข้งทีมชาติอังกฤษ เบียดตำแหน่งตัวจริงกับ ไคล์ วอล์คเกอร์

ในวันที่ คล็อปป์ เข้ามารับงานต่อจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แบ็คขวาจาก ลอนดอน ถือเป็นความมั่นคงและแน่นอนเดียวในแผงหลังที่กระท่อนกระแท่น มีรูรั่วแทบทุกจุด

ไคล์ ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2016/17 ที่เขาช่วยทีมรักษาคลีนชีตได้ทั้งในทั้ง 4 เกม เก็บได้ 10 คะแนน เป็นแรงผลักสุดท้ายให้ ลิเวอร์พูล ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 8 ปี

แต่แล้วความโชคร้ายก็มาถึงเมื่ออาการบาดเจ็บของ ไคล์ เริ่มออกฤทธิ์ ทำให้เขาอดลงสนามแรมเดือน มิหนำซ้ำอาการตั้งกล่าวยังเกิดขึ้นเพราะเขาฝืนเล่น ช่วยสโมสรโค้งสุดท้ายฤดูกาลก่อน

อาการบาดเจ็บเล่นงาน ไคล์ ซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอด 3 ฤดูกาล และกำลังจะกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในวัย 29 ปีเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้

มาร์ติน สเคอร์เทล - อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์

แม้เขาจะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ สเคอร์เทล ก็ยังตัดสินใจปิดฉาก 8 ปีครึ่งในรัง แอนฟิลด์ เพื่อไปหาความท้าทายใหม่กับ เฟเนบาเช่ ในลีก ตุรกี โดยกองหลังสโลวาเกีย พูดถึง คล็อปป์ ผ่าน The Express ว่า "เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นคนดี แต่ผมกลัวว่าถ้าผมยังอยู่กับทีมต่อไม่ ผมอาจไม่สามารถรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้"

ปัจจุบันแข้งวัย 35 ปี ผู้รับใช้ ลิเวอร์พูล ในทุกรายการกว่า 242 นัด เล่นอยู่กับ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ในลีก ตุรกี

มามาดู ซาโก้ - คริสตัล พาเลซ

อดีตกัปตันทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชน และเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม 'เมืองน้ำหอม' ซีซั่น 2010/11 ออกสตาร์ทตัวจริง และยึดตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คในทีมของ คล็อปป์ ตลอดฤดูกาล 2015/16

ทว่า ซาโก้ มีปัญหาระเบียบวินัยพอตัว เขามาซ้อม มาประชุมทีมสายเป็นประจำ จน คล็อปป์ หมดความอดทนกับ ซาโก้ ในช่วงปรีซีซั่นก่อนฤดูกาล 2016/17 ถึงขั้นที่ส่ง ซาโก้ ขึ้นเครื่องบินตรงออกจากแคมป์เก็บตัวที่ สหรัฐอเมริกา กลับไปซ้อมกับทีมชุดสำรองที่ อังกฤษ

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนตลาดซื้อขายนักเตะฤดูกาล 2016/17 ปิดลง ซาโก้ ตกลงย้ายไปร่วมทีม คริสตัล พาเลซ ด้วยสัญญายืมตัว โดยปัจจุบันกองหลังจอมแกร่งเป็นกลายนักเตะ "ราชวังเรือนแก้ว" เต็มตัวแล้ว

อัลแบร์โต้ โมเรโน่ - บียาร์เรอัล

ฤดูกาล 2015/16 แบ็คซ้ายจอมบู๊ลงสนามให้ คล็อปป์ กว่า 40 เกม อย่างไรก็ตามจุดอ่อนด้านเกมรับ และข้อผิดความซึ่งส่งผลให้ทีมเสียประตูบ่อยๆ ทำให้ฤดูกาล 2016/17 โมเรโน่ เสียตำแหน่งตัวจริงให้ เจมส์ มิลเนอร์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในฤดูกาล 2016/17

โมเรโน่ เล่นให้ ลิเวอร์พูล เพียง 5 นัดตลอดฤดูกาล 2018/19 สุดท้ายถูกปล่อยออกจากทีมฟรีๆ และปัจจุบันเล่นให้กับ บียาร์เรอัล ใน ลาลีกา สเปน

ลูคัส เลว่า - ลาซิโอ้

ลูคัส เลว่า เป็นนักเตะที่แฟนบอล ไม่ว่าทีมไหน พร้อมใจกันหยิบมาล้อตลกบ่อยๆ ทว่าแข้งชาวบราซิลถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทุ่มเทและจงรักภักดีกับสโมสรที่สุดคนหนึ่งในยุคหลังมานี้

มิดฟิลด์วัย 33 ปีบอกลา เมอร์ซีย์ไซด์ ในฐานะขวัญใจแฟนๆ และเป็นยังคงโชว์ฟอร์มโดดเด่นในฟุตบอลระดับท็อป เป็นหัวใจแดนกลางของ ลาซิโอ้ มาตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา

"ผมบอกกับเขาว่า ใน 3 ปีข้างหน้า ประตูบานนี้จะยังเปิดรอเขาอยู่เสมอ และถ้าผมยังอยู่ที่นี่ (ลิเวอร์พูล) เรามีสำหรับเขาแน่นอน" คล็อปป์ เล่าถึงการบอกลากับ ลูคัส เลว่า เมื่อปี 2017

"ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นโค้ชหรือผู้จัดการทีมชั้นยอดได้แน่ๆ"

