บุรีรัมย์ เสี่ยงสะดุด
แม้ศึก โตโยต้า ไทยลีก 2019 สัปดาห์ที่ 10 จะไม่มีเกมคืนวันศุกร์ให้ชม แต่คู่แรกเย็นวันเสาร์ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ก็ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลพลาดไม่ได้เด็ดขาด
วันอาทิตย์ก่อนทัพ “ปราสาทสายฟ้า” เอาตัวรอดแบบฉิวเฉียดในเกมเยือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี แต่ลูกทีมของ โบซิดาร์ บันโดวิช น่าจะมีกำลังใจขึ้นพอสัมควรจากเกม ช้าง เอฟเอ คัพ กลางสัปดาห์ที่เปิดบ้านดับซ่า พีทีที ระยอง สวยงาม 3-1
บรรยากาศในสนามเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ “สวาทแคท” ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง อีกทั้งการพบกันตอนนี้ก็ดูจะเหมาะเหม็งสุดๆ
“แชมป์เซราะกราว” ของ บันโดวิช ยังคงปรับตัวจากการเสีย ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต พวกเขาไม่ได้ถล่มคู่แข่งเป็นว่าเล่นเหมือนก่อน จะเก็บ 3 แต้มแต่ละครั้งก็ต้องเหนื่อยกันหน่อย
แม้เกมรุกจะฝืดแค่ไหน แต่ บันโดวิช ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบุก เข้าทางฟุตบอลเหนียวแน่น แล้วโต้กลับของ มิลอส โจซิค เต็มๆ ซึ่งชัยชนะเกมลีก 2 ครั้งหลังสุดของ นครราชสีมา ล้วนมาจากเกมกับทีมใหญ่ (ที่วางแผนมาบุกใส่ โคราช) อย่าง ชลบุรี เอฟซี และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งนั้น โดย เบอร์นาร์ด เฮนรี่ ตัวรุกชาว ไอวอรีโคสต์ คือตัวแปรสำคัญในเกมนี้หลังมีชื่อเป็นผู้ทำประตูติดต่อกันมา 4 นัดรวดในทุกรายการ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังไม่แพ้ใครในบ้าน เท่ากับเกมเหย้ายังเชื่อใจได้ อย่างไรก็ตามซีซั่นนี้พวกเขาเคยพลาดเสมอมาแล้วถึง 3 นัด เพราะฉะนั้น โคราช มีโอกาสสูงที่จะแบ่งแต้มจากแมตช์นี้
แข้งเทพ ห้ามประมาท
วันเสาร์ ทรู แบ็งค็อก ยูไนเต็ด มีโอกาสทองที่จะสานต่อฟอร์มร้อนแรงของพวกเขาในเกมเยือน เชียงใหม่ เอฟซี ซึ่ง 2 นัดล่าสุดโดนเสียไปถึง 11 ประตู สุ่มเสี่ยงมากที่จะโดนยำใหญ่อีกครั้งด้วยน้ำมือของ “แข้งเทพ” ที่เพิ่งถล่ม พีที ประจวบ เอฟซี 6-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน
ลูกทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง โชคดีมากที่จับฉลาก ช้าง เอฟเอ คัพ พบสโมสร เชียงใหม่ดรีม เอฟซี เมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้พวกเขาไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกลหลายรอบ แต่ได้ปักหลักอยู่ เชียงใหม่ อยู่แล้ว
สิ่งหนึ่งที่ มาโน่ เน้นย้ำอย่างชัดเจนหลังเกมล้ม พีที ประจวบ เอฟซี คือความสำคัญของสมาธิ รักษาไว้ซึ่งความต่อเนื่อง เก็บ 3 แต้มให้ได้เรื่อยๆ เพื่อเกาะกลุ่มหัวตารางต่อไป
เกมรุกของ ทรู แบ็งค็อก ยูไนเต็ด ดูไหลลื่น ดุดันขึ้นมากเมื่อได้ สรรวัชญ์ เดชมิตร หายเจ็บกลับมายืนข้างจอมขยันอย่าง แอนโธนี อําไพพิทักษ์วงศ์ และหากไม่มีอะไรผิดพลาด นี่ก็น่าจะเป็นอีกเกมที่ “แข้งเทพ” จะได้โชว์โหดให้คอบอลชมกัน
บททดสอบของ เซอร์เด็จ ในฐานะผู้ท่าชิงแชมป์ ไทยลีก 2019
เกมสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือจ่าฝูง การท่าเรือ เอฟซี ที่ชนะมา 6 นัดติดในทุกๆ รายการจะบุกเยือน ชัยนาท ฮอร์นบิล
นาทีนี้ไม่มีแข้งไทยรายไหนจะฮอตไปกว่า บดินทร์ ผาลา ผู้ซัดไปแล้ว 4 ประตูจาก 3 เกมลีก อีกทั้ง “สิงห์เจ้าท่า” ยังมีข่าวดีเมื่อได้ นิติพงษ์ เสลานนท์ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง
ทว่าฝั่งเจ้าบ้าน “นกใหญ่พิฆาต” ก็ไม่ใช่โจทย์ง่าย โดยฉะเพราะเกมในบ้านที่ปราบทีมใหญ่อย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ทรู แบ็งค็อก ยูไนเต็ด แบบหมดท่ามาแล้ว
นับตั้งแต่เปิดซีซั่นมาแทคติกวิ่งไล่เพรสซิ่งหนักของ เดนนิส อมาโต้ โดยรวมถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างมาก และน่าจะนำมาซึ่งเกมที่สนุกสนามไม่น้อยเมื่อมาโคจรมาพบฟุตบอลเกมรุกของ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ
ในสัปดาห์ที่ 5 ของการแข่งขัน การท่าเรือ เอฟซี เคยพลาดท่าพ่าย สุโขทัย เอฟซี อีกหนึ่งทีมที่เน้นระบบเพรสซิ่งเป็นหลัก นี่จึงเป็นบททดสอบชิ้นใหญ่ที่กุนซือมากประสบการณ์อย่าง “เซอร์เด็จ” ต้องก้าวข้ามให้ได้หากฝันจะเป็นผู้ท่าชิงแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก 2019 อย่างจริงจัง