ทิตาธร อักษรศรี แบ็คซ้ายทีมชาติไทย ยู23 พูดถึงคำชมจาก อากิระ นิชิโนะ, การโรเตชั่นนักเตะ, เล่นทีมชาติกับแฝดพี่ และเป้าหมายในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ฟูลแบ็คจากสโมสร โปลิศ เทโร ยกระดับฟอร์มเกมเล่นของตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อจากศึก ซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และกลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักที่โดดเด่นที่สุดของทัพ ‘ช้างศึก’ ในรายการ ชิงแชมป์เอเชีย ยู23 ตลอด 3 นัดที่ผ่านมา
ไม่ใช่แฟนบอลไทยเท่านั้นที่ประทับใจฟอร์มของดาวรุ่งรายนี้ แต่ อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย ก็เป็นหนึ่งคนที่ออกโรงชม ทิตาธร หลังช่วยทีมเสมอ อิรัก สร้างประวัติศาสตร์ทะลุเท้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก ชิงแชมป์เอเชีย ยู23 ครั้งแรก ซึ่ง นิชิโนะ หวังว่า ทิตาธร จะรักษามุ่งมั่น และความพัฒนาฝีเท้าต่อไปด้วยเป้าหมายการเป็นตัวแทนของ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทยชุดใหญ่ และสโมสร โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส
“ดีใจครับที่โค้ชมองว่าเรามีศักยภาพระดับนี้ให้ความหวังอยากให้เราตั้งใจมากขึ้น” ทิตาธร กล่าวกับ ช้างศึก “โดยส่วนตัวคงไม่ถึงกับขนาดว่า ต้องกดดันให้เทียบเท่าพี่อุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) แต่ผมขอทำตัวเองให้ดีทุกวัน ทำทุกเกมให้ดีที่สุด และพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปก็พอแล้ว ตัวผมเองอยากจะทำผลงานให้ดีที่สุด ถ้าเราทำของตัวเอง และเพื่อนๆช่วยกันเล่นผลงานที่ดีก็จะออกมาเอง”
“ในเกมที่ผ่านมา ก่อนลงไปได้คุยกับ ปาแปง (ทิตาวีร์ อักษรศรี) ว่าเราจะแพ้ไม่ได้ ทำอย่างไรก็ได้ให้ไม่เสียประตูต้องเสมอหรือชนะเพื่อเข้ารอบต่อไป เพราะเรามีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ มันควรที่จะเป็นทีมของเราแล้ว ณ ตอนนั้น”
“ช่วงท้ายเกมเมื่อวานผมพยายามกัดฟันวิ่งในจังหวะที่เติมขึ้นมาไล่ข้างบนแล้วต้องรีบวิ่งลงไปช่วยเกมรับเพื่อน เพราะตอนนั้นผลมันเสมอ 1-1 และมาถึงท้ายเกมแล้ว ซึ่งผมอยากเข้ารอบให้เป็นไปตามที่ต้องการ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องวิ่งลงไปช่วยเพื่อนให้ทัน และอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องที่สุด เพราะอยากให้ทีมเราเข้ารอบต่อไปก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด”
โค้ช นิชิโนะ เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงถึง 7 ตำแหน่งจากเกมกับทีมชาติออสเตรเลีย โดย ทิตาธร คือหนึ่งในคนที่ยังถูกส่งลงสนาม ซึ่งแนวรับวัย 22 ปีไม่แปลกใจที่เพื่อนร่วมทีมสามารถเล่นได้มีอย่างมีมาตรฐาน แม่จะเพิ่งลงสนามก็ตาม
“เราโรเตชั่นเยอะก็จริง แต่ผมคิดว่าเพื่อนทุกคนสามารถเล่นได้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าโค้ชจะเลือกใช้ใครดูว่าจังหวะรูปแบบเกมของแต่ละคนเป็นอย่างไร คนที่ได้รับโอกาสลงไปมันสู้ทุกคนอยู่แล้วครับ อย่างตัวผมเองก็เพิ่งได้เล่นร่วมกับ ปาแปง ครั้งแรกที่เพิ่งลงสนามในเกมนี้ด้วย ก็ดีใจครับ ทั้งดีใจ และกดดันไม่อยากให้ใครสักคนพลาด ดีใจที่สุดท้ายเราได้เล่นร่วมกันสักที และผลออกมาเสมอจนได้เข้ารอบ 8 ทีมด้วย”
“ในรอบต่อไปต้องเจอทีมที่แข็งแกร่งแน่นอน แต่เวลาอยู่ในสนามคงไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว แค่อาจจะมีแรงกดดันที่ต้องเพิ่มสมาธิมากขึ้น เพราะเป็นรอบ 8 ทีมสุดท้าย เราต้องเจอทีมที่ผ่านเข้ารอบเหมือนกันก็คงมีความแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว”
“ดังนั้นเราต้องมีสมาธิมากขึ้น และพยายามควบคุมตัวเองให้ได้มากที่สุดครับ” ทิตาธร ปิดท้าย
สำหรับทีมชาติไทย มีคิวเตะรอบ 8 ทีมสุดท้าย พบแชมป์กลุ่ม B ในวันที่ 18 มกราคม ณ สนามธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 17:15 น.