ไทยลีก TRB FEATURE

โค้ชเบ๊ กุนซือแห่งความโกลาหลผู้ปลุกฟอร์มเก่ง ชนานันท์ และ เคลตัน ซิลวา

เบอนัวต์ แมนเดลบรอต นักคณิตศาสตร์ชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีความเหมือนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (roughness and self-similarity) และเป็นหนึ่งในผู้ช่วยคิดค้นศาสตร์แห่งความโกลาหลขึ้น ในทศวรรษ 1960 เคยพูดถึงความสวยงามไว้ว่า “มีคำกล่าวที่ว่า ชิ้นงานที่สวยงามทุกชิ้นนั้นประกอบไปด้วยผู้ชมที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา” แมนเดลบรอต เชื่อว่าโลกมีความงามซ่อนอยู่ในทุกๆ ความวุ่นวาย เหมือนกับที่ช่อกุหลาบมีหนามแหลมคม แต่หากเราเลือกที่จะมองให้มุมมองที่ดี เราก็จะเห็นถึงดอกกุหลาบที่สวยงาม 

หากนึกเปรียบเทียบกับฟุตบอลความงามท่ามกลางความวุ่นวายที่คุณจะชื่นชมมันได้ก็ต่อเมื่ออยู่ถูกที่ถูกเวลานั้นมีความคล้ายกับเส้นทางลูกหนังของ โค้ชเบ๊ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก, ชนานันท์ ป้อมบุปผา และ เคลตัน ซิลวา ไม่น้อย

เริ่มกันที่ โค้ชเบ๊ ผู้ซึ่งออกสตาร์ท โตโยต้า ไทยลีก 2018 ในฐานะกุนซือ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี และเปิดหัวฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการชนะติดต่อกัน 4 นัดรวด

ชนานันท์ และ เคลตัน แอสซิสต์ให้กันและกันในเกมดับ แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล 3-1 Credit: @SuphanburiFc

แต่ทว่าไม่นานที่หวานก็กลายเป็นขม เกิดความขัดแย้งในการทำงานกันระหว่าง โค้ชเบ๊ และสโมสร จนผลงานของทีมแย่ลงก่อนที่ โค้ชเบ๊ จะโบกมือลาไปเมื่อช่วงท้ายเดือน พฤษภาคม หลังทำทีมแพ้ติดต่อกัน 3 นัด

อย่างไรก็ดี ไม่นานนักกุนซือเจ้าของฉายา “ขงเบ้ง” ก็ได้งานใหม่ในฐานะแม่ทัพ “ช้างศึกยุตธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ที่กำลังฟอร์มฝืดและเก็บชัยได้เพียง 2 จาก 10 นัดหลังสุด ไม่เพียงเท่าแค่การมาของ โค้ชเบ๊ เท่านั้นแต่ สุพรรณบุรี เอฟซี ยังมีการเสริมขุมกำลังใหม่ที่ฮือฮาไปทั้งลีกด้วยการดึง เคลตัน ซิลวา ยอดดาวยิงบราซิลเลี่ยนจาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ภารกิจช่วย สุพรรณบุรี เอฟซี หนีตกชั้นจึงกลายเป็นการร่วมงานกันของ โค้ชเบ๊ กับ เคลตัน ซิลวา ในรอบ 8 ปีหลังจาก โค้ชเบ๊ เป็นคนแรกที่ให้โอกาส เคลตัน ได้วาดลวดลายบนเวทีฟุตบอลไทยกับ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี

การย้ายมาร่วมงานกับ โค้ชเบ๊ เปรียบเหมือนการเริ่มต้นใหม่สำหรับ เคลตัน ซิลวา แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่าการมาของอดีตดาวซัลโวไทยลีกฤดูกาล 2012 และ 2016 จะกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ปลดล็อคการทำประตูของ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ศูนย์อีกคนที่กำลังประสบปัญหาฟอร์มฝืด ไม่ต่างอะไรจาก เคลตัน สมัยอยู่ เชียงราย

โดยก่อนหน้านี้ “เจ้าทู” ชนานันท์ ป้อมบุปผา ทำได้เพียง 2 ประตูและไม่มีแอสซิสต์เลยในทุกรายการที่ลงสนาม อย่างไรก็ตามฟอร์มของ ชนานันท์ ก็ได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อได้ประสานงานกับ เคลตัน ซิลวา ภายใต้แทคติกของ โค้ชเบ๊ โดยที่ เจ้าทู้ ซัดไปแล้วถึง 5 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ ในขณะที่ เคลตัน ก็ไม่เบา ซัดไป 8 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์นับตั้งแต่ย้ายมา สุพรรณบุรี เอฟซี

