บรรดาลีกดังในยุโรปต่างปิดฤดูกาลการแข่งขันไปแล้วหลังจบฟุตบอลยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก โดยตลอดซีซัน 2017-18 นี้ เหล่าสโมสรทั่วทั้งทวีปต่างก็มีผู้เล่นชาวเอเชียลงสนาม หลายคนก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักและพาทีมประสบความสำเร็จแตกต่างกันไป และนี่คือ 10 นักเตะเอเชียฟอร์มเด่นในยุโรปเมื่อฤดูกาลที่เพิ่งจบไป
เลื่อนลูกศรทางขวาเพื่ออ่าน
โชยะ นาคาจิมา - ญี่ปุ่น (ปอร์ติโมเนนเซ, โปรตุเกส)
อดีตดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นชุดแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อปี 2016 ฉายแววเด่นจากผลงานร่วมกับทีมชาติชุดเล็ก จนเริ่มได้โอกาสลงสนามให้ทีมเอฟซี โตเกียว ชุดใหญ่ และยึดตัวจริงให้ทีมในฤดูกาล 2017 จากผลงานลงสนาม 20 นัด ซัด 2 ประตู ส่งผลให้ ปอร์ติโมเนนเซ ทีมจากลีกสูงสุดของโปรตุเกส ตัดสินใจยื่นข้อเสนอขอยืมไปใช้งานจนถึงเดือนมิถุนายน 2018
ซึ่งการประเดิมซีซันแรกในชีวิตบนแผ่นดินยุโรป เด็กหนุ่มจากโตเกียวเริ่มยึดตัวจริงให้ทีมได้ทันที เบ็ดเสร็จแล้วเขาพาทีมจบอันดับ 10 ของตาราง จากผลงานลงสนาม 29 แมตช์ ยิงไป 10 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ ก้าวมามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลีกได้ตั้งแต่ปีแรก
ควอน ชาง ฮุน - เกาหลีใต้ (ดิฌง, ฝรั่งเศส)
ห้องเครื่องวัย 23 ปี ที่มีดีกรีติดทีมโสมขาวชุดใหญ่ไปแล้วถึง 15 นัด เริ่มได้โอกาสลงสนามในลีกเอิงมากขึ้นนับตั้งแต่ที่ย้ายจากซูวอน บลูวิงส์มายังดิฌงเมื่อฤดูกาล 2016-17 สำหรับผลงานในซีซันที่เพิ่งจบไป สตาร์ผู้ที่มีถิ่นฐานในโซล ได้โอกาสลงสนามให้ทีมทั้งสิ้น 33 แมตช์ ยิง 11 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ช่วยทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 11
ทว่าจากเกมนัดส่งท้ายซีซัน วควอนดันมีอาการบาดเจ็บในเกมลีกจนต้องหามออกจากสนามระหว่างการแข่ง ก่อนที่ต้นสังกัดจะออกมาคอนเฟิร์มว่าเขาหมดสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ร่วมกับทัพแทกุ๊ก วอริเออร์ส แน่นอนแล้ว
คาริม อันซาริฟาร์ด - อิหร่าน (โอลิมเปียกอส, กรีซ)
ศูนย์หน้าทัพเปอร์เซียชุดปัจจุบันก็เป็นอีกหนึ่งแข้งเอเชียที่ก้าวมาพิสูจน์ฝีเท้าในยุโรปตั้งแต่ปี 2014 กับโอซาซูนา ในลาลีก้า รวมถึงพานิโอนิออส ทีมจากลีกสูงสุดของกรีซ กระทั่งมีโอกาสโยกมาค้าแข้งให้ทีมยักษ์ใหญ่แดนเทพนิยายอย่าง โอลิมเปียกอส เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และแม้ช่วงแรกคาริมจะยังไม่ได้เป็นตัวหลักของทีม จากโอกาสเล่นในเกมซูเปอร์ลีกไปเพียง 9 แมตช์ แต่พอถึงซีซัน 2017-18 นี้ แข้งวัย 28 กะรัตเริ่มได้โอกาสลงสนาม และตอบแทนออกมาเป็นประตูถึง 17 ลูกกับอีก 6 แอสซิสต์ รั้งรองดาวซัลโวของลีก พลาดเล่นให้ทีมในลีกเพียง 5 จาก 30 นัดเท่านั้น
