ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย

ตัดเกรดแข้ง “ช้างศึก” เกมทีมชาติไทยพ่าย ทีมชาติเวียดนาม 1-0 คิงส์คัพ 2019

ผู้รักษาประตู – กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์: 6/10
กวินทร์ มีปัญหาในการสื่อสารกับแผงหลังในจังหวะออกมาตัดบอลหลายครั้งจนแฟนบอลได้เสี้ยวกันทั้งสนาม และควรจะปัดบอลให้ข้ามคานไปก่อน แทนที่จะพยายามรับในลูกเสียประตู

เซ็นเตอร์แบ็ค – พรรษา เหมวิบูลย์: 5.5/10
ปราการหลังวัย 28 ปีดูจะเคยชินกับการเล่นกับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่ไม่ค่อยออกมาตัดบอลบ่อยเหมือน กวินทร์ และเห็นชัดการตั้งแต่ต้นเกมว่า พรรษา มีปัญหาสื่อสารกับ กวินทร์ ในจังหวะออกมารับบอลพอสมควร นี่ยังไม่รวมตอนที่เขาหลุดตำแหน่งไปตัดบอลสูง แต่กลับผลาดจนตัวรุกเวียดนามได้ลากเข้ามาลองยิง

เซ็นเตอร์แบ็ค – สุพรรณ ทองสงค์: 6/10
สุพรรณ ยังคงรักษาปอร์มจากทัวร์นาเมนต์ ไซน่าคัพ ได้ดี แนวรับ สุพรรณบุรี เอฟซี เล่นเน้นปลอดภัยไว้ก่อน และไม่มีข้อผิดพลาด แต่ก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรในการช่วยขึ้นเกมฝ่าแนวเพรสซิ่งของคู่แข่ง

เซ็นเตอร์แบ็ค – อดิศร พรหมรักษ์: 6.5/10
ในเซ็นเตอร์แบ็คทั้ง 3 อดิศร เป็นคนที่เล่นกับบอลได้เป็นธรรมชาติที่สุดจึงถูกจับมายืนตัวรับฝั่งซ้าย เขาเอาชนะจังหวะดวลตัวต่อตัวได้ดี เข้าสกัดอย่างหนักหน่วง และออกบอลได้แม่นยำในจังหวะขึ้นเกม น่าจะเป็นคนที่สอบผ่านที่สุดจากกองหลังทั้งหมด

วิงแบ็คขวา – ทริสตอง โด: 6.5/10

ทริสตอง ถูกกดให้เล่นเกมรับซะเยอะ แต่ก็รับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้ดี แถมครึ่งหลังยังเขามีส่วนไล่บีบสูงมากขึ้น พยายามชิงบอลให้ได้ในแดนเวียดนามเพื่อสร้างโอกาสทำประตู แม้จะน่าเสียดายที่มันไม่เกิดผลก็ตาม

มิดฟิลด์ – ธนบูรณ์ เกษารัตน์: 6/10

ครึ่งแรก ธนบูรณ์ ดูเหมือนจะตามเกมไม่ทัน เล่นช้ากว่าคนอื่นประมานครึ่งจังหวะตลอด และเสียฟาวล์เพราะเข้าบอลช้าหลายครั้ง อย่างไรก็ดี ว่าที่กองกลาง การท่าเรือ เอฟซี สามารถยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นได้ในครึ่งหลัง

มิดฟิลด์ – ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์: 6.5/10

มิดฟิลด์ห้องเครื่องจาก โออิตะ ทรินิตะ ทำงานหนักในแดนกลางทั้งรุก และรับ แถมมีโอกาสลุ้นประตูจากลูกยิงไกลอีกต่างหาก

ทว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับ ฐิติพันธ์ คือเขาดูจะหมดแรงไปดื้อๆ ช่วง 10 นาทีสุดท้าย และการควบคุมอารมณ์ที่ไม่น่าโดนแข้งเวียดนามยั่วโมโหง่ายขนาดนี้ วันหน้าหาก “เจ้านิว” เผลอไปบ้องกระโหลกคู่แข่งในรายการใหญ่กว่านี้ คงไม่รอดโดนแดงแน่ๆ

มิดฟิลด์ – สารัช อยู่เย็น: 5.5/10

ครึ่งแรก สารัช หายจากเกม และไม่มีส่วนร่วมในการต่อบอลซึ่งเป็นจุดเด่นของเขาเลย

วิงแบ็คซ้าย – ธีราทร บุญมาทัน: 6.5/10

ทักษะเอาตัวรอดอันยอดเยี่ยมของ ธีราทร ช่วยทีมชาติไทยดิ้นหลุดจากแนวเพรสซิ่งเวียดนามหลายครั้ง แถมวิงแบ็คซ้าย “ช้างศึก” รับผิดชอบเกมรับได้ดี หากจะมีจุดที่ “โก๋อุ้ม” ผิดหวังในตัวเองก็คงเป็นลูกตั้งเตะที่ปกติเขาวางได้แม่นยำกว่านี้มาก

มิดฟิลด์ตัวรุก – สุภโชค สารชาติ: 7/10

ต้องขอบคุณ สุภโชค และทักษะการไปกับบอลที่ดีของเขาที่ช่วยเป็นอีกกุญแจสำคัญพาทีมชาติไทยดิ้นหลุดจากแนวเพรสซิ่งของเวียดนาม

มิดฟิลด์ “ปราสาทสายฟ้า” ดูมีชีวิตชีวา และสร้างสรรค์โอกาสได้มากกว่าตัวรุกทีมชาติไทยคนไหน จะให้ สุภโชค มาเสียบแทนที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ 100% คงเป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้ก็ถือว่าแข้งวัย 21 สอบผ่าน

ศูนย์หน้า – ศุภชัย ใจเด็ด: 6/10

จุดเด่นของ ศุภชัย ใจเด็ด คือสัญชาตญาณในการหาพื้นที่อันยอดเยี่ยม ทุกโมเม้นต์ติดตาในนามทีมชาติของเขาล้วนเป็นจังหวะสอดขึ้นมาทำประตูจากตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่กองหน้าทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงอย่าแปลกในที่ “เจ้าอาร์ม” จะหายเงียบไปตลอดเกมเมื่อถูกจับไปยืนกองหน้าคนเดียว สลับบทบาทจากผู้สอดเข้าไปจบสกอร์ในที่ว่าง เป็นผู้ต้องเปิดพื้นที่ให้คนอื่นแทน

ตัวสำรอง

มิดฟิลด์ตัวรุก – สุมัญญา ปุริสาย: 7/10

สุมัญญา ลงมาแทน สารัช ปรับจังหวะให้ทัพ “ช้างศึก” เคลื่อนบอลกันรวดเร็ว และแม่นยำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปลุกแดนกลางทีมชาติไทยจากหน้ามือเป็นหลังมือ แถมยังเปิดลูกตั้งเตะได้คมกริบอีกด้วย

ศูนย์หน้า – ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา: 6/10

ลงมาท้ายเกมเลยไม่มีเวลาทำอะไรมากนักนอกจากจังหวะเชื่อมบอลกับพี่ชาย สุภโชค สารชาติ และวิ่งเบียดกองหลังคู่แข้ง

หัวหน้าผู้ฝึกสอน – ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย: 6/10

เกมนี้เป็นการปะทะกันของ 2 ชาติที่มีความสามารถใกล้เคียงกันสุดๆ เท่ากับการแก้เกมของกุนซือจะมีผลต่อผลการแข่งขันอย่างมาก ทว่า โค้ชโต่ย ใช้ว่าตัดสินใจเปลี่ยนตัวค่อนข้างนาน แถมการส่งเด็กอายุ 16 ลงสนามเพื่อลุ้นประตูทั้งๆ ที่มีกองหน้ามากประสบการณ์นั้งสำรองอยู่เพียบก็ดูจะเป็นการแก้เกมที่แหวกแนวพอสมควร