เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ศึกศักดิ์ศรีแห่งวงการฟุตบอล อาเซียน จบลงได้เรียบร้อยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านโดย ทีมชาติเวียดนาม บุกไปเสมอ 2-2 ก่อนกลับมาเปิดบ้านเฉือน ทีมชาติมาเลเซีย 0-1 คว้าตำแหน่งเจ้า อาเซียน ได้ครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี และนี่คือ 11 ผู้เล่นจากทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์จากการคัดเลือกโดยกูรู ฟุตบอลไทรบ์ จากชาติ อาเชียน
ผู้รักษาประตู
ฟาริซอล มัรลิยาส - มาเลเซีย
อายุ: 32 ปี
การสลับ ฟาริซอล มัรลิยาส มาเป็นมือหนึ่งคือการปรับแทคติกชั้นยอดของโค้ช ตัน เชง โฮ โดยผู้รักษาประตูยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม มีความสามรถได้การออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษในสไตล์สวีปเปอร์-คีปเปอร์ที่ดี ช่วยให้แนวรับ ทีมชาติมาเลเซีย ดันสูง ไล่เพรสซิ่งได้ง่ายขึ้นอย่างที่เห็นในรอบรองชนะเลิศ 2 นัดกับ ทีมชาติไทย
แบ็คขวา
ซามี ซาฟารี - มาเลเซีย
อายุ: 20 ปี
ฟูลแบ็คจอมขยันคือผู้เล่นที่ดีที่สุดของทัพ ‘เสือเหลือง’ ตลอดรายการชิงแชมป์อาเซียนโดยมีลูกยิงไกลตีเสมอ ทีมชาติไทย 1-1 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นไฮไลท์ส่วนตัว
ซามี ซาฟารี วัย 20 เล่นด้วยความดุดัน กัดไม่ปล่อย และมีแววเป็นกำลังสำคัญของ ทีมชาติมาเลซีย ต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า
เซ็นเตอร์แบ็ค
ตรัน ดินห์ ตรอง - เวียดนาม
อายุ: 21 ปี
ดินห์ ตรอง เป็นคีย์แมนหลักผู้เสริมความสมดุลให้เกมรับ เวียดนาม ที่ไม่เสียแม้แต่ประตูเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม เขาเล่นได้เสมอสม่ำและเป็นกำลังสำคัญช่วยทีมคว้าแชมป์เจ้าอาเซียนสมัยที่ 2
เซ็นเตอร์แบ็ค
ชะห์รุล สะอั๊ด - มาเลเซีย
อายุ: 25 ปี
ชะห์รุล สะอั๊ด ยืนหลังกับคู่หู ไอดิล ซอฟวาน ได้เหนียวแน่น เป็นความหวังของทีมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ แข้งวัย 25 ปีเล่นได้คงเส้นคงวา มีความขยันและยังผ่านบอลได้คล่องแคล่ว ลงตัวพอดีกับแทคติกที่เน้นครองบอลของทีม
แบ็คซ้าย
กรกช วิริยอุดมศิริ - ไทย
อายุ: 30 ปี
กรกช เข้ามารับผิดชอบตำแหน่งแบ็คซ้ายของ ธีราทร บุญมาทัน ที่ติดภารกิจกับ วิสเซล โกเบ ได้อย่างยอดเยี่ยม การเปิดบอลที่แม่นยำและลูกตั้งเตะเชื่อใจได้ช่วยให้ กรกช มีส่วนร่วมกับการได้ประตูของทีมถึง 3 ลูก (ยิงเอง 1 และแอสซิสต์อีก 1) มากกว่ากองหลังคนไหนในรายการนี้
ปีกขวา
ริโก้ ซิมานจุนตัค - อินโดนีเซีย
อายุ: 26 ปี
แม้ อินโดนีเซีย จะตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่ผลงานส่วนตัวของ ริโก้ ที่มีทั้งความเร็วและลีลาการลากเลื้อยที่ตื่นตาตื่นใจก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสมควรอยู่ในลิสต์นี้
มิดฟิลด์
เหงียน กวง ไฮ - เวียดนาม
อายุ: 21 ปี
3 ประตูกับ 2 แอสซิสต์คือผลงานที่ไม่เลวเลยสำหรับ กวง ไฮ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจของทีมชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ครั้งนี้ ทักษะที่ยอดเยี่ยม ความดุดันและความเด็ดขาดในจังหวะเข้าทำช่วยให้แข้งวัย 21 ปีคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่ามาครองได้สำเร็จ
มิดฟิลด์
สรรวัชญ์ เดชมิตร - ไทย
อายุ: 29 ปี
มิดฟิลด์ตัวรุก ‘ช้างศึก’ จบรายการด้วยตำแหน่งจอมใจกว้างด้วยสถิติ 4 แอสซิสต์ การสร้างสรรค์เกมของ ทีมชาติไทย แทบทุกจังหวะล้วนเริ่มต้นมาจาก สรรวัชญ์ ทั้งนั้นและหากคิดดูดีๆ สรรวัชญ์ ยังคงสร้างโอกาสให้เพื่อนยันนาทีสุดท้าย ซึ่งเขาเป็นคนวางบอลลึกที่มอบจุดโทษให้กับ ทีมชาติไทย
ปีกซ้าย
ฟาน วาน ดุ๊ก - เวียดนาม
อายุ: 22 ปี
หนึ่งในนักเตะฟอร์มแรงที่สุดในรายการนี้ วาน ดุ๊ก ยิงให้ เวียดนาม 2 บวกแอสซิสต์อีก 3 ทำให้เขาเป็นตัวสร้างสรรค์เกมขาดไม่ได้ในตำแหน่งริมเส้น
กองหน้า
นูรชะห์รุล อิดลัน - มาเลเซีย
อายุ: 33 ปี
ศูนย์หน้าวัย 33 ปียังใช้ความเก๋าเอาตัวรอดได้ดี เป็นตัวเชื่อมบอลสำคัญในเกมรุก พา ทีมชาติมาเลเซีย ทะลุเข้าชิงและจบทัวร์นาเมนต์ในฐานะดาวซัลโวของทีม
กองหน้า
เหงียน อันห์ ดุ๊ก - เวียดนาม
อายุ: 33 ปี
ผลงาน 4 ประตูของ อันห์ ดุ๊ก ทำให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของ เวียดนาม และ อันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์ ศูนย์หน้ามากประสบการณ์มีทีเด็ดในการจบสกอร์ในกรอบเขตโทษและเป็นผู้ทำประตูเดียวในรอบชิงชนะเลิศ เลก 2 ซึ่งการันตีแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ครั้งแรกของ ทีมชาติเวียดนาม ในรอบ 10 ปี
ขอบคุณรูปภาพจาก @changsuek