ฟุตบอลญี่ปุ่น เจลีก

ผลงานดีมีรางวัล: 11 แข้งเจลีก(หน้าใหม่)ลุ้นติดธงซามูไรลุยบอลโลก

 

ในวงการฟุตบอลลีกสูงสุดของญี่ปุ่นอย่างเจ1ลีก มักให้โอกาสผู้เล่นในประเทศลงเป็นแกนหลักช่วยต้นสังกัดของแต่ละคนประสบความสำเร็จแตกต่างกันไป หลายคนฟอร์มเด่นชนิดที่มีชื่อติดลิสต์เกาะกลุ่มดาวซัลโว บางคนทีมเล่นเกมรับช่วยเสียประตูน้อย สิ่งนี้สวนทางกับผู้เล่นเลือดบูชิโดหลายรายที่อยู่ค้าแข้งในต่างแดน แต่กลับไม่มีโอกาสรีดฟอร์มเก่ง เพราะไม่มีชื่อลงสนาม ในขณะที่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่อาคิระ นิชิโนะ กุนซือคนปัจจุบันอาจลองเรียกเหล่านักเตะจากเจลีก ที่บางคนก็เคยติดทีมชาติมาก่อน หรือลองใช้แข้งหน้าใหม่เข้ามาติดทีมชาติชุดใหญ่ นี่คือ 10 แข้งทำผลงานเด่นในลีกสูงสุดแดนอาทิตย์อุทัย และน่ามีชื่อไปลุยเวิลด์คัพแดนหมีขาว

เลื่อนลูกศรทางขวาเพื่อติดตาม

 

ทาคุมะ นิชิมูระ - เวกัลตะ เซนได

ดาวโรจน์วัย 21 ปี เล่นได้ทั้งตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าและตัวต่ำ เติบโตในเส้นทางค้าแข้งร่วมกับทีมเซนได ซึ่งเป็นสโมสรอาชีพทีมแรกของเจ้าตัวตั้งแต่อายุ 18 ปีเท่านั้น และนับเป็นพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมของเจ้าตัวชนิดที่ค่อยๆไต่เต้าจนกลายเป็นตัวจริงในแผงเกมรุกให้ทีมไปแล้วในฤดูกาลนี้ จากสถิติที่เขาได้โอกาสลงเล่นในเกมลีกไปแล้ว 13 เกม โดยเฉพาะ 5 นัดหลังสุดได้เล่นเต็ม 90 นาทีถึง 4 แมตช์ มีชื่อซัดไปแล้วถึง 6 ลูก รั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของทีมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจากผลงานเด่นนี้ ก็คงจะไม่แปลกอะไรหากอาคิระ นิชิโนะ เทรนเนอร์ทีมชาติชุดใหญ่จะลองเสี่ยงดึงนิชิมูระเข้ามาติดธงหนแรก เพราะเจ้าตัวแสดงศักยภาพให้เห็นจากสถิติและโอกาสเล่นในลีกสูงสุดมาแล้ว

 

อาตารุ อิซากะ - คาชิวา เรย์โซล

เพลย์เมกเกอร์รายนี้เป็นอีกหนึ่งนักเตะเริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งกับทีมจากลีกรองกับสโมสรเธสปาคูซัทสึ กุมมะ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดแดนลูกพระอาทิตย์เพียงซีซันที่สองในเส้นทางลูกหนังกับโอมิยะ อาดิจาร์ ในปี 2016 และแม้จะอยู่ในทีมชุดร่วงตกชั้นสู่เจทูในฤดูกาลถัดมา ทว่าจากสถิติเด่นลงสนามครบทุกนัด ทำให้อิซากะถูกทีมฉายา “เจ้าชายสุริยะ” หรือคาชิวา เรย์โซล คว้ามาร่วมทีมต่อในซีซันนี้ และไม่ทำให้ทีมต้องผิดหวัง เพราะในขณะนี้ห้องเครื่องวัยเบญจเพสมีชื่อลงสนามให้ทีมครบทุกนัด พร้อมสถิติยิง 4 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ รั้งตำแหน่งดาวยิงและจ่ายให้เพื่อนทำประตูมากสุดให้ทีมอยู่ในขณะนี้

 

