ฟุตบอลอาเซียน ทีมชาติไทย

ใครฮอต ใครแห้ว! สรุปฟอร์มชาติอาเซียน รอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลชาย เอเชียนเกมส์ 2018

ล่าสุดรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลชาย เอเชียนเกมส์ 2018 ก็จบไปแล้วอย่างสุดมันส์ และน่าเสียดายมากที่ทีมชาติไทย, เมียนมา, ติมอร์ เลสเต และ สปป.ลาว จะต้องตกรอบไม่แต่เร็ววัน

อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายชาติในอาเซียนที่โชว์ฟอร์มฮอต หักปากกาเซียนจนสามารถจบอันดับ 1 ของกลุ่มเหนือทีมใหญ่ๆ ในเอเซียได้สำเร็จ

เราไปกันว่าในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมาแต่ละชาติอาเซียนทำผลงานเป็นยังไงกันบ้างและมีนักเตะไหนที่แจ้งเกิดในรายการนี้แล้วหรือไม่

เวียดนาม - กลุ่ม ดี (เข้ารอบ)

เวียดนามอยู่ร่วมกลุ่มกับทีมชื่อชั้นต่ำกว่าอย่าง เนปาล และ ปากีสถาน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่พวกเขาจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สบายๆ แต่ไฮไลท์ของรอบแบ่งกลุ่มแน่นอนว่าต้องยกให้นัดที่ ปาร์ค ฮัง โซ นำลูกทีมล้ม ญี่ปุ่น แล้วจบอันดับ 1 ของกลุ่มได้สำเร็จ

แข้งฟอร์มฮอต: เหงียน ควง ไฮ

แม้จะไม่ได้ลงเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายที่ตนเองถนัดแต่เจ้าตัวก็สามารถยิงได้ถึง 2 ประตูและยกฟอร์มการเล่นขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้

แข้งฟอร์มแห้ว: ตรัน ดินห์ ดง

ว่ากันตามตรงเขาอาจไม่ได้เล่นแย่อะไรมากมายเพราะเจ้าตัวก็เพิ่งหายจากการบาดเจ็บมา เพียงแต่ทุกคนรู้กันดีว่ากองหลังจาก ฮานอย เอฟซี สามารถเล่นได้ดีกว่านี้ก็เท่านั้นเอง

โปรแกรมต่อไป: เวียดนาม vs บาห์เรน (23 สิงหาคม)

 

คะแนนผลงานโดยรวม: 7.5/10

ไทย - กลุ่ม บี (ตกรอบ)

ทุกคนเห็นกันดีว่านักเตะพยายามสู้อย่างเอาเป็นเอาตายแล้ว แต่เราก็ต้องยอมรับความจริงว่าฟอร์มการเล่นโดยรวมของทีมถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานมาก นี่ยังไม่ต้องพูดถึงผลการแข่งขันที่ตกรอบเลยด้วยซ้ำ ในเกมรุกนักเตะไทยดูโดดเดี่ยว ถูกล้อมไปด้วยคู่แข่งตลอดทุกจังหวะ ในขณะที่เกมรับพวกเราดูไม่มีระบบเบียบและเปิดช่องให้อีกฝั่งเข้าตลอดบ่อยครั้ง

จังหวะได้ประตูหรือเปิดเกมบุกส่วนใหญ่ของเรามาจากความสามารถเฉพาะตัวหรือการต่อบอลกันแบบเร่งรีบไม่กี่ครั้ง ไม่ใช่การขึ้นเกมที่มีจังหวะจะโคนเลย ซึ่งต้นเหตอาจเป็นเพราะแทคติก การเลือก 11 ตัวจริงที่อาจค้านสายตา (เช่นเกมกับ บังกลาเทศ) หรือการที่ “โค้ชโย่ง” ไม่ได้โอกาสเตรียมทีมแบบต่อเหมือน

สุดท้ายนี่มันอาจจะยังเร็วไปที่จะสรุปว่าอะไรคือหาสาเหตุของความล้มเหลวครั้งนี้ แต่อย่างหนึ่งที่เรารู้แน่นอนคือทุกคนปวดใจกับสถานการณ์ตอนนี้และจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในอนาคตอันไกลนี้แน่นอน

แข้งฟอร์มฮอต: ศุภชัย ใจเด็ด

ดาวรุ่งวัย 19 ปีรับบทซุปเปอร์ซับ ทำได้ 2 ประตูจากการลงสนามเป็นตัวรอง 3 นัด ช่วยทีมชาติไทยตีเสมอท้ายเกมในนัดกับ กาตาร์ และ บังกลาเทศ

แข้งฟอร์มแห้ว: เจนรบ สำเภาดี

เจนรบ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่นเนื่องจากไม่สามารถแบกรับหน้าที่ผู้ทำประตูของทีมได้ตามที่หวังไว้ อย่างไรตามเขายังคงแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเททุกนาทีที่ลงเล่น แต่แทคติกที่ดูไม่เอื้ออำนวยนักบวกกับการไม่ค่อยได้ลงสนามกับต้นสังกัดทำให้ เจนรบ มีปัญหาในการจับจังหวะและเข้ามามีส่วนร่วมกับเกม ส่งผลให้เขามีทัวร์นาเมนต์ที่ไม่น่าจดจำเอาเสียเลย

