เหนือกว่า เจน-นุ่น-โบว์!โหดกว่า D2B! นี่คือสุดยอดสามประสานไทยลีกในรอบทศวรรษที่ผ่านมา

ว่ากันว่าสิ่งดีๆ มักมาพร้อมกันเป็นแพ็ค 3 ไม่ว่าจะเป็น เจน-นุ่น-โบว์ ที่กลับมาดังระเบิดอีกครั้ง เกิร์ลกรุ๊ปในตำนาน สาวสาวสาว ที่สอนให้เรารู้ว่ารักคืออะไร หรือสุดยอดบอยแบนด์ไทยในตำนานอย่าง D2B

ในโอกาสนี้ ฟุตบอลไทรบ์ ไทยแลนด์ จึงขอพาเพื่อนๆ ย้อนวันวานไปพบกับสามประสานเกมรุกจากสโมสรไทยลีก ที่แฟนบอลลืมไม่ลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

โช ชิโมจิ-จอร์จี้ เวลคัม-กิลเบิร์ต คูมสัน

หลังจากอดทนรอมานานกว่า 12 ปี ในที่สุด บีอีซี เทโร ศาสน ก็กลับมาคว้าแชมป์ได้สำเร็จสักทีด้วยการล้ม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซิวถ้วย โตโยต้า ลีกคัพ 2014 อย่างสมเกียรติ

ทัพ "มังกรไฟ" ของกุนซือ โชเซ อัลเวส บอร์จีส เต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งมากมายเช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ อีกมากมาย นี่รวมถึงปีกจรวดชาว กาน่า วัย 19 ปีนาม กิลเบิร์ต คูมสัน เจ้าของรางวัลแอสซิสต์เยอะสุดในลีกปีนั้นด้วย (11 แอสซสิต์)

คูมสัน จับทีมกับ โช ชิโมจิ ดาวซัลโวประจำทีม (17 ลูก) และ จอร์จี้ เวลคัม กองหน้าดีกรีทีมชาติฮอนดูรัส ช่วยกันยิง 33 จาก 66 ประตูรวมในลีก (ยิงเยอะสุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา) พา เทโร จบอันดับ 3 บนตาราง นับเป็นอันดับดีที่สุดจนถึงวันนี้

มาริโอ ยูรอฟสกี้-ธีรศิลป์ แดงดา-ดัสกร ทองเหลา

ทีมชั้นนำของเมืองไทยอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปลี่ยนผ่านแผงเกมรุกระดับพระกาฬมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชุดดับเบิ้ลลีก กับ ถ้วย ก. ฤดูกาลที่ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ เอเอฟซี คัพ หรือชุดปี ที่มาในคอนเซ็ปต์ "ดรีมทีม" นำทัพโดย เคลตัน ซิลวา ดาวซัลโวลีก (27 ประตู) และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ (รองแชมป์แอสซิสต์ฤดูกาล 2016) พร้อมเพื่อนๆ ทีมชาติไทยที่ย้ายมาพร้อมกันจาก บีอีซี เทโร ศาสน

อย่างไรก็ดี หากต้องเลือกสามประสานในดวงใจของทัพ "กิเลนผยอง" จริงๆ คงต้องเป็นทีมชุดฤดูกาล 2012 ภายใต้การทำทีมของเฮดโค้ช "ย็อคก้า" สลาวิซ่า โยคาโนวิช ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย

เมื่อย้อนกลับไปดู เห็นชัดว่าการย้ายมาของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ คือสิ่งที่เปลี่ยนวงการฟุตบอลไทยไปตลอดกาล เพลย์เมกเกอร์ชาวมาซิโดเนียเล่นด้วยคลาสบอลนำหน้าคู่แข่งหนึ่งก้าวเสมอ ยิงได้ 15 ประตูในฤดูกาลกาลแรกใน ไทยลีก เป็นจุดกำเนิดของคู่หู M&M หรือ มุ้ย กับ มาริโอ นั่นเอง

พูดถึง ธีรศิลป์ แดงดา "เทพมุ้ย" ก็โชว์ฟอร์มได้ร้อยแรงไม่พากัน พังประตูทั้งหมด 24 เม็ด เท่ากับ เคลตัน ซิลวา แต่พลาดรางวัลดาวซัลโวเพราะจำนวนเกมลงเล่นมากกว่าเท่านั้นเอง

สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดได้แก้จอมทัพ และกัปตันทีม ดัสกร ทองเหลา ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ตลอดช่วงยุค 2010 ความสามารถในการคุมจังหวะเกมของตำนานทีมชาติไทยเป็นที่มองข้ามมิได้เด็ดขาด

ฮาเวียร์ ปาติญโญ่-คาร์เมโล่ กอนซาเลซ-จิรวัฒน์ มัครมย์

จาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เรามาต่อกันที่คู่รับตลอดกาลของพวกเขาอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กันบ้าง โดยขุนพล "ปราสาทสายฟ้า" ก็ไม่ต่างเท่าไหร่ ด้วยความเป็นทีมใหญ่ พวกเขาสร้างความปวดหัวให้เราไม่น้อย แต่แม้เราจะชื่นชอบในความดุดันของ "2 แฟรงค์" โอฮานด์ซ่า และ อาเชียมปง หรือความโหดแบบไม่ปราณีใครของ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ผู้ที่ใครๆ ชูให้เป็นแข้งต่างชาติที่เก่งที่สุดที่เคยเล่นในเมืองไทย

ทว่าสามประสานที่เราอยากพูดถึงวันนี้คือ ฮาเวียร์ ปาติญโญ่, คาร์เมโล่ กอนซาเลซ และ จิรวัฒน์ มัครมย์ จากฤดูกาล 2013 ซึ่งพวกเขาสร้างประวัติศาสตร์เป็นสโมสรไทยทีมแรกที่กวาด 4 แชมป์ในประเทศทั้งหมด และเป็นแชมป์ลีกไร้พ่ายทีมที่ 2 อีกด้วย

จิรวัฒน์ มัครมย์ มีหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดของตัวเองในบทบาทพ่อมดตัวทำเกมด้านหลัง ปาติญโญ่ ที่ในเขตโทษเก็บเรียบแทบทุกลูก และ คาร์เมโล่ ที่จบซีซั่นด้วยรางวัลดวซัลโว (23 ประตู)

เคลตัน ซิลวา-อภิภู สุนทรพนาเวศ-ลาซารัส คาอิมบี้

เมืองทอง บุรีรัมย์ เทโร ผ่านไปแล้ว ถึงคราวทีมเล็กๆ กลางตารางอย่าง โอสถสภา เอ็ม-150 กันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 ตัวรุก เคลตัน ซิลวา, อภิภู สุนทรพนาเวศ และ ลาซารัส คาอิมบี้ ที่ช่วยกันพา "พลังเอ็ม" ของ โค้ชเบ๊ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก จบอันดับ 6 เมื่อฤดูกาล 2011

ณ ตอนนั้น เคลตัน ซิลวา เริ่มสร้างชื่อในวงการฟุตบอลในฉายา "โรนัลโด้ เมืองไทย" แล้ว ในขณะที่ คาอิมบี้ กองหน้าติดจรวดทีมชาติย้ายเข้ามาเป็นปีแรก และกลายเป็นจิ๊กซอว์สิ้นสำคัญในระบบฟุตบอลรับแน่น แล้วโต้กลับอันทรงประสิทธิภาพของ โค้ช เบ๊ ทันที

พวกเขามีเกมที่น่าจดจำมากมายเช่นนัดเปิด สนาม อบจ.สระบุรี อัด เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 5-1 เสียราคาแชมป์ลีกฤดูกาลก่อน แถมยังเอาชนะทีมใหญ่อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ชลบุรี ไปกลับได้อีกต่างหาก

ผลงานที่โดดเด่นเกินความคาดหมายช่วยให้ อภิภู สุนทรพนาเวศ มิดฟิลด์จอมทัพของทีมมีชื่อติดธงลุยศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ภายใต้การคุมทีมของ วินฟรีด เชเฟอร์

