ฟุตบอลไทย ไทยลีก

TRIBE TALK : พีรพงศ์กับความทรงจำ8ปีบนพื้นหญ้าเทียมสนามลีโอ

หลังจากที่สนามลีโอ สเตเดียม รังเหย้าของสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมในศึกโตโยต้า ไทยลีก ได้มีแผนปรับปรุงครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยจะกลับมาใช้สนามหญ้าจริง  หลังจากเป็นทีมเดียวในฟุตบอลไทยที่ใช้สนามหญ้าเทียมมาตลอด 8 ปีเต็ม

ถ้ามองย้อนกลับไปแล้วนั้นการที่บางกอกกล๊าสใช้สนามหญ้าเทียมเพียงแห่งเดียว ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ จนเป็นเอกลักษณ์สร้างงานยากให้กับคู่แข่ง และเป็นสนามปราบเซียนอีกสนามหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่ชำนาญและตัดสินใจในจังหวะบอลดีพอ

ซึ่งในบรรดาแข้งกระต่ายแก้ว “เบนซ์” พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ เป็นนักเตะอีกคนที่อยู่กับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างไม่ว่าจะเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารจากธนาคารกรุงไทยมาเป็นทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี เปลี่ยนใช้สนามหญ้าเทียมเป็นหลัก รวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้สนามหญ้าจริงของทีมอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้เราได้พาไปย้อนอดีต และพูดถึงชีวิตหญ้าเทียมของกระต่ายตัวเก๋ารายนี้ผ่านทีมงาน Football Tribe Thailand

กด ลูกศรทางขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

“ตอนแรกเราก็เล่นสนามหญ้าจริงมาตลอด” พีรพงศ์เริ่มย้อนอดีตสมัยเล่นหญ้าจริงเป็นหลัก

“แต่ถ้าเทียบคุณภาพหญ้าจริงสมัยก่อนกับสมัยนี้มันแตกต่างกันมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการดูแลสนามไม่เติบโตมาก แต่พอมาเปลี่ยนเป็นหญ้าเทียมครั้งแรก ก็แอบตื่นเต้นเหมือนกัน และเรากลัวที่จะเจ็บด้วย แต่พอทำความคุ้นเคยและ มันจะทำให้เราเล่นง่ายยิ่งขึ้นเพราะเราไม่เคยเจอสนามที่มันเรียบ และทำให้อยากเล่นมากขึ้น และก็ต้องมีการปรับตัว เพราะจะมีอาการบาดเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม”

หากลองย้อนนึกกลับไปสนามของบางกอกกล๊าสก็เคยเป็นสนามหญ้าจริงมาก่อน ก่อนจะปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ โยกไปใช้สนามมหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี คลองหกชั่วคราว ก่อนจะกลับมาเล่นที่สนามลีโอ สเตเดียม ที่เป็นหญ้าเทียมอีกครั้ง

แน่นอนว่าอุปสรรคต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวของนักเตะ หรือทำความคุ้นกับสนามตัวเอง ซึ่งพีรพงศ์ ได้เผยว่า จริงๆแล้วเวลาทีมลงฝึกซ้อมก็ยึดสนามหญ้าเทียมเป็นหลักเช่นกัน ก็อาจจะมีปัญหาบ้างในช่วงแรก แต่พอตัวเองและเพื่อนร่วมทีมจับทางจังหวะการเล่นหญ้าเทียมได้แล้วนั้น ก็กลายเป็นเรื่องง่ายทันที และเพิ่มความได้เปรียบในการจบสกอร์และเก็บชัยต่อหน้าแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังในสนามมากขึ้น และได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับคู่แข่งที่ปรับตัวกับสนามหญ้าเทียมไม่ได้เช่นกัน

“มีแมตช์หนึ่งเห็นมากับตา แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาซ้อมมาหรือเปล่า แต่จังหวะนั้นเราเห็นพอดี ว่าลูกนี้ ถ้าคุ้นเคยกับสนามเขาดรอปบอลและสามารถยิงเข้าได้เลย แต่พอเขาปล่อยให้บอลเด้งหนึ่งจังหวะ มันเลยทำให้บอลออกหลังไป ส่วนรูปเกมที่เราฝึกซ้อมกับสนามหญ้าเทียมมาโดยตลอด ก็จะช่วยให้เราสร้างมิติและจังหวะเกมให้น่าดูมากขึ้นเช่นกัน”

 

