สัปดาห์ที่ผ่านมาวงการฟุตบอลยุโรปมีการแต่งกุนซือใหม่ที่น่าสนใจ 2 รายได้แก่ ซีเนดีน ซีดาน กับ เรอัล มาดริด และ เคลาดิโอ รานิเอรี กับ โรม่า โดยทั้งกุนซือทั้ง 2 ล้วนแต่เคยผ่านการทำงานกับทีมของตนมาแล้วทั้งคู่ เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการตกเทรนด์ ฟุตบอลไทรบ์ ไทยแลนด์ จึงขอทำทุกท่านไปพบกับ “6 กุนซือ ไทยลีก ผู้เคยคุมทีมปัจจุบันของตนมาแล้วมากกว่าหนเดียว!”
พนิพล เกิดแย้ม
สโมสร: อุดรธานี เอฟซี
คุมทีมครั้งแรก: 2017
รีเทิร์นรอบสอง: 2018
เพียงฤดูกาลเดียวในเก้าอี้กุนซือ “โค้ชตู่” พนิพล เกิดแย้ม ก็สามารถพา อุดรธานี เอฟซี เลื่อนชั้นจาก ไทยลีก 3 ขึ้นมาเล่นไทยลีก 2 ได้สำเร็จในฐานะรองแชมป์ ทว่าสาวก “ยักษ์แสด” ก็ต้องช็อคไปตามๆ กันเมื่อท้ายฤดูกาล โค้ชตู่ ประกาศอำลาทีมต่อหน้าแฟนบอลหลายพันคน
ชีวิตหลัง โค้ชตู่ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ อุดรธานี เอฟซี เห็นได้จากการที่พวกเขาเปลี่ยนโค้ชถึง 3 คน ก่อนสุดท้ายได้ฟ้าจะเป็นใจ ได้ โค้ชตู่ กลับมาคุมทีมอีกครั้งช่วงปลายซีซั่น 2018 และยาวมาจนถึงตอนนี้ซึ่ง อุดรธานี เอฟซี ก็กำลังโชว์ฟอร์มได้ดี เก็บได้ 10 คะแนนจาก 5 เกม รั้งอันดับ 6 ของตาราง
เกร็ดน่ารู้! สมัยค้าแข้ง โค้ชตู่ เคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดกับ จุฬา-สินธนา มาแล้วเมื่อปี 1998 ในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุกจอมทักษะ
สุรพงษ์ คงเทพ
สโมสร: สมุทรปราการ ซิตี้ เอฟซี
คุมทีมครั้งแรก: 2015
รีเทิร์นรอบสอง: 2016
หากพูดถึง สมุทรปราการ ซิตี้ เอฟซี หรือ พัทยา ยูไนเต็ด เดิม ใครๆ ก็ต้องนึกถึง สุรพงษ์ คงเทพ กุนซือผู้เป็นหัวใจความสำเร็จและเปรียบเสมือนกาวที่คอยรักษาทีมชุดนี้ไว้ด้วยกัน
ทว่าหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าก่อนที่ "โค้ชอั๋น" จะพาทีมมาโลดแล่นบน ไทยลีก แบบทุกวันนี้ กุนซือวัย 40 ปีเคยรับงานระยะสั้นกับสโมสรมาแล้วเมื่อปี 2015 และกำลังหลักที่ผลัก พัทยา ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นจาก ดิวิชั่น 1 (ลีกอันดับ 2 ของประเทศในตอนนั้น) ขึ้นมา ไทยลีก อย่างทุกวันนี้
เกร็ดน่ารู้! โค้ชอั๋น เคยคุมทีมเยาวชนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และได้ดึงแข้งดาวรุ่งเหล่านั้นมาร่วมทีม พัทยา ยูไนเต็ด (สมุทรปราการ ซิตี้ เอฟซี ณ ตอนนี้) จนหลายคนเช่น พิชา อุทรา หรือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักบนเวที ไทยลีก และ ทีมชาติไทย
ดาเนียล บลังโก้
สโมสร: อาร์มี่ ยูไนเต็ด
คุมทีมครั้งแรก: 2017
รีเทิร์นรอบสอง: 2018
บรังโก้ กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ถือเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากันสุดๆ เนื่องจากอดีตกองหลังชาวอาร์เจนไตน์ผู้นี้เคยค้าแข้งกับ “สุภาพบุรุษวงจักร” มาแล้วระหว่างปี 2012-13 ก่อนจะนั่งแท่นกุนซือ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 2017 ซึ่งสโมสรมีการเปลี่ยนโค้ชถึง 3 คน
หลังจากแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของฟุตบอล บรังโก้ ได้โอกาสคุมทีม กระบี่ เอฟซี แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ต้องวนมาร่วมงานกับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด อีกครั้งในซีซั่น 2019 นี้ โดยตั้งเป้าหมายเลื่อชั้นขึ้นสู่ โตโยต้า ไทยลีก ทันที ซึ่ง ณ ตอนนี้ทุกอย่างก็กำลังไปได้สวยสำหรับ บรังโก้ ที่พาทีมชนะมาแล้ว 5 นัดรวด มี 15 คะแนนเต็ม เป็นรองจ่าฝูง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพียงประตูได้เสียเท่านั้น
เกร็ดน่ารู้! ในสมัยนักเตะ ดาเนียล บรังโก้ เคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดลักเซมเบิร์กมาแล้ว(!) แถมมีดีกรีเป็นถึงเยาวชนทีมชาติอาเจนติน่า รับใช้ทัพฟ้าขาวมาแล้วตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 17 จนถึง 20 ปีอีกด้วย
โบซิดาร์ บันโดวิช
สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
คุมทีมครั้งแรก: 2014
รีเทิร์นรอบสอง: 2017
