พรีวิวเกมชี้เป็นชี้ตาย ทีมชาติไทย ปะทะ ทีมชาติอินเดีย ศึกเอเอฟซี เอเชียนคัพ 2019 กลุ่ม เอ นัดที่ 1
จุดแข็ง ทีมชาติไทย – ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจุดแข็งของทีมชาติไทยคือการได้ 3 ผู้เล่นต่างแดน (ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน) มาร่วมทัพ รวมถึงคุณภาพและประสบการณ์ที่พวกเขานำติดตัวกลับมาด้วย
ธีรศิลป์ แดงดา คือนักเตะเพียงคนที่หลงเหลือจากชุดชิงแชมป์เอเชียเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ความเก๋าเกมและการจบสกอร์ของกัปตันทีมป้ายแดงคือกุญแจสำคัญสู่การเข้ารอบต่อไปของทัพ ‘ช้างศึก’
อีกด้านนึง ธีราทร กลับมาเพิ่มความหลากหลายของเกมรุกริมเส้นและลูกตั้งเตะ ซึ่งอย่างที่เห็นกันในรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ แล้วว่านี้คือหนึ่งในทีเด็ดการเข้าทำของโค้ช มิโลวาน ราเยวัช
สุดท้ายคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์ตัวรุกความหวังของทีม ทักษะในการเอาตัวรอดและจังหวะบอลที่คิดเร็วทำเร็วของเขาคือสิ่งที่ ทีมชาติไทย ขาดหายไปในศึกชิงแชมป์อาเชียน
แข้ง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มีฤดูกาลอันยอดเยี่ยม ด้วยการซัดไปถึง 9 ประตู แถมมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม เจลีกซีซั่นที่ผ่านมา ทำให้ เจ น่าจะเป็นคนที่ ทีมชาติอินเดีย ต้องการจับตายมากที่สุดอย่างแน่นอน
จุดอ่อน ทีมชาติไทย – เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ทีมชาติไทย จำใจต้องมุ่งหน้าสู่ทัวร์นาเมนต์ใหญ่สุดในรอบ 12 ปีโดยไม่มีผู้รักษาประตูมือหนึ่ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บบริเวณใต้เท้า ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ จากการรับใช้ต้นสังกัด โอเอช ลูเวิน
แม้จะโชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นกับสโมสรแต่ ฉัตรชัย บุตรพรม กับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 2 ผู้รักษาประตูซึ่งได้โอกาสเฝ้าเสาแทน กวินทร์ ในศึก ชิงแชมป์อาเซียน เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนก็แสดงถึงความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ให้เห็นแทบทุกเกม
ถึงตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็น ฉัตรชัย หรือ ศิวรักษ์ ที่ได้สวมถุงมือตัวจริงนัดพบ ทีมชาติอินเดีย แต่สิ่งที่รู้แน่นอนคือเขาคนนั้นจำเป็นต้องยกระดับตัวเองขึ้นมาให้ได้ มิฉะนั้น ทีมชาติไทย อาจตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากได้ง่ายๆ
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง (ทีมชาติไทย) – ชัยชนะเท่านั้น คือสิ่งที่ ทีมชาติไทย ต้องการจากเกมประเดิมสนามกับ ทีมชาติอินเดีย หากทัพ ‘ช้างศึก’ ฝันจะผ่านเข้ารอบต่อไปให้สำเร็จ
ทางเดียวที่จะคว้าชัยมาได้นั้นก็ต้องมีประตู และคงไม่มีนักเตะไทยคนไหนรู้เรื่องนี้ดีไปกว่า ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าความหวังของแฟนบอลทั้งประเทศอีกแล้ว
จริงอยู่ที่ อดิศักดิ์ ไกรษร เพิ่งคว้าดาวซัลโว จากศึก ชิงแชมป์ อาเซียน มาได้แต่กองหน้าจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ดูยังไม่ฟิตเต็ม 100 และไม่มีส่วนร่วมกับเกมเท่าที่ควร ต่างจาก ‘เทพมุ้ย’ ที่ซีซั่นนี้ซัดให้ต้นสังกัด ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า ถึง 7 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ แสดงความครบเครื่องในการเล่นที่ ทีมชาติไทย มองหาในกองหน้าตัวเป้า
จุดแข็ง ทีมชาติอินเดีย – จุดแข็งของ ทีมชาติอินเดีย ชุดนี้อยู่ที่ความฮึกเหิมและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทีมที่สร้างกันมาอย่างต้องเนื่องเป็นเวลากว่า 4 ปีภายใต้การดูแลของ สตีเฟ่น คอนสแตนติน เฮดโค้ชชาว อังกฤษ
กุนซือวัย 56 ปีเปลี่ยน อินเดีย จากทีมรองบ่อนเป็นที่สุดแห่ง เอเชีย ใต้ได้สำเร็จ แถมล่าสุดยังออกไปเสมอ ทีมชาติจีน โดยไม่เสียประตูอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องยกเครดิตให้ คอนสแตนติน ที่กล้าดันแข้งดาวรุ่งขึ้นชุดใหญ่หลายคน ทำให้ ทีมชาติอินเดีย ชุดนี้เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยอายุน้อยอันดับ 2 ในศึก เอเชียนคัพ 2019
จุดอ่อน ทีมชาติอินเดีย – แม้พวกเขาจะมีแข้งหนุ่มที่มุ่งมั่นอยากพิสูจน์ตัวเอง แต่นักเตะชุดนี้ทุกคนล้วนค้าแข้งอยู่ใน อินเดียน ซูเปอร์ลีก และสโมสรจาก อินเดีย ก็ไม่มีผลงานโดดเด่นในเวทีระดับ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เลย ซึ่งแสดงถึงศักยภาพโดยรวมที่ไม่น่าจะหนีจาก ทีมชาติไทย นัก
ประสบการณ์บนเวทีระดับทวีปที่น้อยนิด บวกกับแรงกดดันต่างๆ นาๆ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้หลายคนกังวลว่า ทีมชาติอินเดีย จะเอาอยู่หรือไม่
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง (ทีมชาติอินเดีย) – ตัวอันตรายที่ ทีมชาติไทย ต้องจับตาดูคือ สุนิล เชตรี ศูนย์หน้าวัย 34 เจ้าของสถิติดาวซัลโวตลอดกาลทีมชาติ (65 ประตู) และสถิติรับใช้ทีมชาติสูงสุดตลอดอันดับ 2 (104 นัด)
สุนิล เชตรี กับผู้รักษาประตู กูร์ปรีท ซิงห์ ซานดู คือ 2 นักเตะสุดท้ายที่เหลืออยู่จากชุด เอเชียนคัพ 2011 และประสบการณ์ของพวกเขาคือสิ่งจำเป็นอย่างมากในการประคองน้องๆ ในทีมในศึกชิงแชมป์ เอเชีย ครั้งแรกของทุกคน