โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชี้ลูกทีมมีโอกาสจบสกอร์มากกว่า “แข้งเทพ” ขาดแค่เพียงความเฉียบคม แต่ถือเป็นจุดวัดได้ดีว่าทีมสามารถต่อกรได้กับทีมกับทีมใหญ่ แม้จะตกรอบ 36 ทีมสุดท้ายรายการ ช้าง เอฟเอคัพ 2019 ก็ตาม
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จ่าฝูง ไทยลีก 2 เปิดรัง ลีโอ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในรอบ 36 ทีมสุดท้ายรายการ ช้าง เอฟเอคัพ 2019 เมื่อคืนวันพุธที่ 19 มิถุนายนที่ผ่าน และเป็นเจ้าบ้านที่เกือบได้ประตูขึ้นนำในจังหวะที่ บาร์รอส ทาร์เดลลี่ ตัดหน้าฉกบอลได้จาก มานูเอล เบียร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปแปบอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว
ทว่าเป็น “แข้งเทพ” ทีมเยือนที่ยิงประตูขึ้นนำได้ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่บอลขลุกขลิกมาเข้าทางปืนให้ปีกซ้าย ร็อบสัน แฟร์นันเดส ปั่นโค้งเสียบมุมเสาไกลเข้าไปแบบงามหยด
ครึ่งหลัง โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน ปรับทัพเน้นเกมรุกมากขึ้นโดยการส่ง ธรรมยุต รักบุญ ลงทำเกมริมเส้นฝั่งขวา แล้วก็เป็นปีกตัวจี๊ดที่เรียกจุดโทษได้ในนาทีที่ 58 แต่ลูกยิง ‘ปาเนนก้า’ ของ บาร์รอส ทาร์เดลลี่ กลับลอยข้ามค้านไปเพียงนิดเดียว พลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอทันที
เจ้าบ้านเปิดเกมรุกอย่างหนักในช่วง 20 นาทีสุดท้าย มีได้ลุ้นจากลูกยิงไกลนอกกรอบของแบ็คขวาตัวสำรอง ธนินท์ เกียรติเลิศธรรม แต่ยังกินซุปเปอร์เซฟของ ไมเคิ่ล ฟาลเคสการ์ด ไม่ได้ แถมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทาร์เดลลี่ ยังแปจ่อหน้าโกลหลุดกรอบไปอีก จบเกมพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-0
หลังเกม โค้ชโอ่ง ให้ความเห็นว่า “เกมนี้เป็นเกมที่สนุก ได้วัดว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหนในรายการนี้ ซึ่งนักเตะทุกคนก็ทำให้เห็นว่าเราสู้ได้ในการเจอกับทีมจากลีกสูงสุด” โค้ชโอ่ง กล่าวผ่าน bgputd
“จริงอยู่ที่เกมนี้ทีมเยือนอาจจะครองเกมได้ดีกว่า แต่ก็เป็นเรื่องของวิธีการเล่น หรือว่าประสบการณ์ของทีม แต่ถ้าดูจากโอกาสลุ้นประตูเรามีโอกาสมากกว่า เพียงแต่ว่าจังหวะสุดท้ายไม่เฉียบคมพอ และมาพลาดเสียประตูก่อน ก็ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะกลับมา ก็ต้องชมลูกทีมทุกคนที่ช่วยกันในนัดนี้ ทำให้รู้ว่ามาตฐานของเราอยู่ตรงไหน และได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเกมนี้”
สำหรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เคยคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ ได้ในฤดูกาล 2014 และรองแชมป์อีก 1 สมัย โดยหลังจากนี้ โค้ชโอ่ง กับลูกทีมมีคิวทำศึก ศึก M-150 แชมเปี้ยนชิพ 2019 นัดที่ 17 กับ ศรีสะเกษ เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน นี้ ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม เวลา 19:00 น.