ฮิโรกิ ซากาอิ - ญี่ปุ่น (โอลิมปิก มาร์กเซย์, ฝรั่งเศส)
แบ็คประสบการณ์สูงเลือกโยกมาค้าแข้งกับทีมดังในลีกสูงสุดแดนน้ำหอมในฤดูกาล 2017-18 นี้ หลังอยู่ค้าแข้งในเวทีบุนเดสลีก้าร่วมกับฮันโนเวอร์ 96 เป็นเวลากว่า 4 ฤดูกาล และเพียงโอกาสแรกภายใต้การทำทีมของรูดี้ การ์เซีย เทรนเนอร์มากประสบการณ์ อดีตสตาร์คาชิวา เรย์โซลยึดตำแหน่งแบ็คขวาตัวหลักของทีมทันที ได้รับความวางใจลงสนามในลีกทั้งสิ้น 33 เกม พาทีมจบอันดับ 4 ของตาราง แถมยังมีโอกาสลงเล่นในยูโรป้าลีก 10 นัด และทำได้ 1 แอสซิสต์ ช่วยทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนไปพ่ายแอตแลติโก มาดริด
แมทธิว ไรอัน - ออสเตรเลีย (ไบร์ทตัน โฮฟ อัลเบียน, อังกฤษ)
เพียงซีซันแรกบนลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษ นายทวารทีมชาติออสเตรเลียมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพาเดอะ ซีกัลส์ ในฐานะทีมน้องใหม่อยู่รอดปลอดภัยก่อนเกมช่วงโค้งสุดท้ายของซีซัน แถมยังมีสถิติเก็บคลีนชีทให้ทีมได้ถึง 10 นัด ส่งให้ไบร์ทตันเสียประตูน้อยที่สุดในบรรดาทีมค่อนล่างตารางตั้งแต่อันดับที่ 11 ลงไป (เสียเพียง 54 ประตู)
ฮวาง ฮี ชาน - เกาหลีใต้ (เรดบูล ซัลส์บวร์ก, ออสเตรีย)
ดาวยิงวัย 22 กะรัตเป็นแข้งหนึ่งเดียวในลิสต์ของเราที่ยังไม่เคยเล่นฟุตบอลอาชีพในบ้านเกิด โดยเจ้าตัวเลือกย้ายมาค้าแข้งอาชีพในออสเตรียภายหลังเริ่มเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนของโปฮัง สตีลเลอร์ กับทีม FC Liefering เป็นเวลา 2 ปี จนมีโอกาสโยกมาเล่นให้ยักษ์ใหญ่ของลีกอย่าง เรดบูล ซัลส์บวร์ก เมื่อเลกสองของฤดูกาล 2015-16 ด้วยวัยแค่ 19 ปี ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักให้สโมสรในฤดูกาลถัดมา และแม้ในซีซันที่ 3 ของฮวาง (2017-18) เจ้าตัวจะมีอาการเจ็บรบกวนการลงสนามอยู่บ้าง ทว่าเขาก็ได้โอกาสลงเล่นมากถึง 37 เกม รวมทุกรายการ พร้อมสถิติยิงรวม 13 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ และอยู่คว้าแชมป์ลีกร่วมกับสโมสร 3 สมัยติดต่อกัน
ยูยะ คุโบะ - ญี่ปุ่น (เคเอเอ เกนท์, เบลเยียม)
กองหน้าเจ้าของส่วนสูง 178 เซนติเมตรเริ่มต้นค้าแข้งกับ เกียวโต ซังงะ ช่วงปี 2011-2013 ก่อนจะเฉิดฉายผ่านผลงานลงเล่น 66 นัดยิง 18 ประตู จนมีโอกาสโยกมาค้าแข้งในต่างแดนครั้งแรกกับ บีเอสซี ยัง บอยส์ ในลีกสูงสุดของสวิสเซอร์แลนด์ในปี 2013 ก่อนจะถูก เกนท์ ทีมดังในเบลเยียมดึงมาเสริมคมต่อในเลกสองของปี 2017
