ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย

ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม: “ที่ ญี่ปุ่น บางคนมองเราต่ำ จากสีหน้า และท่าทางเรารู้สึกได้ว่าเขาไม่พอใจเรา”

ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ศูนย์หน้า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย ยู23 เปิดอกถึงแรงผลักดันในการเล่น และการก้าวข้ามคำดูถูกที่ ญี่ปุ่น

กองหน้าวัย 22 ปี ถูกเรียกเป็นหนึ่งใน 33 นักเตะเข้าแคมป์เก็บตัวทีมชาติไทย ชุด ยู23 เตรียมลุยศึก ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ ไทย เราเป็นเจ้าภาพ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ณัฐวุฒิ ต้องผ่านความท้าทายต่างๆ มากมาย

“ผมจะชอบเล่นฟุตบอลคนเดียวแล้วจินตนาการว่ากำลังลงเล่นท่ามกลางคนเยอะๆ การติดทีมชาติจึงเป็นความฝันของผมมาตั้งแต่เด็กๆ” ณัฐวุฒิ กล่าวผ่าน ช้างศึก

เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้สะดวกสบายนัก แต่ด้วยพรสวรรค์ และพรแสวง ณัฐวุฒิ สามารถพัฒนาตนเองมาเป็นหนึ่งในนักเตะเยาวชนฝีเท้าดีกับ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ได้รับการเซ็นสัญญากับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และโอกาสส่งไปเก็บประสบการณ์ 1 ฤดูกาลเต็มๆ กับ เอฟซี โตเกียว ยู23 ใน เจลีก 3

“วันที่ได้สัญญาผมเตือนตัวเองเสมอว่า ต้องไม่เหลิง อย่าลืมว่าเรามาจากไหน ทุกครั้งต้องซ้อมให้เต็มที่ไม่ว่อกแวก ผมยากทำให้ดีขึ้นทุกวัน อยากมีเงินเยอะๆเพื่อกลับไปสร้างบ้านให้พ่อแม่ มาถึงตอนนี้ผมมองว่า การติดทีมชาติคือรางวัลนะ เพราะหลักๆแล้วผมอยากมีเงินเพื่อให้พ่อแม่อยู่ดีกินดีมากกว่า เพราะเขาลำบากเพื่อผมมาเยอะแล้ว”

การค้าแข้งต่างแดนไม่ได้ทดสอบแค่ฝีเท้าของ ณัฐวุฒิ เท่านั้น แต่มันคือบททดสอบจิตใจ และทัศนคติของเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งดูเหมือนประสบการณ์ทั้งหมดจะทำให้ ณัฐวุฒิ แข็งแกร่งขึ้นมากไม่น้อย

“ช่วงแรกที่อยู่ญี่ปุ่น บางคนเขามองเราต่ำเหมือนด่าเรา ผมฟังไม่ออกหรอก แต่จากสีหน้า และท่าทางเรารู้สึกได้ว่าเขาไม่พอใจเรา เราก็ตัวคนเดียวมันยากพอสมควร แต่ผมบอกตัวเองต้องไม่ยอมแพ้จะไม่ให้เขาด่าเราแบบนี้ไปตลอด เราต้องปรับตัวให้ได้ พอผมปรับตัวได้ มีครั้งหนึ่งที่ผมยิงประตูได้คนที่เขาเคยไม่ชอบเราก็วิ่งมาดีใจด้วย มันทำให้รู้สึกดีว่า สุดท้ายแล้วเราทำได้เหมือนกัน”

สำหรับฤดูกาลที่ผ่านมา ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ลงสนามใน เจลีก 3 ไป 17 นัด (เป็นตัวจริง 9 นัด) ยิงได้ 3 ประตู บวกกับอีก 1 แอสซิสต์

“มองย้อนกลับไปสิ่งที่พยายามต่อสู้มาจนได้กลับมาติดทีมชาติอีกครั้งมันมีความหมายกับผมมาก ถือเป็นความภูมิใจของผมครั้งหนึ่งในชีวิต ผมมองว่าตัวเองเหมือนน้ำครึ่งแก้ว เพราะผมพร้อมเปิดรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาทั้งรูปแบบการเล่นใหม่ๆ แทคติกโค้ช ผมพยายามเรียนรู้ต่อไปให้เต็มที่”

“การกลับมาครั้งนี้เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผม ทุกคนคาดหวังอยากติดเป็น 23 คนสุดท้าย ส่วนตัวผมเองก็หวังเป็นหนึ่งในนั้นเพื่อลงเล่นในชิงแชมป์เอเชีย และต่อยอดไปโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น”

“ผมหวังจะทำให้เต็มที่ที่สุดเพื่อให้โค้ชเห็นว่า ผมมีดีพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมครับ” ณัฐวุฒิ ทิ้งท้าย

สำหรับรายการ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทีมชาติไทยจัดอยู่ใน กลุ่ม เอ ร่วมกับ ทีมชาติบาห์เรน, ออสเตรเลีย และ อิรัก โดยมีโปรแกรมแข่งขันดังนี้

8 มกราคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติบาห์เรน เวลา 20.15 น.

11 มกราคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติออสเตรเลีย เวลา 20.15 น.

14 มกราคม ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอิรัก เวลา 20.15 น.

ทุกนัดลงสนามที่ ราชมังคลากีฬาสถาน