ฟุตบอลทีมชาติ TRB FEATURE

ดาวจรัสแสง :5 แข้งฟอร์มเด่นแห่งศึกคิงส์คัพครั้งที่ 46

ศึกฟุตบอล คิงส์คัพ รูดม่านปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยอย่างยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรี แฟนบอลได้เห็นหารต่อสู้ของทีมชั้นนำในระดับโลกต่อหน้า โดยแชมป์ตกเป็นของ สโลวาเกีย ทีมอันดับที่ 29 ของโลก ที่เอาชนะ ทีมชาติไทยเจ้าภาพไปอย่างสนุกในนัดชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 3-2 และ ทีมอันดับที่สามได้แก่ กาบอง ที่เอาชนะ ยูเออี ไป 1-0 ในเกมชิงที่สาม และนี่คือ5 แข้งที่ผลงานโดดเด่นที่สุดในการชิงชัยครั้งนี้

กด NEXT เพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

 

อัลเบิร์ต รูสนัค | สโลวาเกีย  (เบอร์ 10)

ปีกจากรีล ซอลต์ เลค ในเมเจอร์ลีกซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา อายุเพิ่งจะ 23 ปีเท่านั้น ดูแล้วเขายังจะเป็นนักเตะอนาคตไกลอีกหนึ่งคนของทีมชาติสโลวาเกีย ที่กำลังจะสร้างทีมขึ้นมาใหม่หลังจากพลาดหวังการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย โดยอดีตดาวเตะฝึกหัดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีประสบการณ์ไปเล่นแบบยืมตัวกับ ทั้งโอลด์แฮม ซิตี้ และ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ รวมไปถึง คัมบูร์ ในลีกฮอลแลนด์ ก่อนย้ายไปเล่นกับ โกรนิงเก้น และปัจจุบันค้าแข้งในลีกลุงแซม ฉายแววโดดเด่นตั้งแต่เกมแรกในศึกคิงส์คัพกับยูเออี เมื่อจัดการพาบอลแหวกแนวรับยูเออีเข้าไปยิงยัดเสาแรก เป็นประตูจุดประกายให้ทีม และจากนั้นก็ป่วนแผงหลังทีมจากตะวันออกกลางอยู่เกือบตลอดทั้งเกม จนช่วยให้ทีมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนคว้าแชมป์ไปครองซึ่งในนัดชิงชนะเลิศช่วงท้ายเกมเขาก็ได้โอกาสลงมาสัมผัสเกมด้วย

อารอน อัปปิงดองกอย |กาบอง (เบอร์ 2 )

กาบองถือทีมเดียวในศึกคิงส์คัพครั้งที่ไม่เสียประตูให้กับคู่แข่งแม้แต่ประตูเดียวจากผลงานเกมแรกที่เสมอกับทีมชาติไทยไป 0-0 และในเกมนัดที่สองที่เอาชนะ ยูเออี ได้ ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับปราการหลังที่เป็นเหมือนหัวใจในแนวรับของพวกเขาอย่าง อารอน อัปปิงดองกอย ดาวเตะที่ค้าแข้งในลีกรองของประเทศตุรกีกับ อุมรานิเยสปอร์ โดยทั้งสองเกม ดาวเตะวัย 26 ปียืนคุมเป็นปราการด่านสุดท้ายให้ทีมก่อนจะถึงผู้รักษาประตู นอกจากนี้จุดเด่นไม่ใช่แค่การเข้าสกัดบอล หรือว่าการประกบตัวคู่ต่อสู้เท่านั้น การครอบครองบอล และการออกบอลเพื่อเปลี่ยนเกมจากจังหวะรับเป็นรุกให้ทีมได้เปรียบก็ทำได้ดีในหลายครั้งถือว่าเป็นนักเตะกัวใจหลักที่กาบองขาดไม่ได้ในการแข่งขันครั้งนี้

