เอเชียนคัพ ทีมชาติไทย

ดีขึ้นมาก! ตัดเกรดแข้ง “ช้างศึก” แมตช์เชือด บาห์เรน 1-0 เอเอฟซี เอเชียนคัพ 2019 กลุ่ม เอ นัดที่ 2

ตัดเกรดแข้ง “ช้างศึก” หลังเก็บ 3 แต้มแรกในศึกเอเอฟซี เอเชียนคัพ 2019 กลุ่ม เอ ได้สำเร็จด้วยการเชือด บาห์เรน 1-0  จากประตูของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำให้ ทีมชาติไทย มีโอกาสลุ้นเข้ารอบอีกครั้ง และต้องไปวัดกันอีกที่ในนัดสุดท้ายกับเจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) วันจันทร์ที่ 14 มกราคม นี้

ผู้รักษาประตู – ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน: 7.5/10

โค้ชโต่ย ให้โอกาส ศิวรักษ์ เป็นมือหนึ่งแทนที่ของ ฉัตรชัย บุตรพรม และผู้รักษาประตูจากค่าย “ปราสาทสายฟ้า” ก็ไมทำให้ทีมงานต้องผิดหวัง โชว์จังหวะเซฟจ่อๆ ในนาทีที่ 28 ไม่ให้ ทีมชาติบาห์เรน ขึ้นนำ กลายเป็นโมเม้นต์สำคัญต่อยอดให้ ทีมชาติไทย ยังอยู่ในเกม จบคว้าชัยมาได้ในที่สุด

เซ็นเตอร์แบ็ค – อดิศร พรหมรักษ์: 7/10

ความคล่องตัวของ อดิศร มีประโยชน์อย่างมากในระบบหลัง 3 แม้เขาจะโดนใบเหลืองแบบไม่จำเป็นตั้งแต่ครึ่งแรก แต่โดยรวมถือเป็นฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจไม่น้อยหลังห่างหายจากทีมชาติไทยยาวนาน

เซ็นเตอร์แบ็ค – สุพรรณ ทองสงค์: 7/10

แม้จะมีประสบการณ์เกมชุดใหญ่น้อยกว่าใครเพื่อน แต่ สุพรรณ ก็ไม่ทำให้รุ่นที่ต้องลำบากแต่อย่างใด เซ็นเตอร์แบ็ค สุพรรณบุรี เอฟซี คอยซ้อน เก็บตกบอล 2 ได้หมดจด หากไม่นับจังหวะสไลด์บอลช้าจนโดนเหลือง ก็ถือว่าสอบผ่าน 100%

เซ็นเตอร์แบ็ค – พรรษา เหมวิบูลย์: 7/10

ในเกมใหญ่แบบนี้ นักเตะหลายคนอาจกดดันและเล่นผิดพลาดได้ง่ายๆ แต่นั่นไม่ใช่ พรรษา แน่นอน กองหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถรักษามาตรฐานตัวเองไว้ได้ และมีนิ่งพอที่ไม่โดนไล่ออกไปทั้งๆ ที่เขาโดนใบเหลืองคนแรกตั้งแต่นาทีที่ 13

วิงแบ็คขวา – ทริสตอง โด: 8.5/10

ทริสตอง โด เล่นเหมือนเป็นคนละคนกับเกมพบ ทีมชาติอินเดีย เขาวิ่งขึ้นลงริมเส้นฝั่งขวาตลอดทั้งเกม มีสมาธิรับผิดชอบเกมรับได้เยี่ยม แถมความเร็วของเขายังสร้างปัญหาให้แนวรับคู่แข่งได้ไม่น้อยอีกด้วย การันตีโดยลูกแอสซิสต์ประตูชัยของ ชนาธิป สรงกระสินธ์

มิดฟิลด์ตัวกลาง – ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์: 7/10

ฐิติพันธ์ ยังคงเล่นด้วยพละกำลังและความดุดันเช่นเคย ความขยันของเขามีประโยชน์อย่างมากในเกมแบบนี้ซึ่งผลัดกันครองบอล เสียบอลบ่อยๆ

มิดฟิลด์ตัวกลาง – ธนบูรณ์ เกษารัตน์: 6.5/10

ธนบูรณ์ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งและทำหน้าที่ปัดกวาดเกมรับได้อย่างเพอร์เฟค น่าเสียดายที่เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 68

