ปัจจุบันฟุตบอลยุโรป กับนักเตะเอเชีย ไม่ได้เป็นเส้นขนานอีกต่อไป ในตอนนี้มีนักเตะจากทวีปที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก จากหลายเชื้อชาติเดินทางไปเล่นในยุโรป เป็นเรื่องปกติ เพราะพวกเขาได้รับการยอมรับในฝีเท้ามากขึ้นจากการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และจากผลงานของรุ่นพี่ที่สร้างเอาไว้ ทุกฤดูกาลใหม่ๆจะมีนักเตะจากทวีปเอเชีย ย้ายเข้าไปค้าแข้งในยุโรป บ้างก็ย้ายสังกัดใหม่เพื่อเป้าหมายบางอย่าง ละนี่คือ นักเตะจากทวีปเอเชียที่น่าจับตามองในซีซั่นนี้
กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา
มาจิด ฮอสไซนี (อิหร่าน) | แทร็บซอนสปอร์
ดาวเตะที่ค่อนข้างสารพัดประโยชน์ในแนวรับ เพราะสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งทั้งเซนเตอร์ แบ็คขวา และมิดฟิลด์ตัวรับ เป็นอีกหนึ่งในขุนพลของทีมชาติอิหร่าน ในชุดฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมาและได้ลงเล่นตลอดทั้ง 3 เกม แม้อายุเพิ่งจะ 22 ปีเท่านั้น และช่วยให้บ้านเกิดที่ถูกมองว่าจะเป็นทีมแจกแต้ม ทำผลงานได้ดีเกินคาดจนแฟนบอลชื่นชมเพราะพวกเขาเก็บผลการแข่งขัน แพ้, เสมอ และ ชนะ อย่างละ 1 เกม โดยเอาชนะโมร็อกโก ก่อนมาแพ้สเปน 1-0 และเสมอกับ โปรตุเกส 1-1 รวมสามนัดเสียไปแค่ 2 ประตูเท่านั้น ซึ่งในซีซั่นนี้เขาจะย้ายมาเล่นในยุโรปเป็นครั้งแรกกับ แทร็บซอนสปอร์ ในลีกแดนไก่งวงหลังปีที่แล้วถูก เอสเตกัล ปล่อยให้ ราห์ อฮัน ยืมตัวไปใช้งาน
โชยะ นาคาจิมา (ญี่ปุ่น) | ปอร์ติโมเนนเซ่
กองกลางชาวญี่ปุ่น ที่เพิ่งจะเคยติดทีมชาติไปแค่ 2 นัด และไม่ได้ติดเป็น 1 ใน 23 ขุนพลชุดฟุตบอลโลก 2018 ครั้งที่ผ่านมา เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับ โตเกียว เวอร์ดี้ ก่อนย้ายมาอยู่กับคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง เอฟซี โตเกียว แต่ก็ยังถูกปล่อยให้ คาเตอเลอร์ โตยามา ทีมในระดับ เจลีก 2 ยืมตัวไปใช้งานก่อน ในช่วงแรก ก่อนที่จะกลับมาลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และได้โอกาสไปหาประสบการณ์ใหม่ๆในการค้าแข้งเมื่อถูกปล่อยให้ ปอร์ติโมเนนเซ่ ยืมตัวไปใช้งาน และในซีซั่นแรกผลงานน่าประทับใจเมื่อได้ลงเล่น 28 เกม และยิงได้ถึง 10 ประตู ในฤดูกาลนี้น่าติดตามว่าปลายทางของเขาจะเป็นอย่างไร และจะพัฒนาขึ้นมาเป็นนักเตะเอเชียแถวหน้าได้หรือไม่
เจมี่ แมคลาเรน(ออสเตรเลีย) | เอสเฟา ดาร์มสตัดท์ 98
หัวหอกทีมชาติออสเตรเลียที่เคยฟอร์มร้อนแรงกับทีมบริสเบน รอร์ ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายมาหาความท้าทายใหม่ๆในบุนเดสลีก้าเยอรมันกับ เอสเฟา ดาร์มสตัดท์ 98 แต่ดูเหมือนว่าจะไปได้ไม่สวยเท่าไร เพราะว่าได้โอกาสลงเล่นแค่ 7 นัดเท่านั้นและยังยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียวจนทำให้ถูกปล่อยตัวให้ ฮิเบอร์เนี่ยน ทีมในลีกสกอตแลนด์ ซึ่งเขาค่อนข้างคุ้นเคยดีเพราะสมัยเยาวชนเคยเล่นให้ทีมชาติสกอตแลนด์ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ก่อนที่จะมาเล่นทีมชาติออสเตรเลียชุดใหญ่ ทำให้ฟอร์มของเขาโอเคขึ้นเมื่อยิงได้ 8 ประตูจาก 15 เกม และเมื่อสัญญายืมตัวหมดลงน่าติดตามว่าเขาจะย้ายไปไหนต่อ
ทาคาชิ อินุอิ (ญี่ปุ่น) | เรอัล เบติส
กองกลางมากประสบการณ์ทีมชาติญี่ปุ่นที่โชว์ผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา เขาได้เซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีม เรอัล เบติส ตั้งแต่ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเปิดฉากขึ้นแล้ว ซึ่งต้นสังกัดใหม่ก็ดูจะใส่ใจกับดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้ไม่น้อย เพราะในวิดีโอ เปิดตัวนั้นมีการเอา การ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวโลกรู้จักดีว่ามาจากญี่ปุ่นมาอยู่ในคลิปด้วย สำหรับ อินูอิ เริ่มต้นค้าแข้งในเจลีกกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส แต่ได้โอกาสเล่นน้อย เลยถูกปล่อยให้ เซเรโซ โอซาก้า ยืมตัว ก่อนทีมดังจากแดนใต้จะตัดสินใจซื้อขาด มาระเบิดฟอร์มกับทีมจนเข้าต่อ โบคุ่ม ในบุนเดสลีก้า ที่ตัดสินใจดึงตัวมาร่วมทีม และมาอยู่กับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ก่อนจะโยกไปเล่นในลีกที่แข็งแกร่งอย่าง ลาลีก้า สเปน กับ ไอบาร์ และได้ลงเล่นเป็นตัวหลักของทีมอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ฤดูกาล แม้ว่าจะมีช่วงที่หลุดจากทีมชาติญี่ปุ่นบ้าง แต่ก็ยังสู้ต่อจนมาติดทีมชุดไปเล่นฟุตบอลโลก ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ เรอัล เบติส ในซีซั่นนี้
คิ ซุง ยอง(เกาหลีใต้) | นิวคาลเซิล ยูไนเต็ด
กองกลางกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เพิ่งช่วยทีมเสร็จใศึกฟุตบอลโลก แล้วบินตรงไปเซ็นสัญญาเปิดตัวกับทีม นิวคาลเซิล ยูไนเต็ด แบบไร้ค่าตัวทันที ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลีใต้ เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับ เอฟซี โซล ก่อนที่จะย้ายมาเล่นในยุโรปกับ กลาสโกว เซลติก ก่อน จนผลงานเป็นที่น่าพอใจจนถูก สวอนซี ซิตี้ ดึงตัวมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่ก็มีช่วงที่ถูกปล่อยให้ ซันเดอร์แลนด์ ยืมตัวไปใช้งานในช่วงแรกๆที่ย้ายมาอยู่กับหงส์ขาว และกลับมาเล่นกับทีมจนหมดสัญญา ซึ่งในฤดูกาลสุดท้ายทีมร่วงตกชั้น แต่เขายังดีเกินกว่าที่จะลงไปเล่นในศึกแชมเปี้ยนส์ชิพ เลยถูกสาลิกาดง คว้าคัว มาร่วมทัพ ซึ่งเขาจะได้ผนึกกำลังกับเพื่อนร่วมทวีปอย่าง โยชิโนริ มุโตะ กองหน้าที่ชาติญี่ปุ่นที่เพิ่งมาร่วมทีมในซีซั่นนี้เช่นกัน
ยูยะ โอซาโกะ (ญี่ปุ่น) | แวร์เดอร์ เบรเมน
