ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับนัดชิงชนะเลิศถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีค โดยปี 2018 ซึ่งจะฟาดแข้งกันที่เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน เป็นศึกระหว่าง ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ผู้ไล่ล่าประวัติศาสตร์สมัยที่สิบสาม กับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ผู้สร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงชนิดหักปากกาเซียนและหมายมั่นการชูถ้วยสมัยที่หกของสโมสร ฟุตบอลไทรบ์จะมาชี้จุดตัดสินสำคัญต่างๆในแมตช์นี้กัน
กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปะทะ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
ถ้าเทียบพลังในเกมส์ฟีฟ่าของ CR7 (พลัง 94) กับ ฟานไดร์จ (พลัง 84) ดูจะไม่สูสีซักเท่าไหร่ แต่ในชีวิตจริง ฟานไดร์จ ถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีสุดในโลกและเป็นงานยากสำหรับโรนัลโด้แน่นอน ยังไงก็ตาม โรนัลโด้ก็ยังเหนือกว่าอยู่ดี
มาร์เซโล่ ปะทะ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์
โม ซาล่าห์กลายนักเตะนักเตะที่เร็วสุดในฟีฟ่าจากการอัพเดทล่าสุด (สปีด 99) ตรงกันข้ามกับสปีดเพียง 79 ของมาร์เซโล่ ซาล่าห์ดูจะได้เปรียบอยู่พอสมควร เพราะฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เพื่อนร่วมทีมจะต้องช่วยเหลือมาร์เซโล่ในพื้นที่ใกล้เคียง
เซร์คิโอ รามอส ปะทะ โรแบร์โต เฟอร์มิโน่
แม้ว่าเสียงชื่นชมมากมายในฤดูกาลนี้จะตกไปที่ซาล่าห์ แต่หลายคนก็เชื่อเฟอร์มิโน่มีบทบาทที่สำคัญในเกมส์ใหญ่ๆ ดาวเตะบราซิเลี่ยนมีความหลากหลายและการเคลื่อนที่ของเขาคงทำให้รามอสปวดหัวแน่นอน ยังไงก็ตาม ประสบการณ์ในเกมใหญ่อย่างนัดชิงชนะเลิศของกัปตันราชันก็ยังเป็นข้อได้เปรียบของเขา
โครส & โมดริช ปะทะ เฮนเดอร์สัน & เอมเร่ ชาน
การปะทะกันของคู่ชิงนี้อาจจะสำคัญสุดที่คู่แดนกลางของคู่นี้ก็เป็นได้ ด้านเรอัล มาดริดมีคุณภาพในด้านเกมรุกมากกว่า แต่ก็ต้องทำงานหนักในการป้องกันด้วย เพราะถ้าเฮนเดอร์สันและชานสามารถผ่านบอลให้กับสามประสานแดนหน้าของหงส์แดงได้ ก็เป็นอันตรายสุดขีดสำหรับลูกทีมของซีดาน
ดานี่ การ์บาฆาล ปะทะ ซาดิโอ มาเน่
การ์บาฆาลเป็นผู้เล่นที่ชอบเติมเกมรุกและเปิดบอลให้กับโรนัลโด้และเบนเซม่า แต่น่าจะยากในที่จะเล่นแบบถนัดในนัดชิงครั้งนี้เพราะด้วยพละกำลังบวกความเร็วของมาเน่ จะสร้างปัญหาในเกมป้องกันของวิงแบ็คชาวสเปนแน่นอน
คาริม เบนเซม่า ปะทะ ลอริส คาริอุส
ช่วงเวลาของเบนเซม่าดูเหมือนกำลังจะจบลงและยังมีกระแสข่าวถึงการย้ายออกจากทีมด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่กระตุ้นเจ้าตัวสำหรับเกมนี้เพื่อพิสูจน์ให้เปเรซเห็นคุณค่าให้เก็บเขาไว้กับทีมต่อไปหรือหาทางออกที่สมเกียรติ ยังไงก็ตาม เบนเซม่าจะทดสอบคาริอุสด้วยลูกยิงจากทั้งในและนอกกรอบ และเขาดูจะเหนือกว่าลอฟเรนด้วย ซึ่งหมายความว่าคาริอุสจะต้องเตรียมระวังตัวไว้ตลอดเวลา
ซีเนอดีน ซีดาน ปะทะ เจอร์เก้น คลอปป์
ระบบ 4-4-2 ไดมอนด์ ปะทะ 4-3-3 เกเก้นเพลสซิ่ง ซีดานจะทำการเปลี่ยนแปลงชุดผู้เล่นหรือใช้ชุดเดิมกับนัดชิง UCL ปีที่แล้ว คลอปป์จะสามารถหาทางรับมือ โรนัลโด้ และแผงกลาง โครส-โมดริช-คาเซมิโร่ ได้หรือไม่