เอเชีย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก

ก่อนลุ้นบุรีรัมย์ : ย้อนรอย 10 เกมความทรงจำสโมสรไทยปราบบิ๊กเอเชีย

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือสโมสรตัวแทนจากไทยทีมล่าสุด ที่จะมีโอกาสเผชิญหน้ากับทีมดังร่วมทวีปเอเชียในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2018 หลังทะลุสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายรอเจอกับชุนบุค ฮุนได ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์รายการดังกล่าวถึง 2 สมัย อย่างไรก็ตาม ก่อนถึงคิวของปราสาทสายฟ้าดวลแข้งยอดทีมร่วมทวีปในวันอังคารนี้ (8 พฤษภาคม 2018) เคยมีหลายหนที่ทีมจากไทยล้มเหล่าทีมยักษ์ ประกาศศักดาบนเวทีแห่งทวีปเอเชียอย่างเต็มภาคภูมิมาก่อน

กด Next เพื่ออ่าน

 

บีอีซี เทโรศาสน (ไทย) 2-1 เซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว (จีน) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2002-03

หลังจากที่ “มังกรไฟ” ปราบ แทจอน ซิติเซน จากเกาหลีใต้ได้แล้ว เหมือนกับเป็นการปลุกกระแสของการแข่งชันฟุตบอลรายการนี้ ขึ้นมาทันที จากยอดผู้ชมในเกมแรก 16,000 คน พุ่งเป็น 20,000 คน ที่ตีตั๋วเข้ามาให้กำลังใจตัวแทนจากไทย ที่ลงสนามพบกับ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว ตัวแทนจากประเทศจีน เกมนี้ จตุพงษ์ ทองสุข เป็นคนยิงประตูให้ บีอีซี เทโร ออกนำไปก่อน แต่ทีมเยือนก็มาตามตีเสมอได้จาก ซาอูล มาติเนซ กองหน้าชาวฮอนดูรัส ก่อนที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น คนเดิมจะมาพังประตูชัยให้ เทโร เอาชนะไป 2-1 ช่วยให้ทีมจากไทยสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบที่สอง ในการลงแข่งขันครั้งแรกทันที พร้อมๆกับ แทจอน ซิติเซน ที่เข้ารอบในฐานะที่สอง

 

บีอีซี เทโรศาสน (ไทย) 2-0 แทจอน ซิติเซน (เกาหลีใต้) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2002-03

ปีปฐมฤกษ์ของถ้วยใบใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ตอนนั้น บีอีซี เทโรศาสน ยังเป็นมหาอำนาจของลูกหนังไทย ได้เป็นตัวแทนผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม ร่วมสายเดียวกับ คาชิม่า อันท์เลอร์ส จากญี่ปุ่น, เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว จาก จีน และ แทจอน ซิติเซน ซิติเซ่น จากเคลีก ซึ่งทำการแข่งขันแบบพบกันหมด แต่ไม่มีการเล่นแบบเหย้าเยือน ซึ่งตัวแทนจากไทยได้เป็นเจ้าภาพสายเอ และใช้สนาม ศุภชลาศัย ที่เปรียบเหมือนสังเวียนอันศักดิ์สิทธิ์ ของลูกหนังไทย และเพียงแค่เกมที่สองของรายการนี้ พวกเขาก็สร้างประวัติศาสตร์คว้าชัยชนะได้ทันทีต่อหน้าแฟนบอลกว่า 16,000 ชีวิตจากการพังประตูของ ปณัย คงประพันธ์ และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น

 

 

บีอีซี เทโรศาสน (ไทย) 1-0 อัล ไอน์ (ยูเออี) | รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2002-03

ในการลงเล่นในศึกเอซีแอล สมัยแรก “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน ก็สามารถผ่านทะลุเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ทันทีด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม และในนัดชิงชนะเลิศที่แข่งขันแบบเหย้าเยือน พวกเขาออกไปพ่าน อัล ไอน์ ทีมแกร่งจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปก่อน 2-0 และต้องการกลับมาชนะ อย่างน้อยในสกอร์เท่ากัน เพื่อลุ้นต่อในช่วงต่อเวลา เกมนี้ ย้ายมาเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน และ มังกรไฟ ก็ยังได้ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่พังประตูให้ทีมออกนำจากลูกจุดโทษในนาที 60 จากนั้นทีมก็โหมบุกอย่างหนัก แต่ว่าไม่สามารถพังประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกมพวกเขาพ่าย อัล ไอน์ ไปด้วยประตูรวม 2-1 แต่ก็ยังทำสถิติเป็นทีมที่มีสถิติสุดแกร่งในการเล่นในบ้านเมื่อสามารถชนะได้ถึง 4 จาก 5 เกม โดยเสมอ 1 เกม

