BEST & WORST: ยอดเยี่ยม-ยอดแย่ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม G

ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มทำการแข่งขันเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ในกลุ่ม G ที่ตัวแทนจากไทยอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ โดยมี  กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ตัวแทนจากไชนีสซูเปอร์ลีก คว้าแชมป์กลุ่มและนี่คือการจัดอันดับยอดเยี่ยมยอดแย่ของกลุ่มนี้

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อนร่วมติดตามไปกับเรา

BEST MOMENT : ทีมไทยลีกยินดีขยับโปรแกรมให้บุรีรัมย์

หลังจากที่จบเกมที่บุรีรัมย์ ทราบผลว่าได้เข้ารอบ 16 สุดท้ายพวกเขาจัดการเดินเรื่องขอปรับเปลี่ยนเวลาแข่งขันในไทยลีก 3 เกมเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงเล่นเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้งสองเกมของพวกเขา ซึ่งสโมสรอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ในลีก และถือเป็นคู่ปรับอันดับที่หนึ่ง รวมไปถึง บีอีซี เทโร ศาสน และ พัทยา ยูไนเต็ด ต่างยินยอมที่จะช่วยเหลือด้วยการขยับโปรแกรมให้ ตามที่บุรีรัมย์ต้องการ ในการเลื่อนเวลาแข่งขันให้เร็วขึ้น และช้าลงในบ้างเกม ซึ่งหากบุรีรีรัมย์ทำผลงานได้ดี และผ่านเข้ารอบลึกค่าสัมประสิทธิ์ของไทยลีกก็จะเพิ่มมากขึ้น และทำให้เรามีโอกาสที่จะได้ โควตาลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งลีก จากการที่มีสโมสรอื่นๆยอมถอยเล็กน้อยเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของทั้งลีกเอาไว้

WORST MOMENT : กว่างโจวเจอเที่ยวบินทรหด

การเดินทางระหว่างเมืองในทวีปเอเชีย ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะส่วนใหญ่มักจะไม่มีเที่ยวบินตรงจากเมืองสู่เมืองทำให้ต้องเดินทางหลายต่อ ซึ่งกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ตัวแทนจากทีมเจอกับเที่ยวบินสุดทรหด เพราะว่าเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำของพวกเขา ไม่สามารถบินตรงไปลงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ได้ เนื่องจากมีเครื่องบินของสายการบินหนึ่งจอดเสียอยู่กลางรันเวย์ ทำให้ต้องเดินทางมาลงที่ ดอนเมือง ก่อนที่จะเปลี่ยนเครื่องบินไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด และนั่งรถบัสไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ กว่าจะถึงก็เป็นเวลากว่า 21.00 น. แต่ก็ยังทำการลงฝึกซ้อม จนทำให้มีเวลาพักไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนลงแข่ง ซึ่งผลคือพวกเขาโดน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตีเสมอ นาทีสุดท้าย ชวดโอกาส การันตีการเข้ารอบตั้งแต่นัดรองสุดท้าย ซึ่งการเดินทางมาเยือนบุรีรัมย์ น่าจะเป็นการเดินทางสุดสยองของ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กับลูกทีม

BEST PLAYER :  อลัน คาร์วัลโญ่ | กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์

ดาวชาวแซมบ้า แม้ว่าจะยิงประตูได้น้อยกว่า ริคาร์โด กูลาร์ด เพื่อนร่วมทีม 1 ประตู แต่ว่า 4 ประตูของเขา กระจายไปใน 3 เกม ซึ่งกูลาร์ด นั้นยิงได้แค่ 2 เกมเท่านั้น แถมในเกมเยือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังพลาดอย่างเหลือเชื่อเมื่อหลุดเดี่ยวเหลือเสาประตูโล่งๆ แต่กลับยิงช้าจนไปติดการบล็อคของ นฤบดินทร์ แบ็กขวาปราสาทสายฟ้า ส่วนอลัน นอกจากจะยิงประตูได้แล้ว ยังมีส่วนร่วมกับเกมเยอะกว่า และยังทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมได้อีกด้วย

WORST PLAYER : โฮตารุ ยามางุชิ | เซเรโซ โอซาก้า

กองกลางดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น ห้องเครื่องของ เซเรโซ โอซาก้า ถือว่าทำผลงานไม่ได้ดีอย่างที่คาด เพราะไม่สามารถที่จะพาทีมเข้ารอบต่อไปได้ ทั้งๆที่แบกความหวังของแฟนบอลเอาไว้ และผลงานตลอดรอบแบ่งกลุ่มคือลงเล่นเป็นตัวจริงเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น และเป็นตัวสำรองอีก 1 เกมโดยที่ไม่สามารถทำประตูได้ในเกมนี้

BEST GOAL :เนมานย่า กูเดลจ์ (เจจู ยูไนเต็ด - กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์)

