สรวิทย์ พานทอง แข้ง ‘ช้างศึก ยู23’ ยัน พร้อมเล่นทุกตำแหน่ง เผยบทติวเข้มจาก โค้ช นิชิโนะ ก่อนช่วยทีมอัด บาห์เรน ไม่เหลือซาก 5-0
ตัวรุกวัย 22 ปีจากค่าย เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างชื่อในตำแหน่งริมเส้น หรือกองหน้าต่ำ ทว่าในนัดเปิดสนาม กลุ่ม เอ ศึกชิงแชมป์เอเชีย ยู23 ระว่างทีมชาติไทย ปะทะ บาห์เรน เฮดโค้ช อากิระ นิชิโนะ เซอร์ไพรส์แฟนบอลทั้งประเทศด้วยการจับ สรวิทย์ ไปยืดกองกลางด้านในคู่กับ กฤษดา กาแมน ตัวตัดเกมจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี
ทีมชาติไทยเริ่มเกมได้อย่างดุดัน เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน ก่อนขึ้นนำจาก ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และจบเกมด้วยชัยชนะ 5-0 โดยมี สรวิทย์ เป็นหนึ่งในแข้งที่โชว์ฟอร์มได้โดนเด่นที่สุดคนหนึ่งในทีม
“อย่างที่ผมบอกก่อนหน้านี้ว่า เล่นตรงไหนมันก็ฟุตบอลเหมือนกัน เพียงแค่ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมายจากโค้ช” สรวิทย์ ซึ่ง นิชิโนะ เคยแย้มว่าจะจับเขาเล่นแบ็คซ้าย กล่าวถึงบทบาทใหม่ในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลาง
“จริงๆผมเองเคยได้เล่นกองกลางอยู่แล้วตั้งแต่บอลนักเรียน พอมาอยู่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ได้มาเล่นปีกกับกองหน้า ผมเลยพอจะมีพื้นฐานอยู่แล้วทำให้ไม่ต้องปรับอะไรมากเกมเมื่อวานเป็นเพราะทุกคนช่วยกันเล่นมากกว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ผลเลยออกมาอย่างที่เห็น”
“ก่อนลงไปโค้ชเองกำชับให้พยายามเล่นบอลแนวลึกไว้ก่อน ที่เหลือก็ทำตามหน้าที่ของตัวเองที่ควรจะทำ สกอร์ที่ออกมาถือว่าเกินคาดนะครับ แต่ผมมองว่า บาห์เรน เขาจบไม่คม ถ้าเขาจบสกอร์ดีเราก็เหนื่อยเหมือนกัน”
3 คะแนนสำคัญในนัดประเดิมทัวร์นาเมนต์ช่วยให้ ไทย ยึดตำแหน่งจ่าฝูง กลุ่ม เอ หลังทีมชาติออสเตรเลีย และ อิรัก ทำได้เพียงเสมอกัน 1-1 โดย สรวิทย์ และเพื่อนๆ มีคิวลงสนามพบทีมชาติออสเตรเลียในนัดต่อไป
“ผมคิดว่าเกมที่เหลือเขาแข็งแกร่งทุกทีม เราต้องมองเป็นนัดต่อนัด แต่ละเกมต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ผมเชื่อว่า ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองตามที่โค้ชบอก ผลก็น่าจะออกมาดีครับ”
“ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าเกมต่อๆไปจะได้รับโอกาสลงเล่นในตำแหน่งไหน แต่ผมก็พร้อมเสมอไม่ว่าจะลงตัวจริงหรือเป็นตัวสำรอง ถ้าได้มีโอกาสผมจะทำให้เต็มที่”
สำหรับรายการ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทีมชาติไทยจัดอยู่ใน กลุ่ม เอ ร่วมกับ ทีมชาติบาห์เรน, ออสเตรเลีย และ อิรัก โดยมีโปรแกรมแข่งขันดังนี้
11 มกราคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติออสเตรเลีย เวลา 20.15 น.
14 มกราคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอิรัก เวลา 20.15 น.
ทุกนัดลงสนามที่ ราชมังคลากีฬาสถาน
