เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฟุตบอลไทย

FIVE SWEET SPOTS : 5 ประเด็นน่าสนใจหลังบุรีรัมย์ฉก 1 แต้มสำคัญจากกว่างโจว

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  ตัวแทนจากไทยได้ 1 แต้มสำคัญจาก กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ตัวแทนจากจีน จากประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ ยูจุน ซู ดาวเตะชาวเกาหลีใต้  ทำให้พวกเขายังคงอยู่บนเส้นทางลุ้นเข้ารอบน็อคเอ้าท์ ต่อไป และนี่คือ 5 ประเด็นที่น่าสนใจหลังเกมนี้

 

กด  ลูกศรทางขวาเพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

1 แต้มสุดสำคัญ

ต้องบอกว่าหากในนาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขันแล้ว ยู จุน ซู ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปกองในก้นตาข่ายได้ ความหวังในการเข้ารอบของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนเกมนัดสุดท้ายก็ดูจะมอดดับลงไปทันที เพราะว่าสามแต้มในเกมนี้จะเป็นการการันตีการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของ กว่างโจว เอฟเวอร์แกรนด์ ตัวแทนจากจีนทันที แต่ผลเสมอในเกมนี้ทำให้ลูกทีมของ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ไม่สามารถที่จะผ่อนคันเร่งได้ในเกมนัดสุดท้ายที่จะต้องลงสนามพบกับ เซเรโซ โอซาก้า เพราะว่าผลเสมอก็จะไม่ปลอดภัยกับพวกเขาทำให้เกมนัดสุดท้ายมีความหมายกับเกือบทุกทีมจากหนึ่งแต้มสำคัญเกมนี้ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยกเว้นเจจู ยูไนเต็ดเท่านั้นที่ตกรอบไปเรียบร้อยแล้ว

ยู จุน ซู ฮีโร่คนเดิม

ก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลนี้ ยู จุน ซู นักเตะชาวเกาหลีใต้ถูกดึงตัวมาแทนที่ขวัญใจของแฟนบอลเซาะกราวอย่าง โก ซุล กิ ที่สวนทางกลับไปค้าแข้งในบ้าน และในฟอร์มช่วงแรกเหมือนว่าเขายังสร้างความโดดเด่นได้เท่ากับ นักเตะโควตาเอเชียคนก่อน แต่จุดเด่นอย่างแรกที่เรามองเห็นจากดาวเตะวัย 29 ปีรายนี้คือสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ทั้งกองกลาง และเซนเตอร์ฮาล์ฟ แถมยังขยับไปยืนค้ำเป็นกองหน้าเมื่อทีมต้องการได้อีกด้วย โดยในเกมนี้เขาเริ่มต้นด้วยการรับบทเซนเตอร์ฮาล์ฟ ก่อนที่จะขยับขึ้นไปเป็นกองหน้า และยิงประตูได้อย่างเฉียบขาดในช่วงทดเจ็บ เป็นฮีโร่ สองเกมติดต่อกันแล้ว ต่อจากเกมที่พวกเขาเบียดเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ตอนนี้แฟนบอลปราสาทสายฟ้าน่าจะลืมชื่อของโก ซุล กิ ไปบ้างแล้ว

ความเหนื่อยล้าอาจจะส่งผล

ทีมเยือนอย่างกว่างโจว ถือว่าเจอกับการเดินทางที่มีอุปสรรค เมื่อเที่ยวบินตรงจากประเทศจีนไม่สามารถที่จะบินตรงมายังบุรีรัมย์ได้ ทำให้พวกเขาจะต้องเดินทางไปลงเครื่องบินที่ดอนเมือง ก่อนที่จะบินต่อมาที่จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นจึงนั่งรถบัสมายังจังหวัดบุรีรัมย์ ถือว่าเป็นการเดินทางหลายต่อที่สิ้นเปลืองพลังงาน กว่าพวกเขาจะมาถึงบุรีรัมย์ ก็เป็นเวลากว่า 3 ทุ่ม ของวันจันทร์ และยังลงฝึกซ้อมก่อนเกม ทำให้พวกเขามีเวลาพักไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนที่จะลงเล่นในเกมนี้ นอกจากนี้แล้วปัจจัยเพิ่มเติมคืออากาศร้อนอบอ้าวใกล้หน้าร้อนที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งส่งผลโดยตรงไม่ต่างจากอากาศหนาวกับนักเตะที่ไม่คุ้นเคยเหมือนอย่างที่ เซเรโซ โอซาก้า เจอมาแล้ว ซึ่งเกมนี้ช่วงท้ายเกม กว่างโจวมีอากาศแผ่วจนทำให้โดยตีเสมอนาทีสุดท้าย

สู้สุดใจจนนาทีสุดท้าย

เกมนี้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นรองในหลายๆด้านในเรื่องของสถิติทั้งการครอบครองบอล การต่อบอล และการหาโอกาสจบสกอร์ ซึ่งในเกมนี้ลูกทีมของ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ได้โอกาส ยิงถึง 20 ครั้ง แต่ว่าเข้ากรอบเพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่า นฤบดินทร์ ถือว่าเป็นฮีโร่ ที่มีส่วนช่วยให้ ปราสาทสายฟ้ายังอยู่ในเกมจากการเข้าไปสกัดบอลจากการยิงของ ริคาร์โด กูลาร์ด ที่น่าจะเป็นประตูปิดกล่องที่ส่งทั้งกว่างโจวเข้ารอบ และส่งให้บุรีรัมย์ เจอกับสถานการณ์ที่ยากเย็นสุดๆที่จะเข้ารอบต่อไป แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ และมีอีกหนึ่งคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั้นคือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารของเจ้าบ้านที่งัดเอาซูเปอร์เซฟมาช่วยทีมได้หลายต่อหลายครั้ง จนทำให้พวกเขายังอยู่ในเกมจนถึงนาทีสุดท้าย และได้รางวัลเป็น 1 แต้มจากยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย

เงื่อนไขเข้ารอบ

แม้ว่าจะเป็นขาประจำในการลงเล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นเคยผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในปี 2013 ที่พวกเขาไปได้ไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนพ่าย เอสเตกฮลัล จากอิหร่าน ยุติเส้นทาง จนถึงวันนี้ปราสาทสายฟ้าไปได้ไกลสุดแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น แต่การที่จะประสบความสำเร็จในเวทีเอเชียถือว่าเป็นความฝันของประธานสโมสรอย่าง เนวิน ชิดชอบ มาโดยตลอด สำหรับเงื่อนไขที่ บุรีรัมย์ ที่มี 6 แต้มจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้คือ อันดับแรกพวกเขา จะต้องพึ่งตัวเองก่อนคือการบุกไปเอาชนะ เจจู ยูไนเต็ด ให้ได้ก่อน หากว่าเก็บสามแต้มไม่ได้ทุกอย่างจะจบลงทันที จากนั้นลุ้นให้เซเรโซ โอซาก้า ที่เฮดทูเฮดเป็นรองพวกเขา ไม่สามารถบุกไปเก็บสามแต้มจาก กว่างโจวได้ (หากเซเรโซแพ้ บุรีรัมย์ จะมีคะแนนแซงเข้ารอบทันที หรือหากเซเรโซ เสมอ บุรีรัมย์ มีเฮดทูเฮดที่ดีกว่าจากผลชนะ 1 นัดและเสมอ 1 นัด) แต่ถ้าอีกคู่จบลงที่ผลเสมอ บุรีรัมย์ ก็จะตกรอบทันที เพราะกว่างโจว และ เซเรโซ จะกอดคอกันเข้ารอบต่อไปทันที