ริกิ ฮาราคาวะ - ซางัน โทสุ

ถึงแม้ว่าผลงานของพลพรรคนกเมจิโรในฤดูกาลนี้จะดร็อปถึงขั้นรั้งอยู่อันดับรองบ๊วยหลังผ่าน 13 เกม ทว่ากองกลางวัย 24 ปีรายนี้กลับพัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในแผงเกมรุกคนสำคัญชนิดที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ เพราะนอกจากที่เขาจะทำสถิติลงเล่นทุกแมตช์ ทำ 1 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ เจ้าตัวยังมีสถิติสร้างโอกาสทำประตูได้มากที่สุดในเจ1ลีกเวลานี้ถึง 34 ครั้ง นอกจากนี้ เขายังเล่นได้สารพัดตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นกองกลางคอยคุมจังหวะ ทำเกมรุก คอยตัดเกมในฐานะกลางรับ ตลอดจนถอยมาเล่นริมเส้นฝั่งซ้ายได้อีกด้วย

 

ฮิโรยูกิ อาเบะ - คาวาซากิ ฟรอนทาเล

จากผลงานเด่นเมื่อฤดูกาลก่อน ที่พาฟรอนทาเลผงาดคว้าแชมป์เจ1ลีก ส่งผลให้แนวรุกวัย 28 กะรัตถูกเรียกไปติดธงซามูไรบลูครั้งแรกในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันออก หรือ EAFF 2017 มาแล้ว จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงสานฟอร์มเด่นร่วมกับทีมมาจนฤดูกาลปัจจุบัน จากสถิติลงเล่นในลีกในขณะนี้ที่ 10 เกม ทำได้ 1 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ ช่วยทีมรั้งในอันดับที่ 5 ของตารางหลังผ่านการแข่ง 13 นัด ซึ่งก็ไม่แน่ว่าหากดาวเตะหมายเลข 8 แห่งฟรอนทาเลยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองต่อไปก่อนจะถึงการประกาศเรียกตัวติดทีมชาติลุยบอลโลก แข้งรายนี้ถือเป็นอีกหนึ่งลิสต์น่าสนใจในแผงเกมรุกทีมไม่แพ้รายอื่น

 

ฮิโรทากะ มิตะ - วิสเซิล โกเบ

มิดฟิลด์ตัวคุมเกมรายนี้รักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นส่วนตัวมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน หลังจากที่มีชื่อลงเล่นร่วมกับเซนไดเมื่อฤดูกาลก่อนถึง 33 แมตช์ ก่อนถูกยอดทีมจากจังหวัดเฮียวโงะดึงมาเสริมทีมต่อในฤดูกาล 2018 และด้วยโอกาสที่ได้รับในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางร่วมกับทีม เขาประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม คอยทำเกม และช่วยลงไปตั้งรับชนิดที่ไม่เหมือนแข้งที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม รวมถึงโอกาสที่ได้เล่นเคียงข้างลูคัส โพดอลสกี ทำให้ผลงานส่วนตัวของมิตะจนถึงตอนนี้ เขาลงสนามเกมเจ1ลีกครบทั้ง 13 แมตช์ แถมเป็นการยืนเต็ม 90 นาทีถึง 12 เกม พร้อมกับการทำไปแล้ว 3 ประตูกับ 1 แอสซิสต์

 

โชโงะ ทานิงุจิ - คาวาซากิ ฟรอนทาเล

แนวรับเจ้าของส่วนสูง 182 เซนติเมตร ถือเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นแถวหน้าของศึกเจลีกยุคปัจจุบัน เห็นได้ชัดจากการก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงบนเส้นทางอาชีพลูกหนังกับฟรอนทาเลตั้งแต่ปีแรกในอาชีพค้าแข้งเมื่อปี 2014 ก่อนจะเริ่มฉายแววเด่นขึ้นมาเรื่อยๆจนถูกเรียกไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในปีต่อมา และเป็นหนึ่งในขุนพลซามูไรบลูชุดลงเตะรายการชิงแชมป์เอเชียตะวันออก หรือ EAFF East Asian Cup ปี 2015

แม้ช่วงเวลาต่อจากนั้นเจ้าตัวจะหลุดไปจากทำเนียบทีมชาติ ทว่าฟอร์มส่วนตัวในเกมลีก ปราการหลังวัย 26 กะรัตยังคงเป็นแกนหลักช่วยฟรอนทาเลเช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานพาทีมซิวแชมป์เจลีก 2017 จนถึงตอนนี้ (ฤดูกาล 2018) โชโกะลงเล่นให้ทีมครบทั้ง 13 แมตช์ชนิดที่ไม่เคยถูกเปลี่ยนออกเลย แถมยังมีชื่อใส่สกอร์แล้วถึง 2 ประตู รวมทั้งมีโอกาสสวมปลอกแขนกัปตันทีมมากถึง 4 เกม ซึ่งบรรดาทีมสตาฟซามูไรบลูอยากหาแนวรับร่างใหญ่ไว้ใช้ต่อกรกับคู่แข่ง ทานิงุจิก็นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

 

เคนซุเกะ นากาอิ - เอฟซี โตเกียว

อดีตกองหน้าที่เคยมีดีกรีติดทีมชาติชุดใหญ่ 6 เกมและอดีตดาวซัลโวฟุตบอลรายการเอเชียน เกมส์ 2010 เคยฟอร์มพีคสุดขีดสมัยที่อยู่ค้าแข้งกับนาโงยา ช่วงปี 2011-2012 และ 2013-2016 (สัญญายืมจากสตองดาร์ด ลีแอช) จากผลงานลงเล่นมากกว่า 200 นัด และยิงมากถึง 59 ประตู พร้อมกับโทรฟีรายการซูเปอร์คัพ เมื่อปี 2011 กระทั่งดยกมาเล่นให้เอฟซี โตเกียวในปี 2017 ทว่าสถิติในปีแรกของแข้งวัย 29 ปีกับโตเกียว เขายิงประตูในเกมลีกได้เพียง 1 ลูกจาก 30 นัด แม้จะเป็นฟอร์มที่ล้มเหลว แต่เจ้าตัวยังคงได้พิสูจน์ตัวเองต่อในปี 2018 และคราวนี้เขาตอบแทนโอกาสที่ได้รับจากผลงานลงสนามไปแล้วถึง 12 นัด มีสถิติยิง 4 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ ทั้งยังสารพัดประโยชน์เล่นได้ทั้งกองหน้า ริมเส้น ตลอดจนวิงแบ็ค อยู่ช่วยทีมจากเมืองหลวงแดนปลาดิบฟอร์มเฉิดฉายรั้งรองจ่าฝูงของตารางอยู่ในขณะนี้

 

ยูมะ ซูซูกิ - คาชิมา อันท์เลอร์ส

ถึงตอนนี้คงยากจะปฏิเสธว่าทีมชาติญี่ปุ่นประสบปัญหาในการเลือกกองหน้าตัวเป้าลุ้นจบสกอร์ เห็นได้ชัดจากกรณีของชินจิ โอคาซากิ ที่เคยเป็นตัวจริงเริ่มไม่ได้โอกาสลงเล่นให้เลสเตอร์ ซิตี้ และชวดติดทีมชาติตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งยูมะ ซูซูกิ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีของทีมชุดลุยบอลโลกที่รัสเซีย เพราะในขณะนี้เขากำลังเป็นแกนหลักร่วมกับทัพกวางเขาเหล็ก ได้โอกาสลงเล่นในลีกไปแล้ว 13 เกม ทำไป 3 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ แถมยังมีจุดเด่นที่ความแข็งแกร่ง รูปร่างสูงใหญ่ (สูง 182 เซนติเมตร) พอเข้าปะทะกับแข้งต่างชาติได้สูสี น่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ส่งผลดาวยิงวัย 22 ปีมีลุ้นอยู่ไม่น้อย

 