อีกหนึ่งกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่นชุดฟุตบอลโลก ที่ประเดิมค้าแข้งฟุตบอลอาชีพ ในศึกเจลีกบ้านเกิดกับ คาชิมา อันท์เลอร์ส ทีมยักษ์ใหญ่ในลีก ซึ่งในฤดูกาลแรกก็ได้สัมผัสกับแชมป์เจลีกทันทีในปี 2009 จากนั้นฟอร์มมาพีกที่สุดในปี 2013 ที่ยิงได้ 19 ประตู จนทำให้ถูก 1860 มิวนิค ดึงตัวไปร่วมทีม แต่ได้เล่นในศึกบุนเดสลีก้า 2 เยอรมันเท่านั้น แต่ก็เล่นแค่ 1 ฤดูกาลก็ได้ย้ายไปอยู่กับ โคโลญจน์ และได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอจนหมดสัญญา และเลือกย้ายมาเล่นกับ แวร์เดอ เบรเมน ซึ่งมีการประกาศอย่างเป็นทางการก่อนที่เขาจะมาช่วยทีมซามูไรบูล ลงเล่นฟุตบอลโลก 2018 น่าสนใจว่ากับสโมสรใหม่ฟอร์มของเขาจะร้อนแรงกว่านี้ได้อีกไหม
อาลีรีฎอ ญาฮานบัคช์ (อิหร่าน) | ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
กองหน้าทีมชาติอิหร่าน ชุดฟุตบอลโลกที่ได้โอกาสลงเล่นครบ 3 นัดโดยเป็นตัวจริง 2 และสำรองอีก 1 ในซีซั่นที่ผ่านมาระเบิดฟอร์มกับ อาแซด อัลค์มาร์ เมื่อซีซันที่ผ่านมา ด้วยการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดลีกดัตช์ หลังซัดไปถึง 21 ประตู จาก 33 เกม จนทำให้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ต้องยอมทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรกว่า 17 ล้านปอนด์เพื่อซื้อตัวมาร่วมทีม โดยดาวเตะรายนี้เริ่มเล่นกับดามาช เตหะรานในช่วงสั้นๆ ก่อนย้ายมาอยู่กับ ดามาช กิลาน และโยกมาเล่นในลีกยุโรปในศึก เอดิวิซี่ ลีกฮอลแลนด์ กับ เอ็นอีซี ซึ่งทีมตกไปเล่นในลีกรองในซีซั่นที่สอง แต่ก็ยังอยู่กับทีมก่อนย้ายมาอยู่กับ อาแซด อัลค์มาร์ จนมาระเบิดฟอร์มคว้าตำแหน่งดาวซัลโวในซีซั่นที่สาม จนไบร์ทตัน ที่เคยทุ่มสถิติสโมสรคว้า แมทธิว ไรอัน นายทวารจากออสเตรเลีย มาร่วมทัพผอมทุบสถิติสโมสรอีกครั้ง
โยชิโนริ มุโตะ (ญี่ปุ่น) | นิวคาลเซิล ยูไนเต็ด
ตามปกติแล้วนักเตะชาวญี่ปุ่นมักจะมีเคมีที่ลงตัวกับศึกบุนเดสลีก้า และมักจะเลือกมาเล่นในยุโรปเป็นที่แรกๆ ก่อนที่จะขยับขยายไปเล่นในลีกอื่นๆ เช่นกันกับ โยชิโนริ มุโตะ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ที่เริ่มต้นค้าแข้งในเจลีกกับ เอฟซี โตเกียว และเล่นได้แค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น ทำผลงานยิง 23 ประตูจาก 51 เกมทำให้ได้ย้ายมาอยู่ในลีกเยอรมันกับ ไมนซ์ 05 ซึ่งผลงานถือว่าดีใช้ได้ ลงเล่น 66 เกมยิงได้ 20 ประตู จนเคยมักระแสว่าหลายทีมในพรีเมียร์ลีกต้องการตัว แต่ก็ยังไม่ได้ย้ายมาร่วมทีม จนกระทั่งไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 กับประเทศญี่ปุ่นเสร็จสิ้นแล้วตัดสินใจมาหาความท้าทายใหม่ๆ ในพรีเมียร์ลีกกับ นิวคาลเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งเขาจะได้เล่นร่วมกับ คี ซุง ยอง กองกลางทีมชาติเกาหลีใต้ที่ย้ายมาในซัมเมอร์นี้พร้อมกัน