ในโอกาสที่คู่ชิงเมื่อ 2 ปีที่แล้วอย่าง ไทย และ อินโดนีเซีย จะโคจรมาเจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม ผู้เขียนฟุตบอลไทรบ์ฉบับ ไทย และ อินโดนีเซีย จึงขอใช้โอกาสนี้ วัดกันตำแหน่งต่อตำแหน่งก่อนเกมสักนิดว่าใครคือขาใหญ่ตัวจริงย่าน อาเซียน
ผู้รักษาประตู
ไทย - ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
ศิวรักษ์ ไม่ต้องออกแรงมากนักในเกมแรกกับ ติมอร์-เลสเต แต่จอมเซฟวัย 34 ปียังรักษาสมาธิและฟอร์มการเล่นที่ไว้ใจได้ตลอด 90 นาที เมื่อเทียบกับ อันดริตานีย์ อัรดฮิยาซา ผู้รักษาประตู ทีมชาติชาติอินโดนีเซีย ที่เสียไปแล้ว 2 ประตู จาก 2 เกม น่าจะพูดได้ว่ามือ 1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ททัวร์นาเมนต์ได้เหลือกว่าพอสมควร
อินโดนีเซีย - อันดริตานีย์ อัรดฮิยาซา
อันดริตานีย์ เล่นโอเคในเกมกับ สิงคโปร์ แม้จะมีข้อผิดพลาดบ้างในเกมล่าสุดที่ชนะ ติมอร์-เลสเต 3-1
ในฐานะมือหนึ่งทีมชาติ เขาจำเป็นต้องมีสมาธิให้มากในเกมกับทีมชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือดาวซัลโวอย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร
ขอบคุณรูปภาพจาก pssi
กองหลัง
ไทย - เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว
กัปตันป้ายแดงแห่งทัพ “ช้างศึก” เล่นได้อย่างเหนียวแน่น ช่วยให้ทีมชาติไทยเก็บคลีนชีทติดต่อกันได้ถึง 3 เกมรวดในทุกรายการ คนละเรื่องกับแนวรับ อินโดนีเซีย ที่เสียประตูมา 2 นัดติด และหากเราจะหาครั้งสุดท้ายที่ อินโดนีเซีย มีคลีนชีทในรายการชิงแชมป์ อาเซียน นะหรือ? คุณต้องย้อนกลับไปรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กับ สิงคโปร์ เมื่อปี 2012 หรือ 6 ปีที่แล้วนั้นเอง!
อินโดนีเซีย - ฟารุดดิน อาร์ยานโต้
เซ็นเตอร์แบ็คจอมเก๋าช่วยประคองรุ่นน้องอย่าง ฮันซามู ยามา ได้ดี และเราเห็นถึงความสำคัญของ อาร์ยานโต้ ได้ชัดเจนในครึ่งแรกที่ทีมขาดเขานัดเจอ สิงคโปร์ ซึ่ง อินโดฯ เล่นกันออกทะเลสุดๆ
ประสบการณ์ของและทางบอลที่หนักหน่วงของ อาร์ยานโต้ ทำให้ ฮันซามู ไม่ลังเลในเกมรับ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้จอมอย่าง ฮันซามู เติมเกมในจังหวะเซ็ตพีซ
ขอบคุณรูปภาพจาก @changsuek
กองกลาง
ไทย - สรรวัชญ์ เดชมิตร
เกมที่แล้วมิดฟิลด์จอมลีลาจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำได้ 3 แอสซิสต์และคงหวังต่อยอดผลงานที่ยอดเยี่ยมของตัวเองวันเสาร์นี้
จุดเด่นเรื่องการเปลี่ยนบอลและลูกยิงไกลของ สรรวัชญ์ น่าจะเล่นงานแนวรับ อินโดนีเซีย ที่เสียประตูจากลูกเปิดด้านข้าง และ อีกลูกจากการส่องไกลในนัดกับ ติมอร์-เลสเต
หาก อินโดฯ ไม่ระวังได้ดี พวกเขาอาจเป็นเหยื่อลูกคาดไม่ถึงของ สรรวัชญ์ ได้ไม่ยาก
อินโดนีเซีย - อิวาน ดิมาส
