ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์ไดนาโม โออิตะ ทรินิตะ สโมสรน้องใหม่แห่งศึก เจลีก 1 อัพเดทการปรับตัวบนเวทีฟุตบอลญี่ปุ่น และการพิสูจน์ฝีเท้าจนเป็นที่ยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมใหม่
เป็นเวลาราว 3 เดือนแล้วนับตั้งแต่ ‘เจ้านิว’ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์ห้องเครื่องทีมชาติไทยย้ายไปร่วมทัพ โออิตะ ทรินิตะ และได้รับโอกาสลงสนามในลีก 6 เกมรวดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลก่อนหายจากทีมไปใน 2 นัดหลังสุดเหตุเพราะอาการบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกองกลางหมายเลข 44 ได้ออกมาเปิดเผยผ่าน bgputd.com ว่าที่จริงเบื่องหลังทุกอย่างไม่ได้สวยหรูอย่างที่เห็น
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตนอกสนามที่ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะปรับตัวได้ ไปจนถึงในสนามที่ต้องรับมือกับแทคติก วิธีการเล่นใหม่ๆ และการซ้อมที่ “หนักแบบไม่เคยเจอมาก่อน”
“ช่วง 2-3 นัดแรก ผมจะไม่ค่อยได้บอล เพราะเพื่อนอาจจะไม่ไว้วางใจเท่าไหร่” ฐิติพันธ์ เล่าถึงอุปสรรคในการพิสูจน์ตนเองเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม
“แต่หลังจากผ่านไปแล้ว ผมก็เริ่มประสานกับเพื่อนและได้บอลบ่อยขึ้น มันหมายถึงความไว้วางใจที่เพื่อนมีให้กับเรา ส่วนโค้ชแรก ๆ ก็จะคอยสอนผมเรื่องทิศทางการวิ่งว่า วิ่งอย่างไรไปอยู่ตรงไหนถึงจะได้เปรียบ แต่หลัง ๆ ผมเริ่มปรับตัวได้ โค้ชก็จะแค่พูดถึงภาพรวมๆ ของทีมแทน”
จาก 6 นัดที่ได้ออกสตาร์ทตัวจริง ฐิติพันธ์ ถูกเปลี่ยนตัวออกถึง 4 ครั้ง ซึ่งแข้งวัย 25 ปีเล่าคำอธิบายจากโค้ช โทโมฮิโระ คาตาโนะซากะ ว่า
“โค้ชเขาให้เหตุผลว่า พอพ้นช่วง 60-70 นาทีไปแล้ว ผมเริ่มจะแผ่ว แรงวิ่งเริ่มไม่เหมือนเดิม ซึ่งผมก็ยอมรับเพราะวิ่งเยอะจริง ๆ อยู่ในไทยลีก วิ่งทั้งเกม 90 นาที ก็ประมาณ 8-9ก.ม. ซึ่งผมถือว่าผมวิ่งเยอะนะ แต่พอมาเล่นที่นี่ แค่ 60-70 นาที ผมวิ่งไป 9-10 ก.ม. มีเกมหนึ่งผมลงเล่นเต็มเกม สถิติออกมาผมวิ่งไป 12 ก.ม. ฟุตบอลที่นี่มันเล่นกันต่อเนื่องตลอดเวลา ไม่มีถ่วงเวลา แทบไม่มีเจ็บ และเพรสซิ่งกันตลอด”
ล่าสุด ฐิติพันธ์ กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งในศึกฟุตบอลถ้วย เจ ลีกคัพ ที่เปิดบ้านเสมอ นาโกย่า แกรมปัส เอต 2-2 แถมยังมีชื่อเป็นผู้ทำแอสซิสต์อีกด้วย