แต่ด้วยความที่เป็นสโมสรเดียวในไทยที่ใช้สนามแข่งหลักเป็นหญ้าเทียม ก็จะทำให้เกิดอุปสรรคเช่นกันในการที่จะต้องออกไปเยือนคู่แข่งที่เป็นหญ้าจริงหมด ไม่ว่าจะเป็นพื้นสนาม หรือจังหวะบอลที่เปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้ในบางครั้งอาจจะสร้างความลำบากกับตัวเองไม่มากก็น้อย “ทีมตัวเองไปเยือนก็ส่งผลเหมือนกัน เพราะว่าสภาพสนามจะทำให้เราสปีดเกม และรูปแบบเกมแตกต่างไปกว่าเดิม เพราะว่าหญ้าเทียมเวลาเรารดน้ำสนาม จังหวะเกมเราก็จะเร็วขึ้น จะรู้ด้วยตัวเองว่าถ้าบอลตรงตรงนี้ควรจะผ่อนเกมหรือรับบอลอย่างไร”

“แต่พอไปเจอหญ้าจริง ยกตัวอย่างถ้าสนามไหนมีคุณภาพก็จะคอนโทรลบอลง่ายหน่อย แต่ถ้าสนามมีความขรุขระ ทำให้เล่นยาก ซึ่งเราก็ต้องไปซ้อมก่อน ซึ่งในแต่ละครั้งก็ไม่ได้สร้างความคุ้นเคยมากต้องดูสภาพแวดล้อม”

บางครั้งสภาพสนามที่เขาเคยเจอก็ไม่สมบูรณ์ จนในบางทีต้องแอบพึ่งตัวช่วยด้วยการพกอุปกรณ์อย่างรองเท้าสตั๊ดที่เหมาะสมกับสภาพพื้นสนาม แต่เจ้าตัวก็เผยว่าไม่ได้มีพิเศษอะไรมาก อาจจะแค่เตรียมรองเท้าไว้แค่สองคู่ถ้าสนามแฉะเนื่องจากมีฝนตก หรือรองเท้าสตั๊ดแบบปุ่มเหล็กเพื่อยึดเกาะได้ดีขึ้น

และจากการที่เล่นหญ้าเทียมมาตลอด 8 ปีเต็ม เรียกว่าชำนาญในการเล่นหญ้าเทียม “เบนซ์” ก็ได้แนะนำในการเล่นหญ้าเทียม ที่เดี๋ยวนี้เรียกว่าเป็นยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบออกกำลังการในการเตะฟุตบอลเป็นหลักเพื่อลดอาการบาดเจ็บในการเล่นว่า “อันดับแรกก็คงต้องให้อบอุ่นวอร์มร่างกายให้ถึงจุดที่ควรเล่นก่อน เพราะว่าจังหวะการเคลื่อนที่หญ้าจริง กับหญ้าเทียมต่างกัน เช่นหญ้าจริงวอร์มไม่ถึงมันยืดหยุ่นมากกว่าหญ้าเทียม”

“แต่ถ้าเป็นหญ้าเทียม ถ้าเราพลิกตัวพลาดอาจจะบาดเจ็บรุนแรงได้ ซึ่งหลักๆก็คือการวอร์มร่างกาย และรองเท้าที่จะใช้เล่นมากกว่า คนที่ไม่คุ้นเคย ปุ่มอาจจะยึดกับพื้นสนาม”

ซึ่งตอนนี้ทางสโมสรบางกอกล๊าส ก็ได้ทำการรื้อถอนหญ้าเทียมในสนามเป็นที่เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวปูพื้นสนามใหม่ให้ทันเปิดฤดูกาล 2018 ซึ่งเจ้าตัวก็แอบรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่จะได้รังเหย้าเป็นหญ้าจริงอีกครั้ง แม้อาจจะต้องมีการปรับจูนกันใหม่อีกรอบ แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องดีในส่วนของอาการบาดเจ็บที่น่าจะลดความรุนแรงลงได้

สุดท้ายห้องเครื่องจอมเก๋าก็ได้เผยถึงเป้าหมายในเกมที่เหลือก่อนจะปิดซีซั่นว่า “จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและจะพาทีมไปจบอันดับที่ดีๆ เพื่อเป็นของขวัญตอบแทนแฟนบอลที่ให้กำลังใจเสมอมาตลอดทั้งฤดูกาล”

ทั้งนี้โปรแกรมของบางกอกกล๊าส เอฟซี นั้นจะมีเล่นในบ้านอีกหนึ่งนัดพบกับทีมพัทยา ยูไนเต็ด ทว่าจะโยกไปใช้สนามธูปะเตมีย์ สนามเหย้าของทีมแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี น้องใหม่ไทยลีกปีหน้าแทน และสนามลีโอ สเตเดียม จะกลับมาใช้อย่างเป็นทางการอีกครั้งในฤดูกาล 2018 แฟนบอลกระต่ายแก้ว รวมไปถึงแฟนบอลไทย เตรียมยลโฉมว่าจะสวยถูกใจขนาดไหน ได้ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน