TRIBE BEST: 10 แข้งต่างชาติเจลีกฟอร์มแรงครึ่งปี 2018

ฟุตบอลเจ1ลีกในฤดูกาล 2018 ทำการแข่งขันมาจนถึงเกมที่ 15 ของซีซันซึ่งตลอดผลงานที่ผ่านมาแม้ลีกสูงสุดแดนปลาดิบจะนิยมใช้ผูเล่นในประเทศเป็นแกนหลัก ทว่าก็มีเหล่านักเตะต่างชาติที่ทำผลงานเด่นขึ้นมาจนยึดตัวจริงให้สโมสรเช่นกัน และนี่คือโฉมหน้าของแข้งนำเข้าที่ฟอร์มเยี่ยมก่อนที่ลีกญี่ปุ่นจะพักเบรกให้โปรแกรมทีมชาติในฟุตบอลโลก 2018

กดเลื่อนทางขวาเพื่ออ่านหัวข้อถัดไป

โช อัลเวส (นาโงยา แกรมปัส)

สโมสรน้องใหม่หน้าเก่าแห่งศึกเจลีก ประกาศดึงอดีตกองหน้าทีมชาติบราซิลมาจากสโมสรโครินเธียน เข้าสู่ทีมในฤดูกาล 2018 หลังจากที่คว้าโควต้าสุดท้ายเลื่อนชั้นจากเจทู ขึ้นสู่ เจลีก และในเพียงเกมแรกกับทัพ “วาฬเพชฌฆาต” อดีตหัวหอกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ฟอร์มร้อนแรงโชว์ยิง 1 จ่าย 1 ให้เพื่อนทำประตูพาทีมคว้า 3 แต้มแรกทันที และแม้ว่า 5 นัดต่อมาเขาจะไม่มีส่วนช่วยทีมสร้างสรรค์ประตูได้ แต่โปรแกรมที่เหลือก่อนเบรกบอลโลก ดาวยิงวัย 30 กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีของตัวเองอีกครั้ง จากสถิติกดเพิ่มไปอีก 5 ประตู ขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดของทีมอยู่ในขณะนี้

จาง ฮยุน โซ (เอฟซี โตเกียว)

ส่วนหนึ่งที่กองหลังชาวเกาหลีใต้เจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตรมีชื่อติดทีมชุดใหญ่ลุ้นไปบอลโลกอีกครั้ง เพราะบทบาทล่าสุดร่วมกับเอฟซี โตเกียว ในฤดูกาล 2018 เจ้าตัวมีโอกาสสวมปลอกแขนกัปตันทีมให้โตเกียวแทนที่มาซาโตะ โมริชิเกะ ตั้งแต่เกมประเดิมซีซัน และแม้อดีตกองหลังกวางโจว อาร์แอนด์เอฟจะชวดลงสนามไปบ้างจากอาการบาดเจ็บ ทว่าในปีนี้เขาก็มีโอกาสลงเล่นให้โตเกียวไปแล้วถึง 10 นัด มีส่วนช่วยให้ทีมรั้งรองจ่าฝูงของซีซันหลังผ่าน 15 แมตช์

ฮูโก วิเอรา (โยโกฮามา เอฟ มารินอส)

ตัวรุกชาวโปรตุเกสแจ้งเกิดในการค้าแข้งบนแผ่นดินเอเชียอย่างเต็มตัวร่วมกับมารินอสในซีซันนี้ โดยภายใต้กุนซือคนใหม่ของทีมอย่างอันเก ปอสเตโคกลู ดาวยิงวัย 29 กะรัตทำร้อนแรงถึงขั้นยิง 7 ประตูกับ 1 แอสซิสต์จาก 15 แมตช์ที่ได้ลงเล่น แถมยังประเดิมแฮตทริคแรกในลีกญี่ปุ่นได้แล้วในเกมนัดที่ 9 ของฤดูกาลที่เสมอโชนัน เบลมาเร 4-4

กาเบรียล ซาเวียร์ (นาโงยา แกรมปัส)

ถึงแม้ว่าผลงานของนาโงยาจะย่ำแย่ถึงขั้นรั้งอันดับสุดท้ายของตารางเจลีก ทว่าสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นอาวุธเด็ดของทีมคือการมีกองกลางต่างชาติอย่างกาเบรียล ซาเวียร์ อยู่ในทีม โดยซีซันที่สองและโอกาสสัมผัสเกมลีกสูงสุดของญี่ปุ่นร่วมกับนาโงยา เพลย์เมกเกอร์วัย 24 ปี ได้โอกาสลงขับเคลื่อนเกมรุกให้ทีมทั้งสิ้น 12 จาก 15 นัด (ชวดลงเล่น 3 นัดเพราะอาการเจ็บ) อยู่สร้างสถิติยิง 4 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตู ไม่แน่ว่าหากอดีตครูไซโรทำผลงานเด่นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ หมดฤดูกาลเขาอาจโยกไปค้าแข้งกับสโมสรคู่แข่งร่วมลีกก็เป็นได้

อุย ฮวาง โจ (กัมบะ โอซากา)

