พรีวิวฟุตบอลชายเอเชี่ยนเกมส์ 14-15 สิงหาคม 2018

แมตช์แข่งขัน: ไทย vs กาตาร์

คิกออฟ: 19:00 ICT (UTC+7)

สนามแข่งขัน: สนามปากันสารี สเตเดียม

ผู้เล่นน่าจับตามอง (ไทย): วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ
ผู้เล่นน่าจับตามอง (กาตาร์): อาห์เม็ด โมเออิน

หนึ่งคำถามที่คาใจแฟนๆ ช้างศึกหลายท่านอยู่ในขณะนี้คือ “ใครจะยิงประตู?” ก่อนหน้านี้ทีมชาติไทยลงอุ่นเครื่องแบบปิด 2 เกมและสามารถชนะสโมสร Southern District RSA จากฮ่องกง 5-0 และชนะทีมชาติ เนปาล 4-0 แต่ไม่มีใครรู้เลยว่ารูปเกมเป็นอย่างไรหรือใครเป็นผู้ทำประตู

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ คือนักเตะไทยที่ยิงประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีก ( 9 ประตู ) กลายเป็นผู้แบกความรับผิดชอบเกมรุกของไทย อย่างไรก็ตาม นอกจาก วรชิต แล้ว "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ คงต้องฝากความหวังในการทำประตูไว้กับ 2 กองหน้าของเขา

รายแรกได้แก เจนรบ สำเภาดี ขาประจำในรุ่นอายุนี้แต่ไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนักกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ศุภชัย ใจเด็ด จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยช่วงหลังดาวรุ่งจากถิ่นปราสาทสายฟ้าอยู่ในฟอร์มดีร้อนแรงและสามารถยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง เว้นแต่เขามักลงสนามในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกเสียมากกว่า

น่าสนใจว่า โค้ชโย่ง จะผสมผสานแข้งฝีเท้าดีเหล่านี้ให้ลงตัวอย่างไรและรูปเกมจะออกมาแบบไหนกัน กองหน้าจะเป็น เจนรบ หรือ ศุภชัย? จะส่งลงทั้งคู่เลยไหม? การไม่ค่อยได้ลงสนามกับต้นสังกัดส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของ เจนรบ เพียงใด? และ ศุภชัย ที่กำลังมั่นใจสามารถยืนหน้าเป้าคนเดียวได้หรอไม่?

ในวันที่ 14 สิงหาคม แฟนบอลน่าจะได้คำตอบของคำถามเหล่านี้อยู่บ้าง แต่เชื่อว่า ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นเช่นไร จะต้องมีคำถามใหม่ๆ โผล่ขึ้นมาแน่นอน

แมตช์แข่งขัน: เวียดนาม vs ปากีสถาน

คิกออฟ: 16:00 ICT (UTC+7)

สนามแข่งขัน: วิบาวา มุคติ สเตเดียม

ผู้เล่นน่าจับตามอง (เวียดนาม): เหงียน วาน เควียต
ผู้เล่นน่าจับตามอง (ปากีสถาน): ซัดดัม ฮุสเซน

โดยรวมทีมชาติเวียดนามถือว่ามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งและการเตรียมตัวที่เพียบพร้อมกว่าทีมชาติชาติปากีสถานหลังจากพึ่งคว้า Vinaphone Cup มาครองได้สำหรับ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่เดินทางมาถึง อินโดนีเซีย ทีมชาติเวียดนามยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปฝึกซ้อมในสนามแข่งขันจริงเลย ต่างจากทีมชาติชาติปากีสถานที่ได้เข้าไปปรับตัวแล้วถึง 2 ครั้ง ก่อให้เกิดความกังวลว่าความได้เปรียบนี่จะมีผลต่อฟอร์มการเล่นของทีมชาติเวียดนามหรือไม่

แมตช์แข่งขัน: อินโดนีเซีย vs ปาเลสไตน์

คิกออฟ: 19:00 ICT (UTC+7)

สนามแข่งขัน: แพทริออตส์ สเตเดียม

ผู้เล่นน่าจับตามอง (อินโดนีเซีย): สเตฟาโน ลิลิปาลีย์
ผู้เล่นน่าจับตามอง (ปาเลสไตน์): ซาเม่ห์ มาราอาบา

เจ้าบ้านอินโดนีเซียน่าจะได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์อีกทั้งนี่ยังเป็นเพียงเกมที่ 2 ของพวกเขาในขณะที่นี่เป็นเกมที่ 3 ของปาเลสไตน์ โดยทั้งคู่อยู่ในอันดับหัวตารางเกมนี้จึงถือเป็นนัดชี้ชะตาจ่าฝูงเลยก็ว่าได้

สำหรับทีมอิเหนาควรระวัง ซาเม่ห์ มาราอาบา กองหน้าปาเลสไตน์วัย 26 ปีที่ซัดไปแล้ว 8 ประตูจาก 16 นัดในนามทีมชาติให้ดี ในเกมแรกกับทีมชาติไต้หวัน มาราอาบา ยิงตรงกรอบ 3 ครั้งจากโอกาส 4 หน และในชัยชนะ 2-1 เหนือทีมชาติลาวก็สามารถเรียกฟาวล์คนเดียวได้ถึง 3 ครั้งในครึ่งแรก ถึงแม้จะยังไม่สามารถทำประตูได้แต่สถิติเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงความอันตรายของ มาราอาบา ได้ดี

ในเวลาเดียวกัน หลุยส์ มิลลา กุนซือทีมชาติอินโดนีเซียคงต้องหวังพึ่งความสามารถของ สเตฟาโน ลิลิปาลีย์ อีกเกมหลังมิดฟิลด์จาก บาหลี ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มเก่ง ยิง 2 จ่าย 1 ในนัดที่เจ้าบ้านถล่มทีมชาติไต้หวัน 4-0

แมตช์แข่งขัน: มาเลเซีย vs คีร์กีซสถาน

คิกออฟ: 16:00 ICT (UTC+7)

สนามแข่งขัน: จาลัก ฮารุพัท สเตเดียม

ผู้เล่นน่าจับตามอง (มาเลเซีย): ซาฟาวี ราชิด
ผู้เล่นน่าจับตามอง (คีร์กีซสถาน): มุสตาฟา ยูซูปอฟ

ขวัญกำลังใจของ "เสือเหลือง" มาเลเซีย ถือว่ากำลังฮึกเหิมหลังจากเพิ่งชนะ ยูเออี ยู23 ได้ 2-0 ที่สนาม ชาห์ อลัม สเตเดียม เมื่อไม่กี่วันก่อน

นิค อาคีฟ ซิยาฮิรัล, อัคห์ยาร์ ราชิด และ ซาฟาวี ราชิด พร้อมประสานงานเป็นแกนหลักของ ออง คิม สวี ในนัดประเดิมสนามกับ คีร์กีซสถาน นอกจากนี้ประสบการณ์ของผู้เล่นชุดใหญ่อย่าง แบดโดรล บาคเทีย และ ริซาล กาฮ์ซาลี่ ก็น่าจะมีส่วนช่วยประคองทีมและนำมาซึ่งผลงานที่ดีได้สำเร็จ