ศึก เจ ลีก 1 กำลังจะเตะนัดส่งท้ายฤดูกาลกันในวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคมนี้ จึงเป็นโอกาสสุดท้ายให้หลายสโมสรได้สู้เฮือกสุดท้ายเพื่อจบในอันดับที่ดีที่สุด แม้หัวตาราง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ซิวแชมไปแล้ว แต่การแข่งขันแย่งพื้นที่ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก (ACL) ก็ยังคงร้อนระอุเช่นเคย
และ 2 ทีมที่พัวพันในการลุ้นพื้นที่ ACL ยันนัดสุดท้ายคือ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า ของ ธีรศิลป์ แดงดา และ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซึ่งคาดได้ว่าทั้งคู่จะมีบบบาทสำคัญในดราม่านัดสุดท้ายวันเสาร์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการได้เล่น ACL ปีหน้านั้นมีผลต่อวงการฟุตบอลไทยโดยรวมหลายมุม มากกว่าแค่เกมเกมหนึ่งเท่านั้น
หากได้เล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก จะถือเป็นซีซั่นที่ดีที่สุดของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และการันตี ชนาธิป ในฐานะ “ของจริง”
คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไม่เคยจบเหนืออันดับท็อป 10 ใน เจลีก มาก่อน แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่สูงถึงอันดับ 4 ห่างจากพื้นที่ฟุตบอลเอเชียเพียง 1 คะแนนเรียกได้ว่า โอกาสทองอยู่ใกล้แค่เอื้อมหรือจะลุ้นให้ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ซิวถ้วย เอ็มเพอร์เรอร์ คัพ เพื่อไป ACL ในโควต้าอันดับ 4 ก็ได้
จะเห็นได้ว่านี่คือซีซั่นที่ดีที่สุดของ คอนซาโดเล่ อีกทั้งซีซั่นนี้ยังเป็นปีที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก้าวขุ้นมาเป็นแกนหลักของทีมเต็มตัว คิดดูสิว่ามันจะยอดเยี่ยมแค่ไหน หากพวกเขาสามารถตีตั๋วไปเล่น ACL ได้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยมีนักเตะไทยเป็นกำลังสำคัญ
การบอกว่า ชนาธิป คือตัวหลัก ไม่ใช่การเข้าข้างคนไทยด้วยกันเองแต่อย่างใด เพราะหากดูสถิติจะทราบว่ามีผู้เล่นเอ๊าท์ฟิลด์เพียง 4 คนเท่านั้นที่ลงเล่นเยอะกว่า ชนาธิป และในบรรดาผู้เล่นเหล่านั้น ก็ไม่มีใครมีส่วนร่วมกับการได้ประตูของทีมบ่อยเท่า ชนาธิป
เพราะฉะนั้นหากมิดฟิลด์หมายเลข 18 สามารถพาต้นสังกัดไปโลดแล่นใน ACL ได้ ก็จะเป็นรางวัลและเครื่องพิสูจน์ว่า ชนาธิป คือยอดนักเตะของจริง
อันดับ 3 เจลีก มีโอกาสได้เพลย์ออฟรายการ ACL กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ 2018 จะเริ่มเส้นทาง ACL ในรอบคัดเลือกรอบที่ 2 พบกับตัวแทนจาก ฟิลิปปินส์ หรือ เมียนมาร์ และหากผ่านนี้ไปได้ ก็มีจะต้องไปเจอทีมอันดับ 3 ของ เจลีก ซึ่งมีโอกาสไม่น้อยที่จะเป็น ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า หรือ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เป็นโปรแกรมที่น่าจะเรียกความสนใจของแฟนๆ ชาวไทยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ธีรศิลป์ แดงดา ต้องการสร้างความทรงจำใน เจลีก ก่อนกลับ เมืองมอง ยูไนเต็ด
ธีรศิลป์ แดงดา มีประสบการณืค้าแข้งต่างแดนที่ไม่สวยหรูนัก ไม่ว่าจะเป็นการบินไปฝึกซ้อมกับ แมนฯ ซิตี้ หรือ แอตเลติโก้ มาดริด จนถึงดีลยืมตัวที่ อัลเมเรีย ซึ่ง ธีรศิลป์ ก็แทบจะไม่ได้ลงสนามเลย
โชคดีที่ศูนย์หน้าตัวเก่งทีมชาติไทยไม่มีปัญหาในการปรับตัวกับชีวิตที่ ฮิโรชิม่า และถึงแม้ ธีรศิลป์ จะลงสนามเป็นสำรองถึง 19 จาก 31 นัด แต่ทีมก็ทำผลงานได้ดีและเขาก็ไม่รู้สึกเป็นส่วนเกินเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเบียดตำแหน่งกับรองดาวซัลโว เจลีก อย่าง แพทริก โอลิเวียร่า
ผลงาน 6 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ถือว่าไม่เลว และทางเอเย่นต์ส่วนตัวของ ธีรศิลป์ ก็ออกมาเปิดเผยด้วยว่าทาง ซานเฟรซเซ ต้องการให้ “เทพมุ้ย” อยู่ค้าแข้งกับพวกเขาต่อไป
ทว่าดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากเพราะสัญญาของ ธีรศิลป์ ยังคงอยู่กับทัพ “กิเลยผยอง” และดูเหมือนทั้ง 2 ทีมจะตกลงกันเรื่องค่าตัวไม่ได้ ด้วยเหตุนี้สิ่งเดียวที่ ธีรศิลป์ จะตอบแทนความเชื่อใจของ ซานเฟรซเซ คือการการันตีพื้นที่ ACL เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายให้จงได้
ศึก ACL เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมเพื่อการต่อยอดความสำเร็จจากทีมชาติ
ธีรศิลป์, ชนาธิป, ธีราทร และ กวินทร์ จะเป็น 4 กำลังสำคัญที่นำประสบการณ์มาช่วยทีมชาติไทยลุยศึก อาเซียน คัพ ต้นปี 2019 และหากทัพ “ช้างศึก” มีทัวร์นาเมนต์ที่ดี ผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ตามเป้า โมเมนตัมกับความสนใจของสื่อก็อาจติดตัวนักเตะเหล่า ยาวไปถึงสโมสรซึ่งเตรียมลงเล่น ACL ไม่กี่สัปดาห์หลังจบศึก เอเชียน คัพ