วิงแบ็คซ้าย – ธีราทร บุญมาทัน: 7/10

หลังจากความผิดพลาดในเกมกับ อินเดีย ธีราทร สามารถแก้ตัวได้สำเร็จ ทักษะเฉพาะตัวและคลาสบอลที่เหนือชั้นของเขาสร้างความแตกต่างได้ชัดเจนทางฝั่งซ้าย วิงแบ็ควัย 28 ปีเล่นเกมรับได้ละเอียดกว่านัดที่แล้ว แถมมีจังหวะครอสบอลสวยๆ เข้ากลางให้เห็นอีกต่างหาก

มิดฟิลด์ตัวรุก – ชนาธิป สรงกระสินธ์: 8/10

ชนาธิป เล่นได้สมกับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ 1 ในแข้งทีมประจำฤดูกาล เจลีก ทักษะการเอาตัวรอดในที่แคบและการได้กับบอลที่คาดเดาไม่ถูกของ เจ ทำให้ บาห์เรน ปวดหัวตลอดเกม แม้ครึ่งแรกมิดฟิลด์ตัวรุก “ช้างศึก” จะเงียบไปในนิด แต่ก็สามารถเร่งฟอร์มได้ในครึ่งหลัง เป็นผู้ยิงประตูชัยสุดสวย และยังเกือบแอสซิสต์ให้ อดิศักดิ์ ไกรษร อีกด้วย

กองหน้า – ธีรศิลป์ แดงดา: 7.5/10

ธีรศิลป์ เคลื่อนที่ได้ยอดเยี่ยม จนผู้เล่น บาห์เรน มีปัญหาในการประกบเขาอย่างมาก เห็นได้จากโอกาสยิงหลายๆ ครั้งในครึ่งแรก ศูนย์หน้าวัย 30 ปีเล่นกันอย่างเข้าขากับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังที่ โค้ชโต่ย ปรับเขาลงมาเล่นต่ำในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกคู้กับ เจ เป็นคนช่วยเชื่อมบอล มีส่วนร่วมกับเกมมากกว่าเดิม

กองหน้า – อดิศักดิ์ ไกรษร: 6/10

เป็นอีกเกมที่น่าผิดหวังของ อดิศักดิ์ นอกจากจังหวะไหลบอลให้ ธีรศิลป์ ได้ลองยิงแล้ว ต้องบอกว่าเขาหายเงียบตลอดครึ่งแรก อดิศักดิ์ ออกตัวช้าไปสำหรับเกมสวนกลับและไม่แข็งแรงพอในจังหวะพักบอลให้เพื่อนคนอื่น ครึ่งหลังเขามีโอกาสยิงให้ไทยหนีห่าง 2-0 แต่โชคร้ายบอลชนเสาออกไป จากนั้น อดิศักดิ์ ไม่ได้มีผลงานอะไรเป็นพิเศษ และถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 80

มิดฟิลด์ตัวกลาง – สรรวัชญ์ เดชมิตร: 6.5/10

สรรวัชญ์ เล่นบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับแทนที ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ได้อย่างเนียนกริ๊บ แข้งจอมเทคนิคผ่านบอลอย่างแม่นยำและปรับปรุงจากเกมที่แล้วโดยการไม่เสียฟาล์วพร่ำเพรื่อ

กองหน้า – ศุภชัย ใจเด็ด: 6.5/10

ลงสนามในตำแหน่งศูนย์หน้าแทนที่ อดิศักดิ์ และมาช่วยเก็บบอล ต่อบอลเท้าสู้เท้ากับรุ่นพี่ได้ดี ศุภชัย ขยันไล่บอล แต่ยังต้องปรับเรื่องการตัดสินใจเล็กน้อย นอกนั้นถือว่าโอเค

เซ็นเตอร์แบ็ค – มิก้า ชูนวลศรี: -/10

มีเวลาน้อยไป ไม่สามารถให้คะแนนได้

หัวหน้าผู้ฝึกสอน – ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย: 8/10

โค้ชโต่ย คิดถูกที่ปรับมาเล่น 3-5-2 เป็นส่วนสำคัญให้ ธีราทร กับ ทริสตอง เติมเกมรุกได้เต็มที่ยิ่งขึ้น และดูเหมือนนักเตะทุกคนจะดูแฮปปี้กับอิสระในการเล่นกว่าเดิมมาก แม้รูปเกมจะวุ่นวายไปนิด แต่เชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป และนักเตะจะค่อยๆ ปรับเข้าหาระบบของ โค้ชโต่ย ไปดีขึ้นเรื่อยๆ สรุปแล้วถือเป็นนัดเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมของกุนซือวัย 49 ปี