ลุ้นเข้ารอบ: 5 อาวุธเด็ดปราสาทสายฟ้าปราบเจจู

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากไทย จะลงทำศึกนัดสำคัญในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในการออกไปเยือน เจจู ยูไนเต็ด จากเคลีกเกาหลีใต้ ซึ่งปราสาทสายฟ้า จะต้องพึ่งตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกคือการเก็บสามแต้ม จากนั้นก็ลุ้นผลของอีกคู่ไปด้วยเพื่อลุ้นเข้ารอบน็อคเอ้าท์ต่อไป และนี่คือ 5 อาวุธเด็ดที่จะใช้ปราบเจ้าบ้านในเกมนี้

กดลูกศรทางด้านขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

เกมรับที่เหนียวแน่น

เงื่อนไขอันดับแรกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หากว่าพวกเขาอยากที่จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้ คือจะต้องคว้าชัยชนะในเกมนี้ให้ได้เท่านั้น แถมยังต้องลุ้นผลอีกคู่ให้เป็นใจ ซึ่งถือว่าเป็นงานที่หินไม่น้อย เพราะจากสถิติเกมแรกที่พวกเขา พ่ายเจจู มาก่อน 2-0 ทำให้เกมเยือนดูจะเป็นงานที่ยาก แน่นอนว่าฟุตบอลที่ต้องการสามแต้มทีมจะต้องเปิดเกมรุกลุยเข้าใส่เท่านั้น แต่ว่าเกมรับก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และลืมไม่ได้เลย เกมนี้แนวรับของพวกเขา ที่นำโดย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารที่ประสบการณ์ในรายการนี้มากมายหายห่วง รวมไปถึง พรรษา เหมวิบูลย์ กองหลังทีมชาติไทย และ อันเดรส ตูเญซ รวมถึง ยู จุนซู ดาวเตะสารพัดประโยชน์ และ ประวีณวัช บุญยงค์ ที่อาจจะได้เล่นกลางรับ จะต้องผนึกกำลังกันอย่างน้อยไม่ให้ทีมเสียประตู ก่อนแบบเกมที่แล้วที่เจอกัน พวกเขาก็จะสามารถเล่นเกมรุกได้อย่างมั่นใจ และมีลุ้นเก็บสามแต้มได้

ยืนระยะให้ได้ 90 นาที

เกมล่าสุดที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน เซเรโซ โอซาก้า พวกเขาเกือบที่จะเก็บสามคะแนนเต็มได้ และอาจจะทำให้สถานการณ์ของหลายๆอย่างในกลุ่มเปลี่ยนไปเป็นอีกอย่าง อย่างน้อยพวกเขาก็จะมีคะแนนมากกว่านี้อีก 2 แต้ม และเกมนี้อาจจะเล่นเพื่อผลเสมอก็เพียงพอ แต่นั้นคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว เปล่าประโยชน์ที่จะมองย้อนกลับไปใคร่ครวญเรื่องผลการแข่งขัน แต่ส่ิงที่จะต้องมองคือการรักษาสกอร์ที่นำอยู่ และยืนระยะให้ได้ตลอดเกม 90 นาที เพราะในครึ่งหลังที่พวกเขาสกอร์ออกนำ 2-0 ถูก ยุน จอง-ฮวาน กุนซือเซเรโซ แก้เกมมาปรับเล่นเกมบุกทางด้านริมเส้น และผลคือทีมจากี่ปุ่นได้ สองประตูจากลูกครอสในช่วงท้าย เกมนี้ลูกทีมของ โบซิดาร์ บันโดวิช จะต้องปรับการยืนระยะ ให้ดีกว่าเกมเยือนเกมที่แล้ว และจะต้องรักษาสกอร์ที่นำให้ได้ หากว่า สามารถยิงประตูได้ก่อน ซึ่งจากการที่พวกเขาไม่มีโปรแกรมเล่นในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ น่าจะทำให้ความสดเพิ่มอีกนิด แม้ว่าจะเจอไฟลท์เดินทางทรหดกว่า 12 ชั่วโมงถึงเจจู