การคุมทัพ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนแรกของ โบซิดาร์ บันโดวิช จบลงภายในเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่กุนซือวัย 49 ปีก็ไม่ขอยอมแพ้ต่อความท่าทายของฟุตบอลไทยและได้โอกาสทำทีมต่อกับ บีอีซี เทโรศาสน (โปลิส เทโร เอฟซี ในปัจจุบัน) และ ศรีสะเกษ เอฟซี
ผลงานไร้พ่ายเกมเหย้าของ ศรีสะเกษ เอฟซี ในยุค บันโดวิช ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งจบอันดับ 4 ของตารางเมื่อก่อน ต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเองแล้วดึง บันโดวิช กลับมาทำงานอีกครั้งในซีซั่น 2017
พูดได้ว่านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอดีตเฮดโค้ช เอฟซี บาคู แทบไม่เคยทำให้สาวก “ปราสาทสายฟ้า” ผิดหวังด้วยการกวาดถ้วยรางวัลมากมาย รวมถึงคว้าแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก ถึง 2 ปีซ้อน แถมยังทำลายสถิติคะแนนรวมสูงสุดใน 2 ฤดูกาลที่คว้าแชมป์ลีกอีกด้วย
เกร็ดน่ารู้! โบซิดาร์ บันโดวิช เริ่มต้นเส้นทางกุนซือของเขาด้วยการเป็นหัวหน้าทีมวิเคราะห์คู่แข่งของ โอลิมเปียกอส ยักษ์ใหญ่แห่งลีก กรีซ
ชูศักดิ์ ศรีภูมิ
สโมสร: ระยอง เอฟซี
คุมทีมครั้งแรก: 2015
รีเทิร์นรอบสอง: 2018
ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่น 2015 “โค้ชชู” ชูศักดิ์ ศรีภูมิ สร้างชื่อด้วยการพา ระยอง เอฟซี เลื่อนชั้นจากลีกภูมิภาค ขึ้นมาสู่ ดิวิชั่น 1 หรือ ลีกรองของประเทศในตอนนั้นได้แบบเหนือความคาดหมาย แต่สุดท้ายก็ต้องแยกทางกับสโมสรด้วยเหตุผลการทำทีม
ข้ามมาซีซั่น 2018 โค้ชชู ก็ยังสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้ง คราวนี้เป็นการพา เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นจากไทยลีก 3 ขึ้นมาเล่นไทยลีก 2 ได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็มีอันต้องแยกทางกันจนได้ ก่อนจะหวนกลับมาร่วมงานกับทีมเก่า “ม้านิลมังกร” ในตอนนี้ ต้องรอดูกันว่า โค้ชชู จะดึงความสามารถพิเศษของตน แล้วพา ระยอง เอฟซี เลื่อนชั้นได้หรือไม่
เกร็ดน่ารู้! รู้หรือไม่ว่านอกจาก เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และ ระยอง เอฟซี แล้ว โค้ชชู ยังเคยรับงานหัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชทีมชาติลาว ในศึก ยู19 ชิงแชมป์ อาเซียน ปี 2017 ที่ อินโดนีเซีย แถม โค้ชชู ยังได้นำทีมชาติลาว ดวล กับ ทีมชาติไทย ในรายการนั้นอีกด้วย (ทีมชาติไทย ชนะ 3-0)
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค
สโมสร: โปลิศ เทโร เอฟซี
คุมทีมครั้งแรก: 2015
รีเทิร์นรอบสอง: 2018
รู้หรือไม่ ก่อนจะรับงานคุมทีมเต็มตัวในซีซั่นนี้ "โค้ชอ้น" รังสรรค์ เคยคุม โปลิศ เทโร เอฟซี หรือ บีอีซี เทโรศาสน เดิม ในฐานะกุนซือชั่วคราวมาแล้วถึง 3 ครั้ง เริ่มต้นในซีซั่น 2015 ที่เข้ามาแทนที่ เคนนี ชิลส์ (ต้นฤดูกาล) กับ มานูเอล คาชูด้า (ต้ท้ายฤดูกาล) และอีกทีในซีซั่น 2018 แทนที สก็อต คูเปอร์
การเข้ามาของ โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน ทำให้ โค้ชอ้น ถูกลดบทบาทลงไปเป็นมือขวาเหมือนเคย แต่ด้วยผลงานของ เทโร ที่มีแต่แย่ลงๆ ทำให้ โค้ชอ้น ถูกผลักมารับงานกุนซือชั่วคราวหนที่ 3 แทนที่ของ ธชตวัน ศรีปาน
น่าเสียดายที่อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติไทยไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ตามแผนจนทัพ “มังกรโล่เงิน” ต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
อย่างไรก็ดี ด้วยผลงานการนำทัพที่น่าประทับใจจากการเข้ามารับเผือกร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ฝ่ายบริหารมั่นใจในตัว โค้ชอ้น และมอบสัญญาคุมทีมเต็มตัวให้เขาในทีสุด พร้อมภารกิจพา โปลิศ เทโร เอฟซี ทะยานกลับสู่ โตโยต้า ไทยลีก ในเร็ววัน
เกร็ดน่ารู้! นอกจากเขาจะเคยคุม เทโร มาแล้วหลายครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่าในฐานะนักเตะ รังสรรค์ ก็เคยเล่นให้ เทโร มามากกว่าครั้งเดียวเช่นกัน รอบแรกระหว่างปี 1999–2001 และ 2012–2016 แถมยังคว้าถ้วยรางวัลติดไม้ติดมือได้ทั้ง 2 รอบอีกด้วย (แชมป์ไทยลีก 2000 และ ลีก คัพ 2014)