คนคุ้นเคย?เช็คผลงานกุนซือโตโยต้าไทยลีกคัมแบ็คคุมทีมคำรบสอง

คนคุ้นเคยคือตัวเลือกที่ใช่จริงหรือ ? เมื่อบางกอกกล๊าส เอฟซี ประกาศแต่งตั้ง อนุรักษ์ ศรีเกิด ให้กลับมาคุมทีมอีกครั้ง หลังสถานการณ์ย่ำแย่ ที่ผ่านมามีหลายต่อหลาย สโมสรที่ดึงเอากุนซือคนเก่าที่เคยร่วมงานกันให้กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง บางทีมไม่ใช่แค่ 2 ครั้งแต่มากกว่านั้น วันนี้ฟุตบอลไทรบ์ขอพาเช็คผลงาน ของกุนซือที่รีเทิร์นกลับมาคุมทีมเดิมอีกครั้งว่าความคุ้นเคยจะช่วยให้ทีมดีขึ้นจริงหรือไม่ ?

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

อนุรักษ์ ศรีเกิด | บางกอกกล๊าส เอฟซี

อดีตห้องเครื่องทีมชาติไทย ถือว่าเป็นกุนซือที่เป็นคนคุ้นเคยของ บางกอกกล๊าส เอฟซี อย่างแท้จริง และมักจะเป็นตัวเลือกที่อยู่คู่กับ สุรชัย จตุรภัทรพงศ์  ให้ขึ้นมาขัดตาทัพเสมอ เมื่อยามที่ทีมแยกทางกับกุนซืออย่างกลางคัน โดยก่อนหน้านี้ “โค้ชจุ่น” เคยขึ้นเป็นกุนซือขัดตาทัพมาแล้วตอนที่ทีมแยกทางกับ ฟิล สตับบินส์ ซึ่งคุมทีมได้ 8 นัด  ก่อนหลีกทางให้ อรรถพล ปุษปาคม ส่วนตัวเขาขึ้นไปคุมทีม เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งผลงานคือการพาทีมกว่างโซ้งรอดตกชั้น และกลับมารักษาการอีกครั้ง จนพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ซึ่งเป็นความสำเร็จเพียงแค่ครั้งเดียวของสโมสร จากนั้นทีมได้แต่งตั้ง ริคาร์โด โรดริเกวซ มาคุมทีมเต็มตัวแต่ผลงานก็ไม่ดี และก็เป็น อนุรักษ์ ที่ถูกเรียกใช้งานอีกครั้ง คราวนี้ต่างไปเพราะเขาถูกประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่กุนซือรักษาการอีกต่อไป แต่จากความคาดหวังของแฟนบอลที่สูงและแม้ว่าหนนี้จะพาทีมอยู่ที่ 3 จากการเล่นไป 17 เกมในเลกแรกที่เก็บได้ 33 คะแนน แต่ว่า “โค้ชจุ่น” ตัดสินใจวางมือ และทีมดึง “โค้ชง้วน” มาคุมทีมชั่วคราว และแต่งตั้ง ออเลริโอ วิดมาร์ และปลดกุนซือชาวออสซี่แล้วให้ สุรชัย จตุรภัทรพงศ์  คุมทีมแทนและ โจเซป เฟอร์เร ผู้ช่วยของวิดมาร์ขึ้นมาคุมทีมเต็มตัว แต่ผลงานยังไม่ดี และเป็นตัวละครใหม่อย่าง อำนาจ แก้วเขียว มารับงานแทนชั่วคราวจนกระทั่งดึง อนุรักษ์ ศรีเกิด กลับมาคุมทีมเป็นคำรบที่ 4 ต้องติดตามว่าเขาจะช่วย บางกอกกล๊าส เอฟซี รอดตกชั้นได้เหมือนกับที่เคยช่วย ภูเก็ต เอฟซี และ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้หรือไม่