หัวหอกแซมบ้า

3 จาก 6 ประตูที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำได้ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้มาจากสองหัวหอกแซมบ้าอย่าง เอ็ดการ์ ดาซิลวา และ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต  โดยเฉพาะสถิติในการยิงประตูในรายการนี้ของ เอ็ดการ์ ถือว่าไม่ธรรมดา จากการยิง 5 ประตูจาก 10 เกมหลังสุด และเมื่อมองย้อนไปในรูปเกม สองดาวเตะนำเข้าจากดินแดนกาแฟถือว่าเป็นสองหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของ ปราสาทสายฟ้าในฤดูกาลนี้  อาทิในนัดที่แล้ว ดิโอโก ก็เป็นคนทำทางให้ ยู จุน ซู ยิงประตูตีเสมอยักษ์ใหญ่จากเมืองจีน อย่างกว่างโจว เพราะฉะนั้นในเกมที่คาดหวังถึงผลชนะเพื่อที่จะเข้ารอบต่อไป ก็คงจะต้องหวังพึ่งพาฟอร์มของนักเตะสองคนนี้ในการที่จะลุ้นทำประตู ให้กับทีมหรือปั่นป่วนแนวรับของเจจู ยูไนเต็ด ให้ได้มากที่สุด

ทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ

ในศึกเอเอฟี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นี้ลูกทีมของ โบซิดาร์ บันโดวิช นั้นเพิ่มเติมความอันตรายในการเล่นลูกตั้งเตะเข้ามาด้วย และประตูที่พวกเขาทำได้ 6 ประตูมีประตูจากการเล่นลูกนิ่งถึง 4 ประตูด้วยกัน จากฝีเท้าการเปิดที่อันตรายของทั้ง รัตนากร ใหม่คามิ และ กรกช วิริยอุดมศิริ แต่ในรายแรกนั้นไม่ได้เดินทางไปเกาหลีใต้กับทีมด้วยเพราะมีอาการบาดเจ็บ แต่เชื่อว่าทีมยังมีคนอื่นที่สามารถทดแทนได้ และปราสาทสายฟ้าน่าจะทำการบ้านในการเล่นลูกตั้งเตะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดมาอย่างแน่นอนเพราะอย่างน้อย 5 นัดที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า ลูกตั้งเตะนั้นสามารถช่วยให้ทีมทำประตูใส่คู่แข่งในระดับเอเชียได้

ภาวนาผลอีกคู่ไปด้วย

นอกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นจะต้องบุกไปเก็บ 3 แต้มจาก เจจู ยูไนเต็ดให้ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่งานที่ง่ายดายนักสำหรับพวกเขา ยังจะต้องลุ้นผลอีกคู่ไปด้วย เพราะว่าก่อนลงสนามเกมนี้ เซเรโซ โอซาก้า นั้นมี 8 คะแนนมากกว่าพวกเขาอยู่ 2 คะแนน ส่วน กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ จ่าฝูงมี 9 คะแนนในนัดสุดท้าย เงื่อนไขที่ง่ายที่สุดคือ บุรีรัมย์ จะต้องบุกชนะ เจจูให้ได้ และลุ้นไม่ให้ เซเรโ​ซ บุกไปเอาชนะ กวางโจว พวกเขาก็จะมี คะแนนมากกว่าตัวแทนจากญี่ปุ่นกรณีที่ เซเรโซ่ แพ้ และมีคะแนนเท่ากันกับ เซเรโซ ที่ 9 คะแนน ในกรณีที่ทีมจากเจลีกเสมอ แต่จะเฉือนเข้ารอบด้วยสถิติเฮดทูเฮดที่ดีกว่า แต่ถ้าหากว่า กว่างโจวพ่าย และ บุรีรัมย์ บุกไปชนะ  คะแนน และเฮดทูเฮดของทั้งสองทีมจะเท่ากัน ก็จะต้องไปวัดลูกได้เสียกัน ซึ่งถึงตรงนี้ บุรีรัมย์นั้นเป็นรอง