 

คะแนนผลงานโดยรวม: 5/10

มาเลเซีย - กลุ่ม อี (เข้ารอบ)

มาเลเซีย มุ่งหน้าสู่ เอเชียนเกมส์ 2018 ในฐานะทีมนอกสายตา โดยกุนซือ ออง คิม สวี ตั้งเป้าแค่เพียงเข้ารอบจากกลุ่มที่ประกอบได้ด้วยทีมอย่าง คีร์กีซสถาน, บาห์เรน และ เกาใต้ เท่านั้น  

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนบอล “เสือเหลือง” ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อทีมของพวกเขาขย้ำ คีร์กีซสถาน ไป 3-1 ในนัดเปิดสนาม ณ จุดนั้นทุกคนยังคงใจเย็นอยู่เพราะรู้ดีว่าเกมต่อไปกับแชมป์เก่า เกาหลีใต้ ซึ่งเรียกนักเตะชุดฟุตบอลโลกมาร่วมทีมด้วยถึง 3 คน ตั้งหากคือตัวชี้วัดที่แท้จริงว่ามาตรฐานของฟุตบอล มาเลเซีย อยู่จุดไหนกันแน่

แล้วเมื่อโอกาสมาถึง ซาฟาวี ราชิด กับผองเพื่อนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพียง 2 ประตูจากสตาร์ดังรายนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะล้มยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย ช่วยให้ มาเลเซีย ขึ้นนำตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม อี แบบเหนือความคาดหมาย ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นอะไรความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เอาการ ขนาดหลังเกม ซอน เฮือง มิน ยังให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกอับอายมากที่แพ้ให้กับ มาเลเซีย

ออง คิม สวี เลือกใช้ผู้เล่นตัวสำรองแทบทั้งสุดในเกมสุดท้ายกับ บาห์เรน ที่ไม่มีความหมายเนื่องจาก มาเลเซีย การันตีการเข้ารอบเรียบร้อยแล้ว

โดยรวมต้องชมว่า มาเลเซีย ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากและแฟนๆ ก็อดฝันไม่ได้ที่จะเห็นทีมของพวกเขาเข้ารอบลึกๆ ต่อไปในรายการนี้

แข้งฟอร์มฮอต: ซาฟาวี่ ราชิด 

ซาฟาวี่ ราชิด เป็นคีย์แมนที่ทัพ “เสือเหลือง” ขาดไม่ได้จริงๆ หลังซัดไปแล้ว 4 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์

แข้งฟอร์มแห้ว: นิค อาคีฟ ซิยาฮิรัล

ไม่มีผลงานที่โดนเด่นอะไรในรายนี้อย่างที่แฟนบอลเคยวาดหวังไว้เลยแม้แต่น้อย

โปรแกรมต่อไป: มาเลเซีย vs ญี่ปุ่น (24 สิงหาคม)

 

คะแนนผลงานโดยรวม: 8/10

อินโดนีเซีย - กลุ่ม เอ (เข้ารอบ)

เจ้าภาพ อินโดนีเซีย โชว์ฟอร์มเก่ง ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ ถือเป็นการพลิกล็อคเล็กๆ จากที่ตอนแรกคาดไว้ว่าจะเป็นรองทีมชาติปาเลสไตน์

ลูกทีมของ หลุยส์ มิลล่า เล่นได้ยอดเยี่ยมโดยมีการจับคู่กันของ เบโต้ กอนคัลเวส และ สเตฟาโน ลิลิปาลีย์ เป็นแกนหลัก เป็นที่มา 54% ของประตูทั้งหมดที่ อินโดนีเซีย ทำได้

สำหรับ เบโต้ ซัดไปแล้ว 3 ประตูในขณะที่ สเตฟาโน ลิลิปาลีย์ ก็ยิงไปแล้ว 3 ลูกเช่นกัน เพียงแต่เขายังแอสซิสต์ได้อีก 3 ครั้งด้วย

อย่างไรก็ดี พวกเขายังต้องคำนึงไว้ด้วยว่ากลุ่ม เอ ไม่ได้ประกอบไปด้วยทีมที่น่ากลัวอะไรมากมายและรอบ 16 ทีมสุดท้ายตั้งหากที่จะเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริง

แข้งฟอร์มฮอต: สเตฟาโน ลิลิปาลีย์

ลิลิปาลีย์ ไม่ทำให้เสียชื่อมิดฟิลด์จอมถล่มประตูหลังซัดไปแล้ว 3 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์

แข้งฟอร์มแห้ว: เฟบรี ฮาริยาดี

ตัวริมเส้นจอมทักษะจากสโมสร เปอร์ซิพ บันดุง พึ่งพาความเร็วของตัวเองมากเกินไป แถมยังขาดความนิ่ง ความเลือดเย็นตอนจบสกอร์จนปล่อยโอกาสหลุดลอยไปหลายต่อหลายครั้ง

โปรแกรมต่อไป: อินโดนีเซีย vs อูเออี (24 สิงหาคม)

 

คะแนนผลงานโดยรวม: 8/10