เจมส์ มิลเนอร์ - ลิเวอร์พูล

เขาเข้ามาสู่ทีมในฐานะนักเตะเอเย่นต์ และด้วยประสบการณ์ บวกระเบียบวินัยอันเป็นเลิศ ทำให้ เจมส์ มิลเนอร์ ยังเป็นบุคคลสำคัญในห้องแต่งตัวของ ลิเวอร์พูล จนถึงทุกวันนี้ เจมส์ มิลเนอร์

แข้งอายุ 34 ปีคือคนที่เพื่อนยกให้เป็นคนที่ฟิตที่สุดในทีม เป็นคนที่ คล็อปป์ เชื่อใจ และเลือกใช้งานในหลายตำแหน่งตั้งแต่กองกลางตัวรุกหรือรับ ไปจนแบ็คซ้าย ซึ่ง มิลเนอร์ รับผิดชอบได้แบบไร้ที่ติ

เอ็มเร่ ชาน - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

เอ็มเร่ ชาน เล่นให้ ลิเวอร์พูล ทั้งหมด 167 นัด โดยเกมสุดท้ายของเขาในสีเสื้อ 'หงส์แดง' คือเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2017/18 ปะทะ เรอัล มาดริด ที่กรุง เคียฟ ก่อนปล่อยสัญญากับทีมหมดลง เปิดทางย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส แบบฟรีๆ

ช่วงเวลาของ ชาน กับ ยูเวนตุส ไปได้ไม่สวยนัก แต่โชคดีมี โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยื่นมือเขามาช่วย ด้วยการดึงตัวกองกลางทีมชาติเยอรมันไปร่วมทีมแบบยืมตัว และต่อมาเซ็นด้วยสัญญาถาวร

แต่ ชาน จะจากลากับแฟน ลิเวอร์พูล แบบไม่สวยงามนัก แต่เขายื่นยันว่าไม่เคยมีปัญหากับ คล็อปป์ แต่อย่างใด ที่เลือกย้ายออกจากทีมก็เพื่อตามหาแชมป์ และอยากเล่นให้ ยูเว่ เหมือน ซีเนดีน ซีดาน ฮีโร่ของเขาเท่านั้นเอง

"ผมมีปัญหากับ คล็อปป์ หรือเปล่า? ผมไม่มีปัญหาอะไรกับ คล็อปป์ น่ะครับ ความสัมพันธ์ของผมกับเขาปกติดี" liverpoolecho รายงาน "ล่าสุดเขาเพิ่งอวยพรให้ผมโชคดี ผมไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งอะไรกับ คล็อปป์"

อดัม ลัลลาน่า - ลิเวอร์พูล

คล้ายกันกับ นาธาเนียล ไคลน์ ก่อนหน้านี้ อดัม ลัลลาน่า คือนักเตะ อังกฤษ อีกรายที่ดูเหมาะสมกับฟุตบอลของ คล็อปป์ เสียเหลือเกิน แต่ดันมาโชคร้ายถูกอาการบาดเจ็บรบกวนไม่หยุดไม่หย่อน

ล่าสุด ลิเวอร์พูล เพิ่งขยายสัญญาของ ลัลลาน่า ซึ่งเดิมที่กำลังจะหมดลงในเดือน มิถุนายน นี้ ต่อไปจนสิ้นสุดฤดูกาล เป็นการแสดงออกเล็กๆ ถึงความสัมพันธ์ ที่ดีระหว่าง ลัลลาน่า, คล็อปป์ และสโมสร

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - บาเยิร์น มิวนิค

จากขวัญใจสู่คนที่ 'เดอะ ค็อป' หลายๆ ท่านส่ายหน้า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ บอกลา ลิเวอร์พูล ไม่สวยนักเมื่อเขางอแง ขอย้ายไปยานแม่ที่ บาร์เซโลน่า

อย่างไรก็ดี เหมือนว่าแฟน ลิเวอร์พูล จะเป็นฝ่ายหัวเราะดังกว่า เนื่องจาก คล็อปป์ สามารถหมุนเงิน ใช้ค่าตัวของ คูตินโญ่ มาเสริมทีมให้แกร่งขึ้นได้หลายจุดจนทีมเป็นถึงแชมป์ยุโรปและพรีเมียร์ลีก ต่างจาก คูตินโญ่ ที่ล้มเหลวกับ บาร์ซ่า ไม่ปังกับ บาเยิร์น มิวนิค ถึงขนาดมีข่าวว่านักเตะร้องขอจะกลับมาเล่นให้ ลิเวอร์พูล อีกครั้งเลยทีเดียว

ดิว็อค โอริกี้ - ลิเวอร์พูล

ดิว็อค โอริกี้ แสดงความกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองอย่างชัดเจนในเกมประเดิมสนามของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และแม้เขาจะไม่ใช่แข้งตัวเลือกแรกๆ ในแผงเกมรุก เคยถูกส่งไปสร้างกระดูกกับ โวล์ฟสบวร์ก ใน บุนเดสลีกา และเฉียดจะย้ายออกจากทีมหลายครั้ง แต่ดาวยิงทีมชาติเบลเยียม ยังคงใจเย็น ก้มหน้าทำงานหนัก

และแล้วโอกาสฉายแววของเขาก็มาถึงในคืนเดือน พฤษภาคม ซึ่ง โอริกี้ รัวคนเดียว 2 ประตูใส่ บาร์เซโลน่า ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และยิงประตูปิดท้ายในรอบชิง ปราบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 คว้าถ้วยรางวัลอย่างเป็นทางการใบแรกในสีเสื้อสำหรับตัวเองได้สำเร็จ