แม้แต่แฟน อินโดนีเซีย เองยังคิดว่ากองกลางของเราเล่นไม่ดี นั้นรวมถึง มิดฟิลด์ตัวเก่งอย่าง อิวาน ดิมาส ด้วย และตัวรุกเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม อินโดนีเซีย ปี 2016 จำเป็นต้องพิสูจน์ชื่อชั้นตัวเองให้ได้กับ ทีมชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาตกเป็นข่าวกับหลายๆ สโมสรใน ไทยลีก
ขอบคุณรูปภาพจาก pssi
กองหน้า
ไทย - อดิศักดิ์ ไกรษร
ในเกมเปิดสนามของ ไทย อดิศักดิ์ ไกรษร เหมาคนเดียว 6 ประตู มากกว่า อินโดนีเซีย ยิงรวมใน 2 เกมที่ผ่านถึง 2 เท่า
เกมรับไม่ใช่จุดแข็งนักของ อินโดเซีย และน่าจะเป็นคืนที่ดีอีกหนึ่งคืนสำหรับ “เจ้ากอล์ฟ” กำลังมั่นใจและครองตำแหน่งดาวซัลโวอยู่ในขณะนี้
อินโดนีเซีย - อันดิก เวอร์มันซาห์
อินโดนีเซีย พกกองหน้าธรรมชาติมาเพียง 2 คนเท่านั้น หนึ่งคือ สเตฟาโน ลิลิปาลีย์ ที่น่าจะถูกดึงลงไปช่วยแดนกลาง ส่วนอีกคนคือ เบโต้ กอนคัลเวส ที่เพิ่งติดทีมชาติได้หมาดๆ เพราะฉะนั้น อันดิก เวอร์มันซาห์ อาจตอบโจทย์ปัญหาเกมรุก อินโดฯ ได้ไม่ยาก
หลายคนอาจมอง อันดิก จะปีกที่สร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย แต่ความจริงตัวรุกวัย 26 ปี มีทั้งลูกยิงที่หนักหน่วงและแม่นยำ บวกกับความเร็วและทักษะในการออกตัวตามสไตล์ผู้เล่นริมเส้น
สุดท้ายสิ่งที่น่าจะเป็นแรงพลักดันพิเศษสำหรับ อันดิก คือการที่เขาพลาดลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ซูซูกิ คัพ เลก 2 เมื่อปี 2016
ขอบคุณรูปภาพจาก @changsuek
หัวหน้าผู้ฝึกสอน
ไทย - มิโลวาน ราเยวัช
ถ้าวัดกันที่ประสบการณ์ มิโลวาน ราเยวัช กินขาดแน่นอน นี่คือกุนซือที่เกือบพา ทีมชาติกานา เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2010 หากไม่ไปเจอลูกตุกติกของ หลุยส์ ซัวเรซ จนตกรอบเพราะจุดโทษไปเสียก่อน
อินโดนีเซีย - บิมา ศักติ
กุนซือน้อยประสบการณ์ที่แบกแรงกดดันไว้เยอะพอสมควร บิมา ศักติ ควรหันมาเน้นเกมรับให้มากขึ้น แม้จะเก็บ 3 แต้มแรกได้จาก ติมอร์-เลสเต ก็ตาม
ขอบคุณรูปภาพจาก @changsuek
ผลการแข่งขัน
ไทย
อินโดนีเซีย เป็นทีมที่เล่นแบบอื่น นอกจากเปิดเกมรุกไม่เป็น ซึ่งน่าจะเข้าทางบอลโต้กลับของ ราเยวัช ผมเชื่อว่าแผงหลังและมิดฟิลด์ตัวรับของ ไทย เหนียวพอจะแบกรับแรงกดดัน แล้วรอโจมตีคู่แข่งด้วยความเร็วของตัวริมเส้นอย่าง นูรูล ศรียานเก็ม หรือ มงคล ทศไกร ได้
กองหน้าที่เคยเป็นปัญหา เมื่อหลายๆ คนเห็นฟอร์มของ อดิศักดิ์ ไกรษร ก็น่าจะอุ่นใจขึ้นเยอะ อีกทั้งเรายังมีกองหลังที่ลุ้นทำประตูได้บ่อยๆ หลายคน จึงน่าจะเป็นเกมที่สนุกและ ไทย น่าจะเก็บ 3 แต้มได้อีกนัด
อินโดนีเซีย
มันยากที่จะพูดว่า อินโดฯ จะไปล้ม ไทย ในบ้าน แต่โอกาสเป็นไปได้ก็มีเสมอ ผมเชื่อว่า ไทย ยังจะมาบุกเหมือนเดิม หากเราหันมาตั้งรับมากขึ้น การแบ่งแต้ม ณ สนามราชมังฯ ก็อาจเป็นจริงได้ แต่รับรองเลยว่ามันจะเป็น 90 นาทีในนรกของทัพ “เดอะ การูดา” แน่นอน
ขอบคุณรูปภาพจาก pssi