ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย

ตัดเกรดแข้ง “ช้างศึก” เกมบุกต้อนทีมชาติอินโดนีเซีย 3-0 ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กลุ่ม จี นัดที่ 2

เกมนี้ทีมชาติไทยปรับมายืนระบบ 4-2-3-1 เน้นเกมรุกขึ้น โดยมี ศุภชัย ใจเด็ด และ เอกนิษฐ์ ปัญญา เป็น 11 ตัวจริงในตำแหน่งกองหน้า และปีกขวาตามลำดับ

เจ้าบ้านอินโดนีเซียของโค้ชไซม่อน แมคเมเนมี จัดทัพมาเน้นรับเหนียวแน่น และโต้กลับด้วยความเร็วของ สเตฟาโน ลิลิปาลีย์, อิรฟาน บัชดิม และลูกใหญ่ ลูกชนของ เบโต้ กอนคัลเวส

ทัพ ‘ช้างศึก’ ของโค้ช อากิระ นิชิโนะ มีปัญหาในการเจาะกำแพงหินของคู่แข่งพอสมควร แต่ครึ่งหลังก็เร่งเครื่อง และได้ประตูนำในที่สุดจากลูกยิงโค้งสุดสวยของ สุภโชค สารชาติ

ไม่กี่นาทีต่อ อันดริตานี อาร์ดิยาซา ทำฟาวล์ สุภโชค ในเขตโทษ และเป็นรุ่นพี่ ธีราทร บุญมาทัน ก้าวขึ้นมาซัดประตูหนีห่าง 2-0 ก่อน สุภโชค คนเติมจะบวกสกอร์ที่ 2 ของตน เป็นประตู 3-0 ปิดกล่องสวยงาม เก็บชัยชนะ รวมทั้งหมด 3 แต้ม ขึ้นยึดจ่าฝูง กลุ่ม จี

ผู้รักษาประตู – ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน: 7/10

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โชว์ความนิ่งได้สมกับตำแหน่งกัปตันทีม ‘ช้างศึก’ มีความเข้าเจ้า สื่อสารกันกับแผงแบ็คโฟร์ดีขึ้นกว่าเกมที่แล้วกับทีมชาติเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นด้วยผลงาน 2 คลีนชีตจากฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2 นัดแรก

แบ็คขวา – ทริสตอง โด: 6.5/10

ช่วงต้นเกม ทริสตอง โด ถูกเจ้าบ้านจอมตีทางฝั่งขวาของเขาพอสมควร แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ก็เริ่มจับจังหวะ คุมสถานการณ์ได้แน่นอนขึ้น โดยครึ่งแรกแบ็คขวา ‘แข้งเทพ’ ได้รับมอบหมายให้ประคองเกมรับค่อนข้างเยอะ ก่อนโค้ช อากิระ นิชิโนะ จะปล่อย ทริสตอง เติมเกมรุกในครึ่งหลัง เป็นส่วนหนึ่งให้รูปเกมทีมชาติไทยดีขึ้น

เซ็นเตอร์แบ็ค – พรรษา เหมวิบูลย์: 7/10

ปราการหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พัฒนาฟอร์มของตนจากเกมที่แล้วขึ้นมาก พรรษา ยืนตำแหน่งได้ดี เก็บตกบอลสองได้เรื่อยๆ แถมครึ่งแรกเกือบเติมไปโหม่งทำประตูได้ด้วย

เซ็นเตอร์แบ็ค – มานูเอล เบียห์ร: 7/10

เกมนี้ถือว่า มานูเอล เบียห์ร เจอมวยถูกคู่เมื่อต้องปะทะกับ เบโต้ กอนคัลเวส ศูนย์หน้าร่างใหญ่เชื้อสาย บราซิล และก็เป็นกองหลัง ‘แข้งเทพ’ ที่เอาชนะตัวเก๋าทีมชาติอินโดนีเซียได้แทบทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นโหม่งลูกกลางอากาศ หรือจังหวะเบียดบังบอลกับพื้น

แบ็คซ้าย – ธีราทร บุญมาทัน: 7.5/10

ความสามารถเฉพาะตัวอันเหนือชั้นช่วย ‘โก๋อุ้ม’ เอาตัวรอดจังหวะแก้ไขหลายครั้ง การออกบอลที่แม่นยำของ ธีราทร คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การขึ้นเกมจากหลังของทีมชาติไทยไหลลื่นยิ่งขึ้น แถมแบ็คซ้าย โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ยังสังหารจุดโทษแบบเด็ดขาดให้ทีมหนีห่าง 2-0 กจบเกมด้วย 3 แต้มล้ำค่า นับเป็นนักเตะคนนึงที่เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ใน 2 เกมแรกของโค้ช อากิระ นิชิโนะ

มิดฟิลด์ – พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล: 7/10

เมื่อไม่มี ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ใน 11 ตัวจริง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล จึงต้องปรับความรับผิดชอบมาเล่นเกมรับมากกว่าปกติเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ฉุดความสามารถของให้มิดฟิลด์ ‘กว่างโซ้งมหาภัย’ เลยแม้แต่น้อย เชื่อว่าแฟนบอลไทยคงถูกใจการเข้าบอลที่หนักแน่นของ พิธิวัตต์ แล้วไหนจะจังหวะการวิ่ง พาบอลทะลุทะลวงแกนกลางสนามในครึ่งหลังของเขาที่เกือบสร้างโอกาสเข้าทำให้ทีมอีก โดยรวม พิธิวัตต์ รักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างไร้ที่ติ แม้จะเพิ่งรับใช้ชุดใหญ่เพียง 2 เกมก็ตาม