โช ซาซากิ - ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา

แม้ในฤดูกาลก่อนแบ็คซ้ายวัย 28 ปีจะชวดลงสนามให้ทัพพลธนูม่วงตลอดทั้งซีซันจากอาการบาดเจ็บบริเวณเส้นเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า แต่พอเข้าสู่ปี 2018 เขากลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมลงช่วยทีมกู้สถานการณ์จากปีก่อนที่ยังลุ้นหนีตกชั้นจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายมาเป็นทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์อย่างเต้มภาคภูมิ แม้จะเพิ่งหายจากอาการเจ็บ แต่ซาซากิกลับได้โอกาสจากฮิโรชิ โจฟุคุ วางใจยืนตำแหน่งแบ็คซ้ายครบทั้ง 13 แมตช์ในลีก และแข็งแกร่งถึงขั้นที่ทีมเสียประตูน้อยสุดในลีกเพียง 5 ลูกเท่านั้น แถมยังขึ้นไปเติมเกมรุกกลายเป็นการทำ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ร่วมกับทีมมาแล้ว เรียกได้ว่าแข้งหมายเลข 19 ของซานเฟรชเชถือเป็นอีกหนึ่งในแนวรับที่โดดเด่นทั้งเกมรับ-รุก และน่ามีลุ้นติดธงลูกพระอาทิตย์หนแรกในเวิลด์คัพที่รัสเซียอีกราย

 

เคน โทคุระ - คอนซาโดเล ซัปโปโร

หัวหอกรุ่นพี่ของชนาธิป สรงกระสินธ์ ในนามคอนซาโดเล ซัปโปโร คือขุมกำลังสำคัญของทัพนกเค้าแมวเมืองเหนือนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวย้ายมาร่วมทีมเมื่อฤดูกาล 2014 เมื่อครั้งที่ลงเตะในเจทู กระทั่งพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดฤดูกาล 2017 ในฐานะแชมป์เจทู 2016 แถมยังรั้งรองดาวซัลโวจากผลงาน 19 ประตูในลีก และถึงแม้ว่าปีแรกในเจ1ลีกร่วมกับซัปโปโร เคนจะฟอร์มขึ้นๆลงๆยิงได้ 9 ประตูจาก 30 เกม รวมถึงการถูกดร็อปเป็นสำรองในช่วงแรกของซีซัน 2018

แต่จากการที่เจย์ โบธรอยด์ ดาวยิงตัวหลักของทีมมีอาการเจ็บ ทำให้มิไฮโล เปโตรวิช ตัดสินใจวางดาวยิงวัย 31 ปีเป็นดาวยิงเบอร์ 1 แทน ก่อนจะเคนจะตอบแทนเป็นการทำไปแล้วถึง 5 ประตูจาก 10 เกม หนึ่งในนั้นคือประตูที่ 100 ในเจลีกของเจ้าตัวในเกมลีกนัดที่ 12 ต่อหน้ามาโคโตะ เทงุราโมริ สตาฟโค้ชทีมชาติญี่ปุ่นที่เข้ามานั่งชมเกมในสนาม ทำให้มีลุ้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจในแดนหน้าของทัพซามูไรบลูเช่นกัน

 

ทาคุโตะ ฮายาชิ - ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา

นายด่านประสบการณ์สูงผู้ที่ผ่านสังเวียนเจลีกมาไม่น้อยกว่า 190 นัด โยกกลับมาค้าแข้งให้กับซานเฟรชเช ฮิโรชิมา คำรบสองเมื่อฤดูกาล 2014 ด้วยวัย 32 กะรัต ก่อนจะอยู่สร้างความสำเร็จร่วมกับสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาถึงการเป็นแชมป์ร่วมกับทีมรวมทุกรายการ 4 โทรฟี รวมถึงการมีโมเมนต์เกือบตกชั้นร่วมกับทีมเมื่อปีที่แล้ว แต่สำหรับฤดูกาล 2018 นี้ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ทีมรั้งจ่าฝูงทิ้งห่างอันดับสองถึง 8 คะแนน มาจากความยอดเยี่ยมของฮายาชิ ที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบผ่านสถิติที่ทีมเสียเพียง 5 ประตูในลีกเท่านั้น แถมยังมีสถิติเก็บได้ถึง 10 คลีนชีตจากการลงแข่ง 13 นัด ในขณะที่ผลงานของทีมชาติญี่ปุ่น 5 เกมหลังสุดนั้นเสียประตูทุกนัด สิ่งนี้อาจทำให้นายด่านมือหนึ่งทีมพลธนูม่วงก้าวมามีชื่อติดทีมชาติญี่ปุ่นอีกครั้งก็เป็นได้ หลังจากที่ตัวเขาเคยมีชื่อเรียกติดธงย้อนไปตั้งแต่ปี 2012-2013