ปาโก้ อาเยสตาราน อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ลิเวอร์พูล ในยุคของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ ชี้ทัพ “หงส์แดง” ต้องตัดเส้นทางลำเลียงบอลไปยัง ลิโอเนล เมสซี่ ให้ได้หากฝันจะเก็บผลการแข่งขันจากเกมรอบรองชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เลกแรก
การพบกันของทั้ง 2 ทีมครั้งนี้นับเป็นการเยือนถิ่น คัมป์ นู ในรอบ 12 ปีของ ลิเวอร์พูล โดยครั้งก่อนหน้านี้ต้องย้อนกลับไปถึง กุมภาพันธ์ 2017 ซึ่งทีมของ เบนิเตซ และ อาเยสตาราน เป็นฝ่ายชนะไปได้ 2-1
ตามคำแนะนำของ อาเยสตาราน สิ่งที่ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องทำคืออัดผู้เล่นแดนกลางให้แน่น บีบ 3 มิดฟิลด์ ‘ต่างดาว’ ให้เชื่อมบอลกำลังไม่ติด เพื่อตัด ลิโอเนล เมสซี่ ออกจากเกม
“คำถามแรกเมื่อคุณพบ บาร์เซโลน่า คือ: คุณจะปล่อยให้ใครมีเวลาได้ครองบอล?” อดีตกุนซือ บาเลนเซีย และ มัคคาบี้ เทล อาวีฟ เกริ่นกับ The Times
“ตอนผมไปเยือนสมัยคุม บาเลยเซีย เราปล่อยให้เซ็นเตอร์แบ็คของเขามีเวลาครอง แล้วไปไล่บีบอย่างจริงจังบริเวณริ้มเส้น”
“แน่นอน นอกจากเราจะต้องเล่นให้เพอร์เฟคแล้ว เราก็ต้องพกดวงมาด้วยเพราะท้ายที่สุด ยังไง บาร์เซโลน่า ก็จะสร้างโอกาสเข้าทำได้อย่างอยู่แล้ว”
“แดนกลาง บาร์ซ่า แข็งแกร่งมาก เพราะฉะนั้น ลิเวอร์พูล ควรคิดกลยุทธ์มาหยุด เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อาเธอร์, อิวาน ราคิติช และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่”
“หากนักเตะเหล่านี้มีเวลา ความหายนะก็จะบังเกิด”
ไม่เพียงแค่ เมสซี่ เท่านั้น แต่แบ็คซ้ายจอมบุก ฆอร์ดี้ อัลบา ก็เป็นผู้เล่นอีกรายที่ อาเยสตาราน เชื่อว่าสามารถสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับ ลิเวอร์พูล ได้ไม่น้อย โดยฉะเพราะอย่างยิ่งในพื้นที่ริมเส้น
“หลายคนมุ่งความสนใจไปที่ เมสซี่ แต่ผู้เล่นแดนหน้าจะอันตรายได้ก็ต่อเมื่อบอลไปถึงพวกเขาถูกที่ ถูกเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นกับพวกที่อยู่แดนกลาง” อาเยสตาราน เสริม
“ข้อที่ควรระวังคือเมื่อคุณปิดแดนกลาง แบ็คซ้าย ฆอร์ดี้ อัลบา ก็จะมีพื้นที่ และเวลาได้การสร้างสรรค์เกม”
“อีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจคือด้าน บาร์เซโลน่า เองจะเล่นวางแผนมาเล่นยังไงในเกมนี้? ปกติ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เล่นคล้ายๆ เดิม ไม่ว่าจะเจอกับใคร และผมก็เชื่อว่าพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงระบบในนัดนี้เช่นกัน”
“ทุกวันนี้ ลิเวอร์พูล คือทีมใหญ่ สามารถบดขยี้คู่แข่งได้ด้วยความดุดันของพวกเขา และสไตล์ฟุตบอลที่ออกบอลแนวลึกไปหาผู้เล่นแดนหน้าได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พวกเขาสามารถสร้างสรรค์โอกาสได้ในชั่วพริบตา”
อาเยสตาราน รับหน้าที่มือขวา ราฟา อยู่ 3 ปี ระหว่าง 2004 ถึง 2007 มีผลงานช่วย ลิเวอร์พูล คว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปี 2005 และ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล ต่อมา