ฟุตบอลไทย

พรีวิว เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 กลุ่ม บี นัด 4 – ไทย ปะทะ สิงคโปร์

พรีวิวจุดอ่อน จุดแข็ง และ นักเตะที่น่าจับตามองในเกม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 กลุ่ม บี นัดที่ 4 ระหว่างเจ้าบ้าน ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติสิงคโปร์ ที่มาสู้เพื่อ 3 แต้มในขณะที่ทัพช้างศึกแค่ไม่แพ้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเข้ารอบต่อไป

ผู้เล่นน่าจับตามอง – ศุภชัย ใจเด็ด (ทีมชาติไทย)

2 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 125 นาทีถือเป็นสถิติที่ไม่เลวเลยสำหรับเด็กอายุ 19 ที่เล่นรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ เป็นครั้งแรก ศุภชัย ใจเด็ด เป็นผู้ซัดประตูเดียวของทีมชาติไทย ณ ปานาอัด สเตเดี้ยม และยืนศูนย์หน้าคู่รุ่นพี่ อดิศักดิ์ ไกรษร ได้โอเค อาจจะเงียบไปบ้างแต่ก็มีจังหวะฉีกออกมาเชื่อมบอลฝั่งซ้ายให้เห็นเหมือน

แข้งเจ้าของรางวัล “นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ฟุตบอลไทรบ์ 2018” มีจุดเด่นที่การจบสกอร์และการหาพื้นที่ที่ยากจะหาใครเทียบ ศุภชัย เล่นได้แทบทุกตำแหน่งในแผงเกมรุกและถึงแม้จะไม่มีใครทราบ 100% ว่าเขาจะได้ลงตัวจริงนัดพบ สิงคโปร์ หรือไม่ แต่เชื่อได้เลยว่าเจ้าหนูคนนี้จะได้โอกาส เขาสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างแน่นอน

ผู้เล่นน่าจับตามอง – ฮาริส ฮารูน (สิงคโปร์)

กองหลังตัวเก่ง ซาฟูวาน บาฮารูดิน อาจมีเกมที่ยอดเยี่ยมหลังซัดแฮตทริกไปในเกมก่อน แต่ผู้เล่นที่ สิงคโปร์ ขาดไม่ได้เลยจริงๆ แล้วต้องยกให้มิดฟิลด์ห้องเครื่อง ฮาริส ฮารูน จากสโมสร ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ยักษ์ใหญ่แห่งลีก มาเลเซีย

กัปตัน “เมอร์ไลออน” ยิงประตูชัยสำคัญดับ อินโดนีเซีย ในแมตช์เดย์ 1 และกลายเป็นผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สไตล์การเล่นบ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ของ ฮาริส ฮารูน ช่วยให้ทีมมีกำลังคนเพิ่มอีกรายในจังหวะเกมรุกและรับ เป็นส่วนสำคัญเช่นในจังหวะที่ช่วยวิ่งตามประกบมิดฟิลด์คู่แข้งเวลาพวกเขาเติมเกมเป็นต้น ซึ่งความขยันไม่รู้จักเหน็ด ไม่รู้จักเหนื่อยของเขาจะมีประโยชน์ไม่น้อยในเกมที่ต้องรบมือทีมชาติไทยซึ่งใช้มิดฟิลด์บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์เช่นเดียวกัน

ฮาริส ฮารูน (ซ้าย) และ ซาฟูวาน บาฮารูดิน (ขวา) credit:@singaporefootball

จุดแข็ง – ทีมชาติไทย

ตั้งแต่เริ่มรายการชิงแชมป์อาเซียนมา มีหนึ่งจุดที่ทีมชาติไทยไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังเลย ได้แก่ตำแหน่งฟูลแบ็ค ซึ่งที่ผ่านมา 3 เกม ทั้ง ฟิลิป โรลเลอร์ กับ กรกช วิริยอุดมศิริ เล่นครบ 90 นาทีและยังไม่มีข้อผิดพลาดใหญ่ๆ ให้เห็นเลย แถมยังแอสซิสต์ให้ทีมได้อีกด้วย

การต้องแบกความผิดชอบทั้งรับและรุกให้สมดุลไม่ใช้งานง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งแทบทุกทีมต่างงัดแทคติกรถบัสมาอุดทีมชาติไทยและแฟนบอลของเราเองก็ต้องการเห็นเกมรุกทะลุทะลวงแนวรับนั้นไปให้ได้ แต่ในขณะเดียวกันฟูลแบ็ค ไทย จะบุกเอามันส์อย่างเดียวก็กระไรอยู่ พวกเขาต้องระวังเกมโต้กลับไว้ด้วย ซึ่ง ฟิลิป กับ กรกช คือว่าสอบผ่าน และความสำเร็จนี้ต้องยกเครดิตให้การทำงานหนักของนักเตะรวมถึงโค้ช มิโลวาน ราเยวัช

