จากผลงานอันยอดเยี่ยมของทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงประตูเบิกร่องให้ ซานเฟรซเช ฮิโรชิมา ได้จนช่วยให้ทีมคว้าสามแต้มนำเป็นจ่าฝูงตอนนี้ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็ยิงให้กับคอนซาโดเล ซัปโปโร จนเกือบเก็บสามแต้มมาได้จาก เวลกัลตะ เซนได ทำให้ทั้งคู่ถูดพูดถึงบนหน้าหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น และนี่คือสิ่งที่หนังสือพิมพ์ในญีปุ่นนำเสนอเกี่ยวกับผลงานของนักเตะไทย
มาเริ่มกันที่ โดชิน สปอร์ต ที่เป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของ ฮอกไกโด ลงพาดหัวใหญ่ว่า “ซัปโปโร ไม่แพ้แม้จะเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน” และพาดหัวย่อยว่า “คู่แข่ง (เวลกัลตะ เซนได) ยิงประตูตีเสมอในช่วงทดเจ็บ แต่ยังคงสถิติไร้พ่าย 8 แมตช์”
พร้อมกับลงบทสัมภาษณ์ของ โยชิอากิ โคมาอิ คนที่จ่ายให้ชนาธิปยิง “ผมคิดว่าจะยิงเองในตอนแรก แต่ว่าผมหันไปเห็น ชนาธิป อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า และไม่มีคนประกบผมเลยจ่ายบอลให้เขา”
และยังมีบทสัมภาษณ์ของชนาธิปด้วยว่า “ผมน่าจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าหากว่าเราชนะได้”
ในบทความยังกล่าวถึงจังหวะที่ ชนาธิป พลาดโอกาสในการยิงประตูจากจังหวะที่ส่งบอลไปให้ เคน โทคุระ ก่อนถูกกองหลังเจ้าบ้านสกัดทิ้ง “ ผมคิดว่าโทคุระ นั้นมีพื้นที่เยอะกว่า แต่พอมาคิดอีกทีผมน่าจะเป็นคนยิงลูกนั้นเอง”
และปิดท้ายที่บทสัมภาษณ์ของ มิไลโล เปโตรวิช กุนซือชาวเซอร์เบียของทีม “ผมเล่นได้ดีตอนที่สกอร์เสมอกันอยู่ 1-1 แต่หลังจากที่ คิม มิน แต โดนไล่ออก เราก็ยังคุมเกมได้ และโต้กลับใส่พวกเขาได้ หลังจากที่เราออกนำ เซนไดกดดันเราอย่างหนัก และเราเสียประตูจากลูกเตะมุม แม้ว่าผลการแข่งขันมันจะไม่ค่อยดี แต่ถ้าคุณลองคิดถึงการที่สู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในขณะที่เราเหลือ 10 คน และได้ 1 คะแนน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว
กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อติดตามหนังสือพิมพ์อีกฉบับในฮอกไดโด
ในส่วนของหนังสือพิมพ์อีกหัวหนึ่งของฮอกไกโด อย่าง ฮอกไกโด ชิมบุน ลงพาดหัวว่า “ผลเสมอที่น่าพอใจของ ซัปโปโร” และ พาดหัวย่อยว่า “ทีมที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่ารับมือกับความกดดันได้”
และยังมี บทสัมภาษณ์ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ยิงประตูได้ในเกมนี้ว่า “เราต้องมองผลการแข่งขันไปทางแง่ดี เราคงไปตำหนิ คิม มิน แต ที่โดนไล่ออกไม่ได้ นักเตะที่เหลือจะต้องแสดงการเล่นเป็นทีม และช่วยเหลือผู้เล่นคนอื่น”
กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อติดตามหนังสือพิมพ์จากฮิโรชิมาที่กล่าวถึงธีรศิลป์แดงดา
ข้ามไปที่ทางตอนใต้ที่เมืองฮิโรชิมา ของซานเฟรซเช ฮิโรชิมา จ่าฝูงและต้นสังกัดของ ธีรศิลป์ แดงดา มีสื่ออย่าง ชูโกกุ ลงพาดหัวว่า “ซานเฟรซเช ยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูง” และพาดหัวย่อยว่า “ธีรศิลป์ ยิงประตูเบิกร่อง”
และยังมีบทความถึงการเปลี่ยนตัวของ กุนซืออย่าง ฮิโรชิ โจฟุคุ “ลงสนามไปและยิงประตูให้ได้” นี่คือสิ่งที่ผู้จัดการทีมบอกกับเขา (ธีรศิลป์) ในช่วงพักครึ่งที่สกอร์ยังเสมอกับ วีวาเรน นางาซากิ อยู่ 0-0 และหลังจากนั้น 7 นาทีเมื่อธีรศิลป์ ลงสนามมาในฐานะตัวสำรองเขาก็ยิงได้ จากบอลที่เปิดมาจากทางขวา ซึ่งเป็นประตูที่สามในเจลีกฤดูกาลนี้ และเป็นการกลับมายิงได้อีกครั้งในรอบ 4 เกม ทำให้ ธีรศิลป์ เป็นฮีโร่ ของวันนนี้
ในครึ่งแรก ซานเฟรซ บุกอย่างหนักแต่ยิงประตูไม่ได้ และสิ่งที่พวกเขาต้องการตามมาแค่ 7 นาทีหลังจากที่วาดะพาบอลขึ้นไปทางกราบขวาแล้วเปิดมาให้ธีรศิลป์ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษยิงประตูได้ถือว่าเขาตอยสนองในสิ่งที่โค้ชต้องการได้ดี
“ทุกๆคนเล่นเกมรุกได้ดี ละผมแค่เป็นคนสุดท้ายที่โดนบอลก่อนจะเป็นประตู” ธีรศิลป์กล่าวหลังจบเกม
หลังจบเกม พ่อของเขา(ธีรศิลป์) ได้ให้คำแนะนำว่า เขาจะต้องมีส่วนร่วมกับเกมมากกว่านี้ เกมนี้เขามีโอกาสยิง 3 ครั้งซึ่งเยอะที่สุด แสดงให้เห็นว่าเริ่มกระหายประตูเหมือนอย่างที่กองหน้าแท้ๆควรจะเป็น
แต่ธีรศิลป์ ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการเล่นตลอด 90 นาทีออกมานับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในญี่ปุ่น “ผมค่อยๆพัฒนาขึ้นทีละเล็กละน้อย ผมพยายามปรับตัวให้เขากับจังหวะการเล่นในญี่ปุ่น” มุ้ยซังกล่าวและน่าจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นหากได้เห็นความสามารถที่แท้จริงทั้งหมดของเขาผู้เขียนคือมาซาฮิโรยาโนะ
ปิดท้ายที่ โกเบ ชิมบุน ในเมืองโกเบ ลงพาดหัวว่า “โกเบพ่ายอย่างน่าเศร้า”
“ฟรอนทาเล ได้ประตูชัยหลังจากที่ จุง วู ยอง โดนไล่ออก”