ชนาธิป สรงกระสินธ์ | ทีมชาติไทย

กองกลางร่างเล็ก ดาวเตะชาวไทยคนแรกในเจลีก ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าในช่วงเวลาครึ่งซีซั่นกว่าๆ ที่เขาไปโลดแล่นใน เจลีก ซึ่งถือว่าเป็นลีกที่แข็งแกร่งอันดับต้นๆของทวีปเอเชีย เขาได้อะไรกลับมาบ้าง ย่ิงการร่วมงานกับ มิไฮโล เปรโตวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ที่ชื่นชอบการทำทีมสไตล์เปิดเกมรุก ยิ่งดึงศักยภาพของอดีตแข้งบีอีซี เทโรศาสน ออกมาได้มากขึ้น การลงซ้อมอย่างมีคุณภาพในทุกๆวัน และได้เจอกับนักเตะที่แข็งแกร่งในระดับเอเชียในทุกสัปดาห์เสริมสร้างพัฒนาการของดาวเตะผู้นี้อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะความกล้าเล่นที่มีมากกว่าเดิม รวมไปถึงความมั่นใจในตัวเอง สองนัดที่ผ่านมาเราเห็นผู้เล่นแนวรับที่รูปร่างสูงใหญ่ของทั้ง กาบอง และ สโลวาเกีย ต่างเสียท่าให้กับนักเตะที่มีส่วนสูงอยู่แค่หัวไหล่ของพวกเขา ที่สร้างความปั่นป่วนและเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้เกือบจะตลอดเวลาที่ลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้าของเขา  

 

โรเบิร์ต มัค | สโลวาเกีย  (เบอร์ 20)

ปีกวัย 27 ปีของ สโลวาเกีย ที่ปัจจุบันเล่นให้กับ พีเอโอเค ในลีกกรีซ จากการปล่อยให้ยืมตัวของ เซนิต เซนต์ปีเตอร์เบิร์กทีมในลีกรัสเซีย เป็นนักเตะที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ สโลวาเกียทั้งสองเกม แม้ว่าในเกมที่สองจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นถึง 8 ตำแหน่งด้วยกัน ซึ่งในนัดชิงชนะเลิศ อดีตเด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ในการปั่นป่วนเกมทางกราบซ้ายทำให้ ฟิลิป โรลเลอร์ แบ็กขวาทีมชาติไทย เสียท่าในประตูแรกที่เขาทำให้กับทีมได้ จากจังหวะกระชากบอลหนีแข้งราชบุรีมิตรผล ก่อนเข้าไปจ่ายบอลต่อให้ ออนเดรจ ดูดา ยิงง่ายๆ เข้าไป รวมไปถึงประตูที่สองจากการเลี้ยงไลน์ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่จะรับบอลจาก เอริค พาซินต้า ก่อนที่จะหลุดเข้าไปยิงผ่านมือกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แบบง่ายๆ จนช่วยให้ สโลวาเกีย สามารถคว้าแชมป์คิงส์คัพสมัยที่ 2 มาครองได้

 

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ | ทีมชาติไทย

มิดฟิลด์พลังไดนาโม แม้ว่าจะยังผลงานไม่โดดเด่นมากในการลงเล่นให้กับสโมสรใหม่อย่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี ในช่วงออกสตาร์ทศึกไทยลีก หลังจากที่เพิ่งย้ายจาก เชียงราย ยูไนเต็ด มาร่วมทัพ แต่ยังคงได้รับความไว้วางใจ จากมิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย ให้เรียกมาติดทีม และมอบหมายตำแหน่งตัวจริงให้ โดยได้เล่นในตำแหน่งห้องเครื่องของทีม ที่คอยเชื่อมเกมรับกับเกมรุก และไล่ทำลายเกมฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการเล่นกับทีมทีมเหนือก่าทั้งสองทีมอย่าง กาบอง และ สโลวาเกีย ดาวเตะที่เป็นทายาทอดีตทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ในการไล่บดขยี้ทำลายเกมแดนกลางของคู่แข่ง ในเกมแรก เขาสู้กับ มาริโอ เลอมินา กองกลางดีกรีพรีเมียร์ลีกได้สนุก จนช่วยให้ไทยเก็บผลเสมอแล้วเอาชนะจุดโทษ ได้ และในเกมที่สอง ฐิติพันธ์ ยังเป็นหัวใจสำคัญที่วิ่งไล่บอลตลอดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และยังเข้าปะทะอย่างไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีของผู้เล่นในระดับลีกชั้นนำของทวีปยุโรปเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยให้ทีมชาติไทย รักษาแชมป์ไว้ได้ แต่ผลงานรองแชมป์จากการสู้กับทีมที่อันดับโลกเหนือกว่าถึง 100 อันดับได้สนุกก็ถือว่าน่าพอใจและพอจะเห็นพัฒนาการที่มาถูกทางแล้ว