คงต้องยกเครดิตให้แทคติกของ โค้ชเบ๊ ที่ทิ้งระบบ 3-4-3 ในยุคของ โค้ชอเดบาโย กาเดโบ ที่ถึงแม้จะรับแน่นจริง แต่ก็ยิงประตูไม่ค่อยได้ มาเป็นระบบ 3-5-2 ในปัจจุบัน อีกทั้งยังถอย ชนานันท์ จากตำแหน่งริมเส้น มาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก กึ่งๆ หน้าต่ำที่คอยสอดขึ้นไปจบสกอร์ในเขตโทษแทน

ทางฝั่งของ เคลตัน เองก็ถูกปรับบทบาทการเล่นเช่นเดียวกัน โดย โค้ชเบ๊ เลือกที่จะใช้ เคลตัน ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าซึ่งคอยวิ่งจอมตีพื้นที่ด้านหลังแนวรับคู่แข่งเหมือนสมัยเล่นให้ โอสถสภา หรือ เมืองทอง ต่างจากที่ เชียงราย ซึ่ง เคลตัน ยืนคู่ศูนย์หน้าร่างใหญ่อย่าง บายรัม เนบีญ่า จนบีบให้ เคลตัน กลายเป็นหน้าต่ำที่ฉีกออกมาจากพื้นที่ริมเส้นบ่อยครั้ง

เคลตัน เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมเปิดตัวกับ สุพรรณบุรี เอฟซี และไม่ต้องรอนานทีมเวิร์คของเขากับ ชนานันท์ ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เพราะเพียงแค่เกมที่ 4 ที่ทั้ง 2 ลงด้วยกัน เจ้าทู ก็สามารถแสซิสต์ ให้ เคลตัน ได้แล้ว

ประตูดังกล่าวเกิดขึ้นในเกม สุพรรณบุรี เอฟซี เปิดบ้านต้อนรับ พัทยา ยูไนเต็ด เป็นจังหวะที่ เคลตัน เก็บบอลได้บริเวณครึ่งสนามและจ่ายให้ ชนานันท์ ที่ฉีกมารับบอลตรงกรอบเขตโทษด้านซ้ายของคู่แข่ง ก่อนที่ศูนย์หน้าบราซิลจะสปีดอ้อมมากดลูกจ่ายหักข้อของ เจ้าทู เสียบเสาเข้าไปแบบสวยงาม 

จังหวะแอสซิสต์ครั้งนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของคู่ดูโอแห่ง สุพรรณบุรี และการประสานงานของทั้งคู่ก็มาถึงจุดพีคสุดในเกมที่ทัพ “ช้างศึกยุตธหัตถี” บุกไปอัด แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ถึงสนามกีฬาธูปเตมีย์ 3-1 โดยที่ ชนานันท์ กับ เคลตัน มีส่วนร่วมกับทุกประตูของทีม

เริ่มจากประตูแรกในนาทีที่ 16 ซึ่ง ชนานันท์ กึ่งยิงกึ่งผ่านจากด้านซ้ายเข้ามาให้ เคลตัน แปจ่อๆ เข้าไป ก่อนครึ่งหลัง เคลตัน จะตอบแทนเพื่อนร่วมทีมด้วยการจิ้มบอลผ่านแผงหลัง แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ให้ ชนานันท์ ยิงเข้าเสาสองไปชิวๆ 

เท่านั้นไม่พอประตูที่ 3 ของ สุพรรณบุรี เอฟซี ยังเริ่มต้นที่จังหวะเล่นหนึ่งสองระหว่างทั้งคู่ก่อน ชนานันท์ จะผ่านบอลออกริมเส้นให้ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา เปิดจากขวาตรงจุดนัดพบให้ เคลตัน โขกเข้าไปเต็มๆ

โดยล่าสุด ชนานันท์ และ เคลตัน ช่วยกันยิงคนละประตู ช่วยให้ สุพรรณบุรี เอฟซี เก็บ 3 แต้มสำคัญเพื่อหนีตกชั้นได้สำเร็จ ช่างเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ยุ่งเหยิงและไม่น่าจะลงตัวได้ แต่ด้วยสายตาอันเฉียบคมของ โค้ชเบ๊ ผู้ซึ่ง “อยู่ถูกที่ถูกเวลา” และสามารถมองเห็นความสวยงามท่ามกลางความวุ่นวายนี้ได้ จากโค้ชที่เพิ่งมีแตกหักกับทีมเก่าอย่างเขา ก็สามารถเปลี่ยน 2 ศูนย์หน้าที่ไม่ยอมยิงและทีมที่ไม่ยอมชนะให้กลายเป็นทีมจอมเคี่ยวที่จะไม่ยอมตกชั้นง่ายๆ แน่นอน 

โค้ชเบ๊ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ใช้เวลาหลายปีอยู่กับทีมท้ายตาราง วนเวียนอยู่กับการทำงานที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยแรงกดดัน ไม่ต่างกันกับ เบอนัวต์ แมนเดลบรอต ผู้ซึ่งหลงใหลในเสน่ห์ของความยุ่งเหยิง