ประตูสุดสวยประจำรอบแบ่งกลุ่ม ของกลุ่มจี ยกให้กับลุกยิงของกองกลางชาวเซอร์เบีย อย่าง เนมานย่า กูเดลจ์ ที่สอดเข้ามารับบอลที่ อลัน แต่งบอลหลอกแผงหลัง เจจู ยูไนเต็ด ได้ถึง 3 คนก่อนตะบันเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามหมดจดทำให้ทีมเยือนจากแดนมังกรบุกออกนำ และสุดท้ายเข้าป้ายด้วยการบุกไปเก็บ 3 แต้มด้วยสกอร์ 0-2

WORST GOAL : ทันโนะ (ประตูแรกที่เซเรโซ เสียให้ บรร)

นายทวารตัวสำรองของ เซเรโซ โอซาก้า ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยจนเป็นที่มาของการเสียประตูง่ายๆให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ต้นเกม จากจังหวะลูกเตะมุมที่ กรกช ปั่นบอลโค้งมาเสาแรกแล้ว อันเดรียส ตูเญซ โถมตัวเข้ามาที่เสาแรก ก่อนที่จะโขกเปลี่ยนทางนิดๆเข้าประตูไปให้ ปราสาทสายฟ้าออกนำเร็ว ก่อนที่จะเก็บสามแต้มล้ำค่าด้วยสกอร์ 2-0

BEST MATCH : เซเรโซ  โอซาก้า 2-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เกมสุดมันประจำ เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม จี คงต้องยกให้ เกมที่ เซเรโซ โอซาก้า ไล่ตามตีเสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ตกเป็นรองก่อนจากการทำเข้าประตูตัวเองของ ยาง ดง ฮยอน และถูก ดิโอโก หลุยส์ ซานโต มาบวกประตูเพิ่ม แต่ในช่วงท้ายเกม ลูกทีมของ ยุน จอง-ฮวาน แก้เกมกลับมาโจมตีทางด้านข้างได้ดี และมาตามตีเสมอได้จากครอสบอลจากริมเส้นมาให้ ยาง ดง ฮยอน แก้ตัวได้ และก่อนหมดเวลาสองนาที เคนยู ซุงิโมโต ก็มาตามตีเสมอให้เจ้าบ้าน ก่อนจบเกมด้วยการแบ่งแต้มไปอย่างสุดมัน

WORST MATCH : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-2 เจจู ยูไนเต็ด

เจ้าบ้านปราสาทสายฟ้า เริ่มต้นเกมของพวกเขาได้ไม่ดีเท่าไร และมาพลาดท่าเสียประตูก่อนอย่างรวดเร็ว ทำให้รูปเกมตกเป็นรอง และในเกมนั้น แรวรุกของปราสาทสายฟ้า ต่อเกมของตัวเองไม่ติด และแทบจะไม่ได้สร้างความหนักใจให้กับทีมเยือน ส่วน เจจู ยูไนเต็ด ก็ใช้โอกาสที่มีอยู่จำกัด ลงโทษเจ้าถิ่นได้ แต่โดยรวมแล้วเกมนี้ไม่ใช่เกมที่เอนเตอร์เทนแฟนบอลซักเท่าไร  

BEST TEAM :  กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์

ตัวแทนจาก ไชนีสซูเปอร์ลีก ลูกทีมของ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ปราการหลังดีกรีแชมป์โลก กับทีมชาติอิตาลี คู่ควรกับตำแหน่งแชมป์ของกลุ่มจากผลงานอันยอดเยี่ยม จากการชนะ 3 เกม และเสมอ 3 เกมโดยที่ไม่แพ้เลย มีก็แต่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่พวกเขาเอาชนะไม่ได้ นอกจากนี้พวกเขายังยิงคู่แข่งได้ถึง 12 ประตูด้วยกัน ทำให้พวกเขาคว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่มไปครองแบบไร้ข้อขังกา

WORST TEAM : เซเรโซ โอซาก้า

ตัวแทนจากเจลีกทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง และดูเหมือนว่า ยุน จอง-ฮวาน จะไม่ได้แยแส ความสำเร็จในถ้วยระดับทวีปเอเชียนี้มากนัก แม้ว่าปีที่ผ่านมาเพื่อนร่วมลีกของพวกเขาอย่าง อุราวะ เรด ไดมอนด์ส จะคว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้ ซึ่งกุนซือชาวเกาหลีใต้ชอบที่จะจัดเอาผู้เล่นสำรองให้เดินทางมาแข่งขันในเกมเยือน และพักผู้เล่นตัวจริงเอาไว้ เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งทำให้พวกเขามีแค่ 8 คะแนน และไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบต่อไปเลยต้องยุติเส้นทางเอาไว้แค่รอบแบ่งกุล่มเท่านั้นทั้งๆที่ศักยภาพควรที่จะไปได้ไกลกว่านี้