หนึ่งในดาวซัลโวอันดับสามร่วมของเจลีกในขณะนี้ สำหรับอุย ฮวาง โจว เลือกออกมาหาประสบการณ์ลงเล่นในต่างแดนหนแรกกับทัพเด็กสายฟ้าตั้งแต่ช่วงเลกสองของปีที่แล้ว แต่ด้วยโอกาสจำกัดในการลงเล่น แถมแดนหน้าของทีมกัมบะมีตัวเลือกใช้งานเยอะ ทำให้เขาต้องรอโอกาสพิสูจน์ตัวเองไปก่อน แต่ในฤดูกาล 2018 นี้ ดาวยิงพลังโสมกลับได้โอกาสจาก เลเวียร์ คัลปิ โค้ชชาวบราซิล ยึดให้เป็นแกนหลักในแนวรุก ก่อนที่ตัวเขาจะตอบแทนผ่านผลงานยิง 7 ประตูจาก 15 เกม

คริสลัน (ชิมิสุ เอสพัลส์)

หลังจากที่ทำผลงานได้น่าพอใจกับเวกัลตะ เซนได ในเวทีเจลีกฤดูกาลก่อนจากสถิติลงเล่น 29 นัด ยิง 8 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ สิ่งนี้ทำให้ชิมิสุ สโมสรคู่แข่งร่วมลีกตัดสินใจดึงมาใช้งานต่อในสัญญายืมจากสปอร์ติง บราก้า ซึ่งในขณะนี้เขาก็ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่เพิ่มมาขึ้นการมีส่วนช่วยเพื่อนทำประตู เพราะหลังผ่าน 13 เกมที่ได้ลงสนาม คริสลันทำไปแล้ว 4 แอสซิสต์กับอีก 3 ประตู

ดิเอโก โอลิเวียรา (เอฟซี โตเกียว)

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กองหน้าชาวบราซิลรายนี้ยังแจ้งเกิดในศึกเจลีกหนแรกร่วมกับคาชิวา เรย์โซล ได้มากเท่าใดนัก จากสถิติลงสนามในลีกทั้งหมด 27 เกม ยิงได้เพียง 5 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ทว่าการโยกมาค้าแข้งร่วมกับเอฟซี โตเกียว คู่แข่งร่วมลีกในสัญญายืมฤดูกาลนี้ อดีตดาวเตะผู้ผ่านประสบการณ์ค้าแข้งมาไม่น้อยกว่า 10 สโมสรเริ่มพิสูจน์ตัวเองให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และการจบสกอร์ที่วางใจได้ เพราะในขณะนี้เขาลงตัวจริงให้โตเกียวครบ 15 นัด แบ่งสถิติเป็นการยิง 9 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ผงาดตำแหน่งรองดาวยิงสูงสุดประจำลีกซามูไรอย่างเฉิดฉาย

จอง วู ยอง (วิสเซิล โกเบ)

แข้งสารพัดประโยชน์ดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่หวนกลับมาค้าแข้งกับทีมจากจังหวัดเฮียวโงะอีกครั้งในฤดูกาล 2018 หลังออกไปโกยเงินหยวนมากับทัพฉงชิง ลีฟาน และดูเหมือนการกลับมาหนนี้ สตาร์วัย 28 ปีก็ยังคงรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นสมราคาแข้งทีมชาติ เขามีทั้งความแข็งแกร่ง ดักบอลได้แม่นยำ เล่นได้ทั้งกองกลางและกองหลัง แถมยังมีลูกตั้งเตะที่วางใจได้ ถึงตอนนี้วู ยอง มีชื่อเล่นให้โกเบไปแล้ว 12 เกม พร้อมทำไป 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์

ปาทริค โอลิเวียรา (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา)

กองหน้าร่างยักษ์เจ้าของส่วนสูง 189 เซนติเมตร กลับมาแจ้งเกิดในการลงเล่นศึกเจ1ลีกอีกครั้ง ภายหลังที่ฮิโรชิ โจคุฟุ โค้ชใหญ่ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ที่เข้ามาคุมทีมในปี 2018 นี้ ตัดสินใจเก็บเจ้าตัวไว้ใช้งานต่อในฤดูกาล 2018 ผ่านรูปแบบการต่อสัญญายืมตัวจากซัลเกโร ทีมในบ้านเกิดที่บราซิล ก่อนจะตอบแทนโอกาสนี้แบบน่าประทับใจ เพราะอดีตดาวยิงกัมบะ โอซาก้า ได้ลงสนามครบ 15 เกม และอาศัยจุดเด่นเรื่ิงความฟิต วิ่งไล่บอลแบบไม่มีหมด แถมมียังความแข็งแกร่ง จบสกอร์เฉียบคม ส่งนี้เห้นได้จากผลงานที่เขารั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของลีกในขณะนี้ที่ 10 ประตู แถมทีมยังลอยลำรั้งจ่าฝูงแบบทิ้งห่างอันดับสองถึง 9 แต้ม

ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คอนซาโดเล ซัปโปโร)

หลังจากที่โยกมาค้าแข้งกับคอนซาโดเล ซัปโปโร เมื่อกลางเลกก่อน ดาวเตะดีกรีทีมชาติไทยก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นแผงเกมรุกระดับแถวหน้าของเจ1ลีกในฤดูกาลนี้อย่างเต็มตัว ไล่มาตั้งแต่โอกาสลงตัวจริงในยุคของชูเฮ โยโมดะ มาจนถึง มิไฮโล เปโตรวิช เฮดโค้ชของทีมคนปัจจุบัน ที่จับชนาคุงยืนแผลงเกมรุกอยู่หลังกองหน้าตัวเป้า ซึ่งหลังผ่าน 15 เกม “เจ” สร้างสรรค์เกมบุกเปลี่ยนเป็นผลให้ทีมได้แล้วถึง 3 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ แถมยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมเจลีกมาแล้วถึง 2 ครั้ง