ฟุตบอลไทย เอเชีย

FIVE SWEET SPOTS: 5 ประเด็นหลังสามแข้งไทยออกสตาร์ทตัวจริงเจลีกนัดที่ 10

3 นักเตะไทยได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในเจลีก นัดที่ 10 ธีรศิลป์ แดงดา ลิ้มรสความพ่ายแพ้เป็นเกมแรกในสัปดาห์นี้ด้วยน้ำมือของ เอฟซี โตเกียว ส่วน ชนาธิป สรงกระสินธ์ ช่วยคอนซาโดเล ซัปโปโร ยืดสถิติไร้พ่ายออกไปเป็นเกมที่ 7 ส่วน ธีราทร บุญมาทัน ช่วย วิสเซล โกเบ บุกไปเสมอกับ คาชิมา อันท์เลอร์ส จนขยับมาอยู่อันดับที่ 6  และนี่คือ 5 ประเด็นน่าสนใจ จากสัปดาห์นี้

 

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

ธีรศิลป์ลิ้มรสความพ่ายแพ้แรกในลีก

ในเกมนัดที่ 10 ของศึกเจลีก ที่ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา ออกไปเยือน เอฟซี โตเกียว ทีมเก่าของ ฮิโรชิ โจฟุคุ กุนซือของทีม โดย ธีรศิลป์ แดงดา ที่ลงมาช่วยแอสซิตส์ ประตูชัยในเกมที่ผ่านมา ได้โอกาสกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง ในการผนึกกำลังกับหัวหอกที่กำลังฟอร์มดีอย่าง แพทริค แต่เป็นทีมจ่าฝูงของศึกเจลีกที่ออกสตาร์ทได้ไม่ดี และเจอทีเด็ดของเจ้าบ้าน โดยเฉพาะ ดิเอโก้ โอริเวียร่า ที่เล่นงานเข้าอย่างจัง ซึ่งการเสียสองประตูแรกในระยะเวลาไม่ถึง 10 นาที จากที่ก่อนหน้านี้ลงเล่นมา 9 เกม พลธนูม่วงทองเพิ่งจะเสียไปแค่ 2 ประตูเท่านั้น จนทำให้เกมนี้รูปเกมของทีมเยือนกู่ไม่กลับ และสุดท้ายพ่ายไป 3-1 ถือเป็นความพ่ายแพ้เกมแรกในลีกของฮิโรชิมา แต่ด้วยผลงานอันที่ยอดเยี่ยมกว่าทีมอื่นๆก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขายังคงนำเป็นจ่าฝูงอยู่และทิ้งห่างทีมอันดับที่ 2 เอฟซี โตเกียวอยู่ 6 คะแนน

ต้นสังกัดของชนาธิปแกร่งขึ้นผิดหูผิดตา

จากทีมที่จะต้องหนีตกชั้นแทบจะทุกปี และยังต้องวนๆเวียนๆกับการเลื่อนชั้น และตกชั้นเป็นประจำ แต่ดูเหมือนว่าในซีซั่นนี้ คอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมต้นสังกัดของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะเลิกคิดเรื่องการหนีตกชั้นในช่วงท้ายฤดูกาลได้เลยหากว่าพวกเขายังรักษาฟอร์มเก่งแบบนี้ไปได้ต่อเนื่อง โดยผลชัยชนะเหนือ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ในเกมล่าสุดทำให้ตอนนี้ทีมของ มิไฮโล เปโตรวิช ยืดสถิติไม่แพ้ใครนานที่สุดในเจลีกออกเป็น 7 นัดเข้าไปแล้ว ถือว่าการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือของทีมนอกจากจะทำให้ทีมกลับมาเล่นได้อย่างสนุกแล้วยังทำให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาไปจากฤดูกาลที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว เพราะหากเปรียบเทียบกัน ในฤดูกาลที่แล้วเมื่อผ่าน 10 นัดพวกเขาอยู่อันดับที่ 15 ของตารางเหนือโซนตกชั้นแค่ 1 อันดับเท่านั้น แต่ในซีซั่นนี้ไต่มาถึท็อปโฟร์

