ฟุตบอลไทย ไทยลีก

เซอร์เด็จ ลั้น “ไม่มี VAR มันก็อย่างเงี้ย” หลัง “สิงห์เจ้าท่า” แบ่งแต้ม “แข้งเทพ” 1-1

จเด็จ มีลาภ เฮดโค้ช การท่าเรือ เอฟซี เชื่อการถูกตีเสมอเร็วมีส่งผลต่อการแข่งขัน และจังหวะปัญหาประท้วงจุดโทษท้ายเกมน่าจะไม่เกิดขึ้นหากมี VAR

‘สิงห์เจ้าท่า’ จ่าฝูง โตโยต้า ไทยลีก 2019 เปิด แพท สเตเดี้ยม แบ่งแต้ม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แบบสุดมันส์ 1-1

ฝั่งเจ้าบ้านเริ่มเกมได้ดุดันกว่า และขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 12 จากจังหวะโหม่งลูกเตะมุมของ เอเลียส ดอเลาะ ทว่าทัพ ‘แข้งเทพ’ ก็ยิงตีเสมอคืนได้แทบจะทันทีจาก เนลสัน โบนีญ่า นับเป็นประตูที่ 8 จากเกมลีก 6 นัดหลังสุดของศูนย์หน้าทีมชาติเอล ซัลวาดอร์

หลังเกม จเด็จ มีลาภ กล่าวการถูกตีเสมอเร็วของทีมว่า “ทุกคนตั้งใจมากในเกมนี้ เรานำไปก่อน 1-0 แต่เรามาเสียเร็วไปหน่อย เสียสมาธิไปนิด ถ้าเกิดระยะทางการเสียประตูมันไม่เร็วแบบนี้ ผมว่าเราน่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้”

“มีหลายจังหวะที่เราน่าจะได้ และเขาก็น่าจะได้ เป็นเกมที่สนุกมากครับ ทั้ง 2 ทีมเล่นกันด้วยแทคติก ด้วย[ความ]ใจสู้ทุกอย่าง”

ท้ายเกม การท่าเรือ เอฟซี ควรจะได้จุดโทษจากจังหวะที่ เซร์คิโอ ซัวเรซ ตัวรุกทีเด็ดของทีมถูกสกัดล้มลงในเขตโทษ ทว่า อาคม เจริญสุข ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวกลับเป่าเป็นฟรีคิกนอกกรอบ เกิดการประท้วงวุ่นวาย จนนำไปสู่ใบแดงของ ซัวเรซ ในจังหวะที่เขาปาบอลใส่คู่แข่ง ซึ่ง ‘เซอร์เด็จ’ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการนี้ว่า

“การไม่มี VAR มันก็อย่างเงี้ย จริงๆ แล้วลูกนั้นถ้าดู VAR เหมือนที่เราดูจากเทป น่าจะเข้า[ไปในกรอบเขตโทษ]เป็นเมตร”

“ตรงนั้นเราควรจะได้จุดโทษ ก็น่าเสียดาย เป็นชนวนเหตุให้นักเตะของเราเสียอารมณ์จนเสียใบแดง ซึ่งเราก็เสียตัวสำคัญไปด้วย ทำให้ 10 นาทีสุดท้ายเราต้องเล่น 10 คน”

“ก็น่าเสียดาย ถ้ามันได้จุดโทษเขาคงไม่เกิดอารมณ์ตรงนั้นเพราะมันเป็นจุดโทษจริงๆ”

สำหรับ การท่าเรือ เอฟซี มีทั้งหมด 24 คะแนนจาก 11 เกม ยังคงรั้งอันดับ 1 โตโยต้า ไทยลีก 2019 ต่อไป นำหน้าอันดับ 2 และแชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 คะแนน แต่ทัพ ‘ประสาทสายฟ้า’ ยังได้เปรียบเนื่องจากมีเกมในมืออยู่อีก 2 นัด