มิดฟิลด์ – สารัช อยู่เย็น: 8/10

โค้ช อากิระ นิชิโนะ ปรับให้ สารัช อยู่เย็น ลงมาเอาบอลหน้าแผงหลังเยอะมากเก่า ทำให้มิดฟิลด์ ‘กิเลนผยอง’ ดึงจุดเด่นการออกบอล เชื่อมเกมของตนออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในสนาม เกลอรา บังการ์โน สเตเดียม

ปีกขวา – เอกนิษฐ์ ปัญญา: 6.5/10

เรียกว่าทำแฟนบอลตื่นเต้นกันยกใหญ่เมื่อเห็นชื่อ เอกนิษฐ์ ปัญญา ใน 11 ตัวจริง และแม้ปีกขวาจะไม่ใช่ตำแหน่งเก่งของดาวรุ่งวัย 19 ปี แต่ตัวรุก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก็มีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมตลอด มีจังหวะหนึ่ง-สองสวย ออกบอลสั้นสวยๆ ให้เห็น ผ่านการทดสอบบนเวทีทีมชาติชุดใหญ่อย่างไม่อย่างไร้ข้อกังขา

มิดฟิลด์ตัวรุก – ชนาธิป สรงกระสินธ์: 6.5/10

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ถูกคู่แข่งตามประกบติด 2-3 คนตลอด 90 นาที จนแทบไม่ได้มีโอกาสได้ออกบอลคิลเลอร์พาสสวยๆ หรือลองส่องทำประตูแบบเน้นๆ เลย อย่างไรก็ตาม ตัวรุกหมายเลข 10 ทีมชาติไทยยังถือว่าเล่นจังหวะแก้ไข เอาตัวรอดได้ดี ช่วยดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นเกมรุกขึ้นอื่นได้เรื่อยๆ

ปีกซ้าย – สุภโชค สารชาติ: 8.5/10

สุภโชค สารชาติ ใช้ฝีเท้าพิสูจน์ตัวเอง ตอบโต้ทุกคำวิจารณ์ เชื่อว่าชั่วโมงนี้คงไม่มีใครกล้าบ่นเขาเรื่อง “จังหวะเห็นแก้ตัว” อีกแล้ว ประตูปลดล็อคของแข้งวัย 21 ปีคือจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม บีบให้ทัพ ‘อิเหนา’ หันมาเอาประตูคืน จนเปิดช่องหลังบ้าน พลาดท่าเสียจุดโทษ(ด้วยการทำฟาวล์ สุภโชค) และเสียประตูที่ 3 ปิดกล่องในที่สุด 2 ประตูกับจุดโทษอีก 1 จังหวะถือว่าไม่เลวเลยสำหรับนักเตะที่เพิ่งออกสตาร์ทตัวจริงทีมชาติชุดใหญ่เพียง 3 เกม

ศูนย์หน้า – ศุภชัย ใจเด็ด: 6.5/10

ครึ่งแรก ศุภชัย ใจเด็ด แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย แต่ก็ได้บอลมากขึ้นหลังจากไทยยิงประตูแรกสำเร็จ ครึ่งหลังศูนย์หน้า ‘ปราสาทสายฟ้า’ ถอยลงมาต่อบอลสั้นกับเพื่อนๆ ได้โอเคในตำแหน่งคล้ายๆ มิดฟิลด์ตัวรุก และน่าจะมีชื่อเป็นผู้ทำสกอร์จากจังหวะยิงจ่อๆ หน้าประตู

ตัวสำรอง

ปีกขวา – ศิวกรณ์ เตียตระกูล: 6.5/10

ศิวกรณ์ เตียตระกูล ลงมาและได้บอลค่อนข้างเยอะในตำแหน่งปีกขวา การเลี้ยงตัดเข้าในของเขาประสานงานกับแบ็คขวาที่เติมเกมมาได้เป็นจังหวะจะโคน

แบ็คขวา – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม: 6.5/10

มีจังหวะสปีดเติมเกมทางกราบขวาให้เห็น แต่รวมๆ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ไม่ได้ถูกทดสอบเกมรับมากนัก

แบ็คซ้าย – ศศลักษณ์ ไหประโคน: 7/10

ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงมาแทนที่ ธีราทร บุญมาทัน ที่มีอาการบาดเจ็บ และแสดงให้เห็นถึงความดุดันในจังหวะแก้ไขเกมรับ หรือการเติมเกมแบบมุทะลุจากฝั่งซ้าย แม้เวลาในสนามจะน้อยนิด แต่ก็โชว์ให้โค้ช และแฟนบอลเห็นว่าเขาคือตัวเลือกที่ดี และมีสไตล์แตกต่างกับ ธีราทร ซึ่งโค้ชสามารถเลือกใช้ได้เมื่อต้องการ

หัวหน้าผู้ฝึกสอน – อากิระ นิชิโนะ: 8/10

อากิระ นิชิโนะ แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าต้องเกม 3 แต้มจากเกมเยือนนัดนี้ และแม้จะเจอเกมอุดของเจ้าบ้านตลอดครึ่งแรก แต่การแก้เกมช่วงพักครึ่งของเขาก็คือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทัพ ‘ช้างศึก’ พลิกสถานการณ์ สร้างความได้เปรียบ เก็บชัยชนะได้ดั่งหวัง