เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ฟุตบอลอาเซียน

เหงียน กวง ไฮ สตาร์ “โกลเด้น เจเนอเรชั่น เวียดนาม” พูดถึงเป้าหมายใน ซูซูกิคัพ 2018 ที่จะถึงนี้

เหงียน กวง ไฮ อายุแค่ 11 ขวบเท่านั้นในคืนที่ เล คอง วินห์ ทะยานขึ้นโหม่งบอลเปลี่ยนทาง เป็นประตูดีเสมอ ทีมชาติไทย 1-1 พา เวียดนาม คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ครั้งแรกของพวกเขา

10 ปีผ่านไป วันนี้เจ้าหนู เหงียน กวง ไฮ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่โดนเด่นที่สุดคนนึงในชุด “โกลเด้น เจเนอเรชั่น” ของทัพดาวทอง และเขาก็ตั้งเป้าจะสานฝันของคนทั้งชาติ ยึดตำแหน่งเจ้า อาเซียน มาให้ได้ในปีนี้

“หากเราสามารถเดินตามความสำเร็จของทีมชุดปี 2008 จะถือเป็นเรื่องที่วิเศษมาก ผมยังจำได้ดีว่าตำแหน่งแชมป์เมื่อปี 2008 สำคัญกับคนทั้งประเทศขนาดไหน” ตัวรุกวัย 21 ปีกล่าวกับ affsuzukicup.com

“ณ เวลานั้นผมเป็นแค่เด็กที่มีฝันแต่ตอนนี้ผมได้เป็นตัวแทนของคนทั้งชาติ พร้อมผมก็มีเป้าหมายมากมายในใจ”

“ผมคิดว่าแต่ละทีมไม่ได้ห่างกันมาก แน่นอนว่า อินโดนีเวีย และ ไทย จะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่ด้วยความตั้งใจที่แรงกล้าเพื่อเป็นที่หนึ่ง”

เล คอง วินห์ ในเกม เวียดนาม ปะทะ ไทย เลก 2 จากปี 2008 credit:affsuzukicup.com

การหมดสิทธิ์ใช้ผู้สตาร์ดังทั้ง 4 คนของไทยอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน รวมถึง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทำให้หลายๆ ชาติมองว่านี่คือโอกาสทองของพวก อย่างไรก็ตาม กวง ไฮ กลับไม่คิดอย่างนั้น

“ทีมชาติไทย มีนักเตะที่ดีมากมาย ผมไม่กังวลเรื่องที่พวกเขาขาดนักเตะตัวหลักบางคนไปหรอกเพราะเราต้องโฟกัสที่ตัวเอง เรารู้ดีว่าสิ่งสำคัญคือต้องมีสมาธิกับตัวเองและแทคติก หากร่างกายเราพร้อมด้วยแล้ว ยิ่งเป็นการช่วยให้เราเล่นได้เต็มประสิทธิภาพไปอีก”

กวง ไฮ กล้าเล่น มีทักษะฟุตบอลที่เหนือชั้น แถมยังเล่นได้สารพัดตำแหน่งในแดนกลาง แม้จะยังเป็นแค่ดาวรุ่ง แต่แข้ง ฮานอย เอฟซี ก็ถูกยกไปเปรียบเทียบกับตำนานอย่าง เล คอง วินห์ เรียบร้อยแล้ว

ความสำเร็จของทีมชาติเวียดนามในช่วงหลังทำให้ฟอร์มของ กวง ไฮ เป็นที่จับตามองของสโมสรต่างชาติหลายทีมทั้งจาก เจลีก หรือแม้แต่ ไทยลีก เองก็ด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหาก กวง ไฮ สามารถแจ้งเกิดใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ครั้งนี้และลบฝันร้ายการตกรอบรองชนะเลิศเมื่อ 2 ปีก่อนได้สำเร็จ จะเป็นการอัพโปรไฟล์อาชีพเขาไปอีกระดับแน่นอน

“เราทำอะไรไม่ได้เวลาคนเอยถึงเกมในอดีตของเราเช่นวันที่แพ้ให้ อินโดนีเซีย จนต้องตกรอบรองชนะเลิศเมื่อ 2 ปีที่แล้ว”

“แต่สิ่งที่เราทำได้คือการเรียนรู้จากอดีต เก็บบทเรียนที่มีค่าและมุ่งหน้าสู่ [เอเอฟเอฟ] ซูซูกิคัพ” กวง ไฮ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ เวียดนาม อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ มาเลเซีย, เมียนมาร์, กัมพูชา และ สปป.ลาว