จุดแข็ง – ทีมชาติสิงคโปร์

แชมป์อาเซียน 4 สมัยเดินหน้าเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ปีนี้ด้วยทีมที่แข็งแกร่งแบบทั่วถึงจนอาจพูดได้ว่าจุดเด่นจริงๆ ของพวกเขาคือฝีเท้านักเตะที่เทียบเท่ากันในทุกๆ ตำแหน่ง จากผู้รักประตูยันกองหน้า แถมยังมีส่วนผสมของแข้งจอมเก๋าชุดแชมป์ปี 2012 อย่าง อิซวาน มะห์บุด, ซาฟูวาน บาฮารูดิน, ฮาริส ฮารูน และ ไครูล อัมรี บวกกับนักเตะเลือดใหม่ที่น่าจับตามองเช่น 2 พี่น้อง ฟานดี่ และ ฟาริส รามลี ตัวรุกจอมเทคนิคประจำทีม

ขุนพล “เมอร์ไลออน” มีเกมริมเส้นที่อันตรายและรูปแบบการเล่นลูกตั้งเตะที่หากินได้ตลอด ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็มากพอจะยืนยันได้ว่านักเตะทุกคนเชื่อมั่นในแทคติกของกุนซือ ฟานดี่ อาหมัด แค่ไหน

ศุภชัย ใจเด็ด มีลุ้นสตาร์ทตัวจริงเกมดวล สิงคโปร์ credit:@changsuek

จุดอ่อน – ทีมชาติไทย

จุดอ่อนที่ทีมชาติไทยต้องระวังในโปรแกรมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายไม่ใช่เรื่องศักยภาพของนักเตะ แต่เป็นเตรียมสภาพจิตและสมาธิก่อนประเดิมสนาม ทัพ “ช้างศึก” การันตีการเข้ารอบแน่นอนแล้วขอแค่เพียงไม่แพ้วันนี้ อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าการเล่นเพื่อผลเสมอคือสิ่งที่ยากที่สุดในกีฬาฟุตบอล ถึงอย่างนั้น หากเราเลือกเปิดเกมรุกเต็มสูบเอาใจแฟน นั้นก็เท่ากับว่าเราเล่นเข้าทาง สิงคโปร์ ที่มารอสวนกลับเต็มๆ เลยหรือไม่?

เรามีตัวอย่างให้เห็นในนัดกับ อินโดนีเซีย แล้วว่านักเตะ ไทย มีปัญหาเรื่องสมาธิและการโฟกัสในช่วงออกสตาร์ทเกม สิ่งที่เราควรทำคือจดจ่ออยู่กับแผนการเล่น ทุ่มสุดตัวตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้าย ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้เต็มที่ แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องที่พูดกว่ากว่าทำเสมอ

จุดอ่อน – ทีมชาติสิงคโปร์

แม้ทุกนัดที่ผ่านมาพวกเขาจะดูมั่นใจในแนวทางการเล่นเกิน 100 แต่คำถามคือเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป พวกเขามีแผน 2 ไว้คอยแก้เกมหรือไม่ ลูกทีมของโค้ช ฟานดี่ อาหมัด อาจไม่ต้องแก้เกมกระทันหันในนัดปะทะ อินโดนีเซีย หรือ ติมอร์-เลสเต แต่นัดที่แล้วพวกเขาไปไม่เป็นเลยเมื่อถูก ฟิลิปปินส์ ยิงนำ 1-0

ส่วนนึงของปัญหาการไม่มีแผน 2 ของ สิงคโปร์ เกิดจากสไตล์นักเตะตัวจริงและตัวสำรองที่ไม่หลากหลายมากนัก ยกตัวอย่างผู้เล่นสำรองเช่น ไครูล อัมรี หรือ ชาริล อิชัค ทั้งคู่คือนักเตะมากประสบการณ์ แต่ถามว่ามี

ห้ามประมาท + ต้องเริ่มเกมให้ดี

ผลเสมอทีมชาติฟิลิปปินส์อาจทำให้แฟนบอลบางส่วนผิดหวังเล็กน้อยและนักเตะทีมชาติไทยทุกคนก็คงอยากจะโชว์ฟอร์มดุเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งวันอาทิตย์นี้ ทางด้านทีมชาติสิงคโปร์พวกเขามีทีเด็ดที่ลูกตั้งเตะซึ่งตรงกับจุดอ่อนจุดหนึ่งของเราพอดี และหากทีมเยือนสามารถกดดัน ไทย ได้ตั้งแต่เริ่มเกม นี่อาจเป็นอีกเกมที่เหนื่อยสำหรับกองเชียร์ช้างศึก

ทว่าหากดูองค์ประกอบโดยรวม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมชาติไทยแข็งแกร่งกว่าทีมชาติสิงคโปร์สุดนี้พอสมควรและมีดีพอเอาชนะได้ ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน แน่นอน