 

บีอีซี เทโรศาสน (ไทย) 2-1 เซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว (จีน) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2004

ในฤดูกาลตอ่มาของศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรสาสน ยังได้เข้ามาเล่นเป็นตัวแทน พร้อมเปลี่ยนระบบการแข่งขันเป็น เหย้าเยือนตั้งแต่รอบแรก ซึ่งผลงานในครั้งนี้ของ บีอีซี ไม่ค่อยสู้ดีนัก และพวกเขาสลับมาใช้งานสนาม ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในเกมที่ต้อนรับการมาเยือนของ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว ตัวแทนจากประเทศจีนที่เคยพบกันแล้วเมื่อฤดูกาลก่อน และครั้งนี้ บีอีซี ก็ยังย้ำแค้นด้วยการถล่มเอาชนะไปแบบขาดลอย 4-1 ก่อนที่เกมที่เหลือจะพ่ายรวด และนั่นคือชัยชนะนัดสุดท้ายของรองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีจากไทยในรายการนี้อีกด้วย

 

ชลบุรี เอฟซี (ไทย) 3-1 เมลเบิร์น วิคตอรี่ (ออสเตรเลีย) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2008

“ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี กลายเป็นตัวแทนจากไทยบ้างหลังจากที่คว้าแชมป์ไทยลีกมาครอง จริงๆพวกเขาเกือบที่จะคว้าชัยตั้งแต่การลงเล่นแมตช์แรกในการออกไปเยือน กัมบะ โอซาก้า อยู่แล้ว แต่ว่าถูกตามตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเสียก่อน และจากนั้นเกมที่สองในบ้าน ที่ต้องย้ายมาเล่นที่สนาม สนามศุภชลาศัย เพราะรังเหย้าของพวกเขาที่จังหวัดชลบุรียังไม่พร้อมในการรับมือกับ เมลเบิร์น วิคตอรี่ จากออสเตรเลีย ซึ่ง ชลบุรี สร้างปรากฏการณ์อันลือลั่นประกาศศักดาด้วยการโค่นทีมแกร่งจากออสเตรเลียลงได้ จากการพังประตูของ เนย์ ฟาเบียโน่ และ จูเลียส บราก้า ที่ซัดประตูสุดสวยด้วยการโซโล่เดี่ยว และยิงไกลสุดเวอร์วังอลังการ ช่วยให้ ทีมลูกน้ำเค็มตัวแทนจากไทยผงาดคว้าชัยชนะในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปได้จากการลงเล่นเพียงแค่นัดที่ 2 เท่านั้น

 

ธนาคารกรุงไทย (ไทย) 5-3 ปักกิ่ง กั๋วอัน (จีน) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2008

ในฤดูกาล 2008 ธนาคารกรุงไทย หรือ บางกอกกล๊าส เอฟซี ในปัจจุบัน ก็เป็นอีกทีมตัวแทนจากไทยที่ได้โควตาในการลงเล่นในรายการนี้ แม้จะเปิดตัวไม่ค่อยสวยเมื่อถูก คาชิม่า อันท์เลอร์ส ยำเละมาก่อนในเกมแรก แต่หลังจากเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ ในนัดส่งท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน พวกเขาก็ไล่ถล่มเอาชนะ ปักกิ่ง กั๋วอัน จากประเทศจีนไปแบบขาดลอย ด้วยสกอร์ 5-3 ซึ่งเกมนั้น นันทวัฒน์ แทนโสภา ซัดคนเดียวไปถึง 4 ประตู จนทำให้เขากลายเป็นนักเตะไทยหนึ่งเดียวที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของรายการนี้มาครองได้

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) 3-2 คาชิวา เรย์โซล (ญี่ปุ่น) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2012

เกมเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากไทยที่ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ หลังจากคว้าแชมป์ไทยลีก และจะต้องรับมือกับ คาชิว่า เรย์โซล ตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เจลีกเช่นเดียวกัน และเคยมีแข้งทีมชาติญี่ปุ่นคนปัจจุบันอย่าง ฮิโรกิ ซากาอิ ลงเล่นในทีม ซึ่งเกมนี้แชมป์จากไทยเปิดตัวได้สวยงามเกินคาด เมือเอาชนะ คาชิว่า เรย์โซล ไป 3-2 จากการเหมาทำคนเดียวสองประตูของ จิรวัฒน์ มัครมย์ และอีกหนึ่งลูกจาก อัสการ์ ยาดิเกรอฟ กองกลางชาวอุซเบกิสถาน

 

กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ (จีน) 1-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2012

หลังเอาชนะ คาชิว่า เรย์โซล มาได้ ทำให้ ปราสาทสายฟ้าลงเล่นด้วยความมั่นอกมั่นใจแบบสุดๆ และในอีก 2 สัปดาห์ถัดมาพวกเขา ต้องบุกไปเยือนทีมแกร่งอย่าง กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ทีมเงินถุงเงินถัง และยังเป็นแชมป์ไชนีสซูเปอร์ลีก หลายคนคิดก่อนเกมว่าแค่เสมอได้ก็เก่งแล้ว
แต่ปราสาทสายฟ้าทำในเรื่องที่เหลือเชื่อว่านั้น ด้วยการบุกไปโค่นยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร ดยได้ประตูชัยจาก แฟรงค์ อาเชียมปง ทำให้เก็บเป็น 6 แต้มเต็มจากสองเกมแรก และเป็นทีมแรกจากอาเซียนที่บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับสโมสรจากเอเชียตะวันออกถึงถิ่นอีกด้วย แม้จะออกตัวอย่างร้อนแรงแต่เกมที่เหลือพวกเขาเก็บแต้มเพิ่มไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียวทำต้องยุติเส้นทางเพียงแค่รอบแรกเท่านั้นในการลงแข่งขันในปีแรก

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) 2-1 บุนยอดกอร์ (อุซเบกิสถาน) | รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2013

และเพียงในฤดูกาลที่สองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็สามารถผ่านด่านหินในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการผ่านเข้ารอบที่ 2 ได้เป็นผลสำเร็จ แม้ว่าจะชนะเพียงแค่ 1 นัดบวกกับการเสมออีก 4 เกมก็เพียงพอให้พวกเขาผ่านเข้ารอบต่อไปได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรพวกเขา

ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าไปพบกับ บุนยอดกอร์ ยอดทีมจาก อุซเบกิสถาน ซึ่ง เอกชัย สำเร สวมบทซูเปอร์ซับลงมาโขกพังประตูชัยให้ทีมเอาชนะไปก่อน 2-1 ในช่วงท้ายเกม และเกมที่สองในการไปเยือน “แชมป์เซราะกราว” ก็บุกไปยันเสมอได้ 0-0 ทำให้ บุรีรัมย์ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนพ่าย เอสเตกาลจากอิหร่าน ด้วยผลรวม 1-3 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

 

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (ไทย) 2-1 คาชิมา อันท์เลอร์ส (ญี่ปุ่น) | รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2017

การลงเล่นฟุตบอลรายการนี้เป็นครั้งที่สองของทีมแชมป์จากไทย ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคว้าชัยได้เลย และในฤดูกาลนี้ เกมแรกกิเลนผยองเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการบุกไปเสมอกับ บริสเบน รอร์ จากออสเตรเลีย แบบน่าชนะ

และในเกมที่สองพวกเขาต้องเจอกับงานหนักในการรับมือแชมป์จากเจลีก และยังเป็นรองแชมป์สโมสรโลกอย่าง คาชิม่า อันท์เลอร์ส แต่เกมนี้ ตัวแทนจากไทยที่โยกไปใช้สนาม ศุภชลาศัย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และได้ประตูออกนำจากฟรีคิกสุดสวยของ ธีราทร บุญมาทัน แต่ก็มาโดนตามตีเสมอจาก เปโดร จูเนียร์ จริงๆพวกเขาเกือบจะไม่มีแต้มติดมือแล้วด้วยซ้ำ เมื่อไปพลาดท่าเสียจุดโทษในช่วงท้ายเกม แต่ ยูมะ ซูซูกิ ยิงพลาด และกลายเป็นเปิดโอกาสให้ เมืองทอง เดินเครื่องบุกแบบเต็มสูบ และคว้าชัยชนะไปได้ในช่วงท้ายเกม จากประตูชัยของ ซิสโก้ ฆิมิเนซ ประเดิมคว้าสามแต้มแรกในถ้วยเอเชียไปแบบสุดสะใจแฟนบอล