ธีราทรค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ

ในบรรดาสามนักเตะไทยที่ มาค้าแข้งในญี่ปุ่น ต่างก็มีประสบการณ์การเล่นในต่างแดนมาแล้ว โดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ นี่คือฤดูกาลที่สองของเขากับเจลีก ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา นั้นเคยผ่านการเล่นในระดับโลกอย่าง ลาลีก้า สเปนมาแล้ว ส่วนธีราทร บุญมาทัน แม้จะลงเล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกเกือบทุกปี แต่นี้คือการมาเล่นต่างแดนครั้งแรกของเขา ซึ่งแน่นอนว่าการปรับตัวทุกอย่างค่อนข้างยากทั้งสไตลส์การเล่น การฝึกซ้อม และการใช้ชีวิต แต่ในเกมที่บุกไปเสมอกับ คาชิมา อันท์เลอร์ส แบ็กซ้ายทีมชาติไทยได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงของทีมเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน ถือว่าเป็นสถิติที่น่าพอใจเพราะได้ลงสนามต่อเนื่องมากที่สุดนับตั้งแต่ย้ายทีมมาแถมยังได้เล่นครบทั้ง 90 นาที ถือเป็นช่วงเวลาดีๆ และดูเหมือนว่า แบ็กจอมปั่นฟรีคิกจะเริ่มยึดตำแหน่งในทีมวิสเซล โกเบ ได้แล้ว

ช่วยทีมขึ้นหัวตาราง

ในปีนี้ทั้งสามทีมที่มีนักเตะชาวไทยร่วมทัพอยู่ด้วยต่างทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เริ่มจากซานเฟรชเช ฮิโรชิม่า ที่ในฤดูกาลที่แล้วจะต้องหนีตกชั้นและกว่าที่จะรอดต้องรอถึงสามเกมสุดท้าย โดยที่ก่อนหน้านี้พวกเขาที่เคยเป็นแชมป์เจลีกไม่เหลือลายเพราะจมอยู่โซนสีแดงเกือบจะตลอดเวลา แต่ในซีซั่นนี้ลูกทีมของ ฮิโรชิ โจฟุคุ กลับมายึดตำแหน่งจ่าฝูงได้ แถมยังทำคะแนนทิ้งห่างรองจ่าฝูงถึง 6 คะแนนด้วยกัน ในส่วนของ วิสเซล โกเบ ของธีราทร บุญมาทัน ฤดูกาลที่ผ่านมาออกสตาร์ทได้ดี แต่ช่วงปลายฤดูกาลแผ่วจนมาจบที่ 9 ในตอนนี้ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 ของตารางแล้ว และปิดท้ายที่คอนซาโดเล ซัปโปโร ของชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เปลี่ยนแปลงจากทีมท้ายตารางและต้องหนีตกชั้นมาตลอดมาอยู่อันดับที่ 4 ของตารางในตอนนี้

มุ้ยซังยังต้องใช้เวลาปรับตัว

ผ่านเกมที่ 10 ฟอร์มของธีรศิลป์ แดงดา ดูเหมือนจะยังลุ่มๆดอนๆ ส่วนหนึ่งหากเปรียบเทียบกับเพื่อนอีก 3 คนเขาคือคนที่รับบทหนักเพราะจะต้องเล่นในตำแหน่งที่ยาก และเจอกับแรงกดดันจากความคาดหวังสูง และการวัดผลมาจากการยิงประตูเท่านั้น ทำให้ฟอร์มของเขายังไม่คงที่เหมือนอย่างตอนที่เล่นในไทยลีก แต่ยังโชคดีที่กุนซืออย่าง ฮิโรชิ โจฟุคุ นั้นมีความเข้าใจในตัวนักเตะสูง พร้อมกับเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม และยังให้โอกาสนักเตะเสมอ ในบางเกมที่ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และบางเกมที่ส่งลงสนามเป็นตัวสำรอง อย่างในการสัมภาษณ์หลังจบเกมล่าสุด เทรนเนอร์ซานเฟรชเช ก็เปิดเผยว่าเขาเข้าใจดี ว่าตัวนักเตะยังต้องการเวลาปรับตัว เพราะนักเตะต่างชาติที่มาเล่นในเจลีกปีแรก ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้เล่นในฟอร์มเดิมตั้งแต่ฤดูกาลแรก เพราะยังต้องรับตัว ถือว่าเป็นโชคดีของธีรศิลป์ ที่ได้ร่วมงานกับโค้ชที่มีความเข้าใจ ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ตัวของเขาเองว่าจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหนในการปรับตัวให้เข้ากับเจลีก