กับช่วงเลกหลังของฤดูกาล 2016-17 ในนามต้นสังกัดใหม่ คุโบะประสบปัญหาอาการเจ็บที่หัวเข่าจนชวดลงเล่นอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะเรียกความฟิตกลับมายึดตัวจริงให้ทีมอีกครั้งในซีซันล่าสุด และจากบทบาทตัวเพลย์เมกเกอร์ คุโบะฝากผลงานลงสนามทั้งสิ้น 42 แมตช์รวมทุกรายการ ยิงไป 11 ประตูกับ 2 แอสซิสต์
อาลีรีฎอ ญาฮันบัคช์ - อิหร่าน (อาแซด อัคมาร์, ฮอลแลนด์)
ก้าวเข้าสู่การค้าแข้งบนเวทียุโรปเป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน สำหรับอาลีรีฎอ ตัวรุกซูเปอร์สตาร์คนปัจจุบันของทีมชาติอิหร่าน โดยในฤดูกาล 2017-18 ร่วมกับอาแซดนั้น นับเป็นปีที่เจ้าตัวประสบความสำเร็จร่วมกับทีมมากที่สุด จากสถิติปิดซีซันลีกฮอลแลนด์ด้วยการทำไป 21 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ รั้งตำแหน่งดาวซัลโวประจำลีกไปครอง ทำให้ญาฮันบัคช์ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลดาวซัลโวของลีกสูงสุดแดนกังหันลม
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังทำสถิติเป็นนักเตะจากอาแซดรายที่ 3 ที่คว้าตำแหน่งดังกล่าวในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย
มาโกโตะ ฮาเซเบะ - ญี่ปุ่น (ไอทรัค แฟรงค์เฟิร์ต, เยอรมัน)
กัปตันทีมชาติญี่ปุ่นคนปัจจุบัน กลับมาประสบความสำเร็จในการค้าแข้งระดับสโมสรอีกครั้งร่วมกับทัพอินทรีแดงดำ ภายหลังที่สร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับทีมผ่านการคว่ำบาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล สมัยที่ 5 ของสโมสร และถือเป็นโทรฟีที่ 2 ของตัวเองต่อจากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเมื่อปี 2008-09 เบ็ดเสร็จแล้วตลอดช่วงเวลาของฤดูกาลที่ผ่านมา จอมทัพประสบการณ์สูงมีสถิติลงเล่น 29 แมตช์ รวมทุกรายการ
ซน ฮึง มิน - เกาหลีใต้ (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, อังกฤษ)
ปฏิเสธไม่ได้ว่านาทีนี้ซน ฮึง มิน คือนักเตะเลือดเอเชียที่ก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งสตาร์แถวหน้าระดับยุโรปไปแล้ว โดยฤดูกาล 2017-18 นี้ ดาวเตะวัย 25 ปี พลาดการลงสนามในพรีเมียร์ลีกเพียง 1 นัด เขาได้โอกาสจากเมาริซิโอ โปเช็ตติโน ลงสนามเป็นหัวใจสำคัญสนับสนุนเกมรุกร่วมกับเพื่อนร่วมทีมทั้งคริสเตียน อิริคเซน, เดลเล อัลลี และแฮร์รี เคนจนพาไก่เดือยทองจบอันดับ 3 ในตารางลีก พาทีมทะลุถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟาแชมปเปี้ยนส์ลีก โดยรวมแล้วซนฝากผลงานในสนามรวมทุกรายการ 53 เกม ยิงไป 18 ประตูกับ 11 แอสซิสต์ด้วยกัน
นอกจากนี้ ทำลายสถิติแข้งเอเชียทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกของพาร์ค จี ซอง แข้งรุ่นพี่ร่วมชาติที่เคยทำไว้ 18 ประตู (ซนยิงรวม 30 ลูก) ในเกมที่ต้นสังกัดเฉือนชนะคริสตัล พาเลซ 1-0 ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว