ยุโรป ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

BEST & WORST: ยอดเยี่ยม – ยอดแย่ แมตช์เดย์ 1 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

แมตช์เดย์ 1 ของฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ไปผ่านไม่เรียบร้อยแล้วในขณะที่ แมตช์เดย์ 2 กำลังลงแข่งขันกันอย่างเมามันในขณะนี้

สิ่งที่เราเริ่มสังเกตเห็นได้คือแต่ละทีมดูจะมีความกระหายในชัยชนะมากขึ้นเมื่อระบบจัดการแข่งขันจับพวกเขามาชนทีมที่สมน้ำสมเนื้อกันกว่าโปรแกรมอุ่นเครื่องทีมชาติหรือรอบคัดเลือกทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา และนี้คือการจัดอันดับยอดเยี่ยมและยอดแย่ประจำแมตช์เดย์ 1 ของศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

BEST MOMENT : ค่ำคืนแห่งการทำลายสถิติของ มาร์กอส อลอนโซ่

มาร์กอส อลอนโซ่ ลงสนามรับใช้ ทีมชาติสเปน ครั้งแรกในเกมปะทะ ทีมชาติอังกฤษ และทำสถิติเป็นนักเตะรุ่นที่ 3 คนแรกที่รับใช้ทัพ “ลา โรฆา” ตามหลังคุณพ่อ มาร์กอส อลอนโซ่ ซีเนียร์ และคุณตา มาร์ฮวีโตส อลอนโซ่

ไม่เพียงเท่านั้น แต่เกมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ อลอนโซ่ และ โรดริโก้ ลงเล่นพร้อมกันในรอบ 7 ปี โดยทั้ง 2 เคยค้าแข้งอยู่ด้วยที่ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ในยุคของ โอเวน คอยล์

WORST MOMENT : หายไวๆ นะ ลุค ชอว์

ลุค ชอว์ เบียด แอชลี่ย์ ยัง ขึ้นมาเป็นแบ็คซ้ายตัวจริงของ แมนฯ ยูไนเต็ด และกลายมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ฟอร์มดีที่สุดตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ถึงแม้เขาจะห่างจากเวทีทีมชาติไปนานแต่ ชอว์ ก็เริ่มต้นเกมกับ สเปน ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการแอสซิสต์ให้ทัพสิงโตคำรามขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว

โชคร้ายที่ ชอว์ ต้องมาพบอาการบาดเจ็บหนักอีกครั้งจากจังหวะขึ้นปะทะกับ ดานี่ การ์บาฆาล

BEST PLAYER : อัลฟงส์ อาเรโอล่า โชว์เหนียวนัดประเดิมทีมชาติ

อัลฟงส์ อาเรโอล่า ผู้รักษาประตูจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โชว์เหนียวระดับเทพ เป็นเหตุผลหลักที่ช่วยให้ทัพ “ตราไก่” ยันเสมอแบบคลีนชีทได้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังที่ ทีมชาติเยอรมันโหมบุกอย่างหนัก เฉียดได้ประตูหลายจังหวะไม่ว่าจะเป็นลูกยิงแบบตวัดเร็วของ มาร์โก รอยส์ หรือลูกโหม่งของ มัทธิอัส กินเทอร์ ที่ อาเรโอล่า โชว์ปฏิกิริยาอันรวดเร็ว ปัดไปได้อย่างฉิวเฉียด

WORST PLAYER : ฮันเนส ธอร์ ฮัลล์ดอร์สสัน

ประตูจอมหนึบที่สร้างชื่อในฟุตบอลจากนัดที่ ทีมชาติไอซ์แลนด์ ยันเสมอ ทีมชาติอาร์เจนตินา 1 ประตูต่อ 1 ไม่สามรถเรียกฟอร์มจากฟุตบอลโลกออกมาได้และโดนยิงไปถึง 6 ประตู โดยเขาสามารถเชฟได้เพียง 3 จังหวะจากการยิงตรงกรอบ 9 ครั้งของ สวิตเซอร์แลนด์ เท่านั้น

BEST GOAL : แกเร็ธ เบล ปั่นโค้งๆ ตามลายเซ็นของเจ้าตัว

แกเร็ธ เบล วิ่งมาด้วยความเร็ว ใช้อกพักบอลลงอย่างนุ่มนวลก่อนจะแต่งเข้าเท้าซ้ายข้างถนัดแล้วปั่นโค้งๆ แสบเสาเข้าไปอย่างงดงาม

WORST GOAL : โจเซฟ เซราฟา ทำไมนายไม่เคลียบอลให้จบๆ ไป!

โจเซฟ เซราฟา กระโดดวอลเลย์คืนหลังอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือจนถูก โจอาน เอ็ดมันด์สัน กองหน้าหมู่เกาะแฟโร ฉกไปยิงประตูขึ้น ซึ่งมีผลต่อรูปเกมอย่างมากก่อนสุดท้าย ทีมชาติมอลตา ของเขาจะแพ้ไป 3-1

BEST MATCH : เยอรมัน ปะทะ ฝรั่งเศส

ถึงแม้เกมจะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แต่ทั้ง 2 ทีมก็เล่นกันได้อย่างสุดมันส์ ถือเป็นโปรแกรมทีมชาติที่เอาจริงเอาจังกันพอสมควรเลยทีเดียว

โดย ทีมชาติฝรั่งเศส ยังคงรักษาสถิติไร้พ่าย 5 นัดติดต่อกันในฐานะทีมเยือนเมื่อพบกับทัพ “อินทรีเหล็ก” (ชนะ 3 เสมอ 2) ในขณะที่ ทีมชาติเยอรมัน ก็ดูเหมือนจะเริ่มแก้ไขปัญหาเกมรับจากฟุตบอลโลกไปบ้างแล้วหลังเก็บคลีนชีทแรกในรอบ 9 เกมได้สำเร็จ

WORST MATCH : อาเซอร์ไบจาน ปะทะ โคโซโว

เกมระหว่าง อาเซอร์ไบจาน ปะทะ โคโซโว ณ กรุงบากู จบลงไปจืดๆ แบบไร้สกอร์โดยที่ทั้งสองทีมมีโอกาสยิงตรงกรอบรวมกันเพียง 2 ครั้งเท่านั้น

BEST TEAM : "มังกรแดง" ฟอร์มแรงสมชื่อ!

ไรอัน กิ๊กส์ อดีตปีกพ่อมด แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมเกมอย่างเป็นทางของ “มังกรแดง” เวลส์ ได้อย่างร้อนแรงด้วยการเปิดบ้านถล่ม ทีมชาติไอร์แลนด์ เละ 4-1
โดยสิ่งที่สวยงามจากเกมนี้คือเกมรุกที่ดุดันและการที่ผู้ทำประตูทั้ง 4 ลูกของ เวลส์ ไม่ซ้ำหน้ากันเลย

WORST TEAM : ทีมชาติไอซ์แลนด์ พังไม่เป็นท่า

ทีมชาติไอซ์แลนด์ มือจุดเด่นที่เกมรับอันแข็งแกร่งเพราะฉะนั้นความพ่ายแพ้ถึง 6 ลูกจึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้

โดยหลังเกม เอริค แฮมเรน กุนซือป้ายแดงชาวสวีเดนกล่าวถึงความพ่ายแพ้ครั้งที่ว่า “ก่อนอื่นผมต้องขอโทษแฟนบอลทุกคน มันเป็นผลการแข่งขันที่น่าอับอายสำหรับเรา หลังจากเสียประตูที่ 3 เราก็ไม่มีอะไรเลย ทั้งความเป็นระเบียบ ความเชื่อ ไม่มีสักอย่าง ทั้งหมดเป็นเพราะผม มันคือความรับผิดชอบของผมที่จะทำให้นักเตะเล่นออกและมีความเชื่อมั่นในตัวเอง”