น่าเสียดายที่ไม่นาน พวกเขาก็ต้องแยกกันไปหาความสำเร็จตามเส้นทางลูกหนังของตัวเอง เช่น เคลตัน ซิลวา ดาวซัลโวประจำทีม (10 ประตู) ก็ย้ายไปประสบความสำเร็จมากมายกับ บีอีซี เทโร ศาสน คว้ารางวัลร้องเท้าทองคำ 2 สมัย ส่วนด้าน ลาซารัส คาอิมบี้ ก็เป็นผู้ทำประตูชัย ให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คว้าถ้วย เอฟเอ คัพ เป็นแชมป์ในประเทศรายการแรกตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร

ติอาโก คุนญ่า-พิภพ อ่อนโม้-เทิดศักดิ์ ใจมั่น

ตำนาน ตำนาน และ ตำนาน! สามประสาน คุนญ่า-พิภพ-เทิดศักดิ์ เล่นด้วยกันระหว่างปี 2012 ถึง 2015 เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเก๋า เด็ดขาด ดุดัน โดยมี ติอาโก คุนญ่า เป็นหัวหอกตัวชูโรง และดาวซัลโวประจำทีม 3 ฤดูกาลรวด (2013, 14 และ 15) บวกกับ พิภพ อ่อนโม้ ที่บ่อยครั้งเป็นซุปเปอร์ซับ ลงมาเปลี่ยนผลิกเกมด้วยสัญชาตญาณการจบสกอร์ที่ไม่เป็นสองรองใคร

ด้านแดนกลางมี "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น คอยบัญชาเกม และเป็นหนึ่งในคนที่ฉายฟอร์มเด่นที่สุดคนหนึ่งในรายการ เอเอฟซี คัพ 2012 ซึ่ง "ฉลามชล" ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ในฐานะแชมป์กลุ่ม จี ด้วยสถิติไร้พ่าย

ต่อมาปราบ อัล ชอร์ตา สโมสรตัวแทนจาก ซีเรีย ในรอบ 8 ทีมเลก 2 ด้วยประตูจาก พิภพ และแฮตทริกของ คุนญ่า ก่อนไปจบเส้นทางรายการ เอเชีย ในรอบรองชนะเลิศ

คุนญ่า-พิภพ-เทิดศักดิ์ ส่วนผสมที่ลงตัวของแข้งต่างชาติฝีเท้าฉมัง เด็กสร้างที่โตมาด้วยความผูกพันกับสโมสรจนกลายเป็นตำนาน และตัวทีมชาติที่มาพร้อมประสบการณ์เหลือล้น ส่งลงใช้งานได้เลย ถือเป็นส่วนผสมที่ ชลบุรี เอฟซี ยังคงตามหาต่อไปจนถึงตอนนี้

ดราแกน บอสโควิช-มาริโอ ยูรอฟสกี้-สรรวัชญ์ เดชมิตร

หากพูดถึงเกมแผงเกมรุกสุดโหด แล้วไม่กล่าวถึง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ปี 2017 ที่ยิงรวมกันทั้งทีมกว่า 97 ประตู ซึ่งหลักๆ ต้องยกเครดิตให้ 38 ของ ดราแกน บอสโควิช ซึ่งนับตั้งแต่นั้นยังไม่มีดาวซัลโวฤดูกาลไหนยิงเยอะเท่าศูนย์หน้าชาวมอนเตเนโกรเลย

บอสโควิช เปรียบเหมือนหนูตกถังข้าวสาร สุดยอดกองกลางอย่าง ยูรอฟสกี้ และ สรรวัชญ์ ป้อนโอกาสจบให้มากมาย โดยปีนั้น ยูรอฟสกี้ ยิงได้ 17 ประตู บวกกับอีก 13 แอสซิสต์เท่า สรรวัชญ์

ลูกทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง เล่นฟุตบอลเท้าสู่เท้าสวยงาม ต่อบอลจากหลังไปหน้าตามแบบฉบับฟุตบอลสมัยใหม่ กลายเป็นจุดขายให้แฟนบอลหลายท่านหันมาเชียร์ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และภาพจำของใครคน

มีหลายนัดที่พวกเขายิงคู่แข่งแบบไม่รักษาหน้า อาทิเช่นชัยชนะ 5-1 เหนือ พัทยา ยูไนเต็ด ซึ่ง บอสโควิช เหมาคนเดียว 5 ลูก หรือนัดเปิดบ้านยำ ชลบุรี เอฟซี 7-2