เดนนิส อมาโต้ | ชัยนาท ฮอร์นบิล

กุนซือชาวเยอรมัน ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นกุนซือคุมทีมโดยตรง โดยเขาเป็นเป็นโค้ชจาก บ.สปอร์ต ไทย-บาวาเรีย ทำหน้าที่คัดตัวเยาวชนไทยไปฝึกฟุตบอลที่ บาเยิร์น มิวนิค (ในรายการเด็ก-เตะ-ฝัน)  ก่อนที่บริษัทดังกล่าวจะเข้ามาดูแลทีมเยาวชนให้นกใหญ่ เลย ถูกวางตำแหน่งแรกเป็น ผู้อำนวยการสโมสร ต่อมาได้การแยกทางกับ บียอร์น คลีม หลังจบเกมที่แพ้ อ่างทอง เอฟซี 0-3 ทำให้ บอร์ดบริหารหันหาคนใกล้ตัว และประกาศแต่งตั้งเขาคุมทีมในนัดที่ 9 ซึ่งเหลือเชื่อว่า กุนซือวัย 37จะพาทีมชัยนาท ระเบิดฟอร์ม คั่วตำแหน่งตัวตาราง ทำสถิติพาทีมไม่แพ้ถึง 18 นัดติด และการชนะติดต่อกันถึง 8 นัด จนพาทีมนกใหญ่พิฆาต คว้าแชมป์ฟุตบอลไทยลีก 2 หรือ เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ 2017 ซึ่งถือเป็นแชมป์ระดับประเทศถ้วยแรกอย่างเป็นทางการของสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล ก่อนที่จะแยกทางกับสโมสร โดยที่ทีมดึง ดราโก้ มามิช มาคุมทีมแทน แต่หลังจาก กุนซือเลือดโครแอต ก็ประกาศลาออกเพราะปัญหาด้านครอบครัวทำให้ทีม แต่งตั้ง วรกรณ์ วิจารณรงค์ ขึ้นมาคุมทีมแทน และดึงคนคุ้นเคยอย่าง เดนนิส อมาโต้ ที่ก่อนนี้ ไปรับงาน ผู้อำนวยการด้านกีฬาสโมสร อ่างทอง เอฟซี เข้ามาคุมทีมอีกครั้ง และตอนนี้เขาพานกใหญ่ ขึ้นมาอยู่ที่ 15 ของตาราง แต่มีผลงานชิ้นโบว์แดงคือการพาทีมบุกไปถล่ม บางกอกกล๊าส เอฟซี 5-2

จเด็จ มีลาภ | ชลบุรี เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี

กุนซืออารมณ์ดีได้โอกาสคุมทีม ชลบุรี เอฟซีถึง 3 ครั้งด้วยกัน โดยในครั้งแรก เขาคือกุนซือผู้พาฉลามชล ผงาดคว้าแชมป์ ไทยลีกครั้งแรก และครั้งเดียวของสโมสรในปี 2007  และพาทีมคว้ารองแชมป์ในปีถัดมาหลังถูก การไฟฟ้าอยุธยา หรือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน ก่อนที่จะลงจากตำแหน่ง และหลีกทางให้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ขึ้นมาทำหน้าที่แทน ซึ่งดาวยิงจอมตีลังกาก็ไม่สามารถพาทีมชลบุรี กลับมาคว้าแชมป์ลีกได้ หน้าที่จึงตกมาเป็นของ จเด็จ มีลาภอีกครั้ง แต่คราวนี้ผลงานต่ำกว่าเดิมเพราะ ฉลามชล จบที่ 3 ของตาราง แต่ว่าได้แชมป์ เอฟเอคัพ ในนัดชิงที่เอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยการแต่งตั้ง วิทยา เลาหกุล และเป็น มาซาฮิโร วาดะ กุนซือชาวญี่ปุ่น แต่ใครก็ยังทำแบบที่ เซอร์เด็จ ทำไม่ได้ จนในปี 2015 ทีมประกาศดึง จเด็จ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง หลังโยกไปคุมทีม ชัยนาท ฮอร์นบิล ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ถือว่า ผลงานย่ำแย่ที่สุดเพราะทีมเก็บได้แค่ 57 แต้ม เท่านั้น และเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 4 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่พวกเขาคว้าแชมป์มาได้ในปี 2007

และหลังจากที่หันหลังให้ฉลามชล จเด็จ มีลาภ ขยับไปคุมทีม พีทีที ระยอง ก่อนที่จะถูกการท่าเรือ ที่ตอนนั้น ร่วงลงไปเล่นในลีกรอง ดึง เข้ามาคุม แทนที่ มาซาฮิโร วาดะ และสามารถพาทีมผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศโตโยต้า ลีก คัพ พร้อมกับ คว้าอันดับ 3 ของยามาฮ่า ลีก ดิวิชั่น 1 จนทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยลีก และได้คุมทีมต่อ แต่หลังจากที่เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แยกทางกับทีมชาติไทย ก็ถูกดึงมาคุมทีมแทนที่เขา และขยับไปเป็นที่ปรึกษาแทน แต่อดีตกุนซือทีมชาติไทยไม่สามารถปลุกทีมสิงห์เจ้าท่าให้ กลับมาได้ ก่อนที่ฟางเส้นสุดท้าย จะขาดลงในเกมที่พ่าย ชลบุรี เอฟซี คาบ้าน ทำให้ ประกาศลาออกและ ทีมเจ้าท่าดึง มาสเซอร์เด็จกลับมาคุมทีมอีกครั้ง และประคองทีมกลับมาอยู่ที่ 9 ของตาราง  และยังได้คุมทีมต่อในซีซั่นนี้ โดยพาทีมรั้งอันดับที่ 3 ของตารางหลังผ่าน 13 นัด

วิทยา เลาหกุล | ชลบุรี เอฟซี

นักเตะที่ไทยคนแรกที่เคยไปค้าแข้งในยุโรป ที่เยอรมัน และโค้ชไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ได้ในการคุมทีมที่ญี่ปุ่น ก่อนที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทย และคุม ชลบุรี เอฟซี จากในระดับโปรวินเชียลลีก จนเลื่อนขึ้นมาเล่นในไทยลีกได้ จากนั้นย้ายไปรับงานคุมทีมใน เจลีก 3 อย่าง ต็อตโตริ ก่อน ที่จะหวนกลับมาคุมทีมชลบุรี เอฟซี อีกครั้ง โดยรับงานต่อจาก จเด็จ มีลาภ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ ไทยลีก แตกต่างจากตอนที่ โค้ชเฮงคุมมาก ในการกลับมาคุมทีมครั้งนี้นอกจากที่จะโฟกัสในการทำงานของทีมชุดใหญ่แล้ว โค้ชเฮง ยังคงวางรากฐานของอคาเดมี่ ของฉลามชลไปด้วย ทำให้ ชลบุรี เอฟซี ต้นสังกัด มีผลผลิตของทีมชุดเยาวชนขึ้นมาป้อนชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง ส่วนผลงานการคุมทีมตลอด 3 ซีซั่นของ วิทยา เลาหกุล ไม่สามารถพา ชลบุรี เอฟซีทวงแชมป์ลีกคืนมาได้ รวมไปถึงความสำเร็จในฟุตบอลถ้วย โดยพาทีมคว้าอันดับที่ 2 ในปี 2011 และ  2012 ก่อนที่จะตกลงมาคว้าอันดับที่ 3 ในปีต่อมา ทำให้เขาตัดสินใจลงจากตำแหน่ง และเปิดทางให้กับ มาซาฮิโร วาดะ กุนซือชาวญี่ปุ่นเขามาสานงานต่ และเกือบพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้ ส่วนเขาขึ้นรับหน้าที่ประธานเทคนิคของสโมสรอย่างเต็มตัว และขยับมารั้งตำแหน่งประธานเทคนิคสมาคมฟุตบอลทีมชาติไทย เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยของนายกสมาคมฯ

สุรพงษ์ คงเทพ | พัทยา ยูไนเต็ด

อดีตนักเตะจากรั้วชงโคสีม่วง และย้ายมาเล่นให้กับ จุฬา-สินธนา เพราะเข้าศึกษาต่อที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ต้องมาโชคร้ายแขวนสตั๊ดตั้งแต่อายุ 29 ทำให้ผันตัวเข้าสู่วงการโค้ชเร็ว และเริ่มงานกับการคุมทีมนักเรียนอย่าง สตรีวิทยา 2 และถูกดึงมาคุมทีม อคาเดมี่ให้กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ที่เขาพาทีมกิเลนจูเนียร์คว้าแชมป์โค้กคัพได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน และเมื่อ เมืองทอง ปล่อยนักเตะในทีมให้ พัทยา ยูไนเต็ด ยืมตัว โค้ชอั๋นเลยถูกส่งตัวไปดูแลเด็กๆเหล่านั้นด้วย และด้วยความเข้าใจเพราะคลุกคลีกับทีมเยาวชนมาตลอดทำให้ สุรพงษ์ ปลุกพลังหนุ่มของแข้งพัทยา ยูไนเต็ด ระเบิดฟอร์มคว้ารองแชมป์ ยามาฮ่า ลีกวัน คว้าตั๋วกลับขึ้นมาเล่นในไทยลีก หลังจากที่ร่วงตกชั้น ไปเพียงแค่ 1 ฤดูกาลเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ สุรพงษ์ คงเทพ ไม่ได้คุมทีม โลมามหาภัยต่อ และขยับมาคุมทีม บีอีซี เทโร ศาสน แต่ว่า ลมก็หวนพาไปโค้ชอั๋นกลับไปยืนข้างสนามหนองปรืออีกครั้งในซีซั่น 2017 หรือปีที่ผ่านมา ที่เขาพาทีมคว้าอันดับที่ 8 มาครองได้ จนกลายเป็นกุนซือเนื้อหอม ซึ่งบอร์ดบริหารพัทยา ยูไนเต็ด ก็อ่านเกมออกเลยทำการขยายสัญญาออกไปเมื่อปลายฤดูกาลที่แล้ว และในซีซั่นปัจจุบัน เขาพาทีมพัทยา ยูอันดับที่ 13 ของตารางเหนือโซนตกชั้นที่ปีนี้จะมีทีมตกชั้น 5 ทีมอยู่ 2 คะแนน ด้วยกัน

แชร์โจ ฟารีอาส | สุพรรณบุรี เอฟซี

กุนซือชาวแซมบ้าที่ถือว่าเป็นจอมพเนจร ผ่านการคุมทีมมาแล้วมากมาย แถมยังเคยคุมทีมชาติบราซิล ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี และ ไม่เกิน 17 ปีมาแล้ว รวมไปถึงทีมเยาวชนของสโมสรดังอย่าง ซานโต๊ส มาแล้ว ก่อนที่จะขยับมารับงานในทวีปเอเชีย และพาทีม โปฮัง สตีลเลอร์ สร้างความยิ่งใหญ่ในเคลีก เกาหลีใต้ เมื่อคว้าทั้งแชมป์ลีก และแชมป์ฟุตบอลถ้วย เอฟเอคัพ รวมไปถึงลีกคัพ

ผลงานชิ้นโบว์แดงคือการพายอดทีมจากแดนกิมจิคว้าแชมป์ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้ ก่อนที่จะย้ายไปคุมทีมในตะวันออกกลาง รวมไปถึงที่จัน ก่อนที่จะมาคุมทัพ สุพรรณบุรี เอฟซี แต่ก็พาทีมอยู่อันดับที่ 6 และตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่ง เปิดทางให้ วรวุธ ศรีมะฆะ ขึ้นมารักษาการแทน ซึ่งปีนั้นสุพรรณบุรี เอฟซี จบอันดับที่ 3 ของตาราง

จนในปี 2017 ฟารีอาส กลับมาคุมทีมสุพรรณบุรี เอฟซี เช่นเคยแต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะน่าผิดหวังว่าครั้งแรกเสียอีก เพราะเขาคุมทีมได้แค่ 8 สัปดาห์ และทีมอยู่ในอันดับที่ 14 ทำให้ตัดสินใจประกาศลาออกเป็นครั้งที่สอง และคนที่เข้ามารับงานต่อก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ วรวุธ ศรีมะฆะ และปีนั้นช้างศึกยุทธหัตถีจบอันดับที่ 11

โบซิดาร์ บันโดวิช | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

กุนซือเลือดเซิร์บที่มีดีกรีไม่ธรรมดา เพราะเคยคุมทีมดังอย่าง โอลิมเปียกอสมาแล้ว ก่อนขยับมารับงานคุมทีมในเอเชียกับ บากู เอฟซี ในประเทศอาเซอร์ไบจาน และย้ายมาคุมทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แทนที่ของ อเลฮานโดร เมเนนเดซ ที่ขอลาออกหลังพาทีมอยู่อันดับที่ 12 แม้ว่าฤดูกาลก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์ลีก

ซึ่งทีมได้แต่งตั้ง โบซิดาร์ บันโดวิช ที่ก่อนหน้านั้นถูกดึงมานั่งตำแหน่งประธานเทคนิคของทีมอยู่ก่อนแล้ว เข้ามาคุมทีมแทน กุนซือชาวเซอร์เบีย ได้คุมทีมแค่ 2 เดือนเศษๆเท่านั้น พาทีมมาถึงอันดับที่ 3 และทีมได้ อเล็กซานเดร กามา มาคุมทีมแทน และพาทีมเร่งเครื่องเข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครอง ส่วน บันโดวิช ออกไปผจญภัยกับ บีอีซี เทโร ศาสน และ ศรีสะเกษ เอฟซี ก่อนจะกลับมายังถิ่น ช้างอารีนา ในฐานะทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชของ รันโก โปโปวิช ในฐานะผู้ช่วย

แต่เมื่อ อดีตกุนซือเซเรโซ โอซาก้า มีปัญหากับ แอนดี้ สลิงเกอร์ นักกายภาพของ แบงค็อก ยูไนเต็ด จนโดนแบนยาว 3เดือน และขอลาออกจากตำแหน่ง ทีมให้โอกาส โบซิดาร์ บันโดวิช กลับมาคุมทีมอีกครั้ง และคราวนี้เขาไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวัง เมื่อจัดการสานงานต่อและพาทีมเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ ทำให้ได้รับความไว้วางให้คุมทีมต่อ จนพาปราสาทสายฟ้าครองจ่าฝูงฟุตบอลโตโยต้าไทยลีกในตอนนี้

เรเน่ เดอซาเยียร์ | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

กุนซือชาวเบลเยียม ที่ผ่านการคุมทีมในลีกยุโรปมาไม่น้อย ก่อนที่จะมารับงานคุมทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด และพาทีมป้องกันแชมป์ เอาไว้ได้ในปี 2010 ด้วยการเฉือนเอาชนะ บุรีรัมย์ ที่ตอนนั้นยังเป็น บุรีรัมย์ พีอีเอ ไป4 คะแนนเมื่อจบฤดูกาล แถมยังพาทีมไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลถ้วย เอเอฟซี คัพอีกด้วย แต่ก็คุมทีมได้แค่ ซีซั่นเดียว และถูกแทนที่ด้วย คาร์ลอว โรแบร์โต คาร์วัลโญ่ อดีตกุนซือทีมชาติไทยชาวบราซิล ที่เข้ามารับงานช่วงสั้นๆก่อนที่ เฮนริเก้ คาลิสโต้ จะมาคุมทีมแทน แต่ในปี 2013 หลังจากที่ทีมแยกทางกับ สลาวิซา โยคาโนวิช ที่เพิ่งจะทีมคว้าแชมป์ไร้พ่าย แต่ผลงานไม่ดีนักในซีซั่นต่อมาและทีมแต่งตั้ง วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติไทยรับงานแทนช่วงสั้นๆก่อนที่ จะตัดสินใจดึง เรเน่ เดอซาเยียร์ กลับมาคุมทีมอีกครั้งในปี 2013 ซึ่งปีนั้น กิเลนผยองก็ไม่สามารถไล่ แซงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ทันและจบฤดูกาลด้วยการคว้ารองแชมป์ในการหวนมาคุมทีมครั้งที่สองในระยะสั้นๆของเรน่า