ทีมชาติไทย พลาดโอกาสป้องกันแชมป์ คิงส์คัพ ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อพ่ายให้กับ สโลวาเกีย ไปในนัดชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 3-2 แม้ว่าอันดับโลกของทั้งสองทีมจะต่างกันถึง 100 อันดับ และนี่คือ คะแนนความสามารถของนักเตะทุกคนในเกมนี้
ตัวจริง
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 5: เจอกับงานที่หนัก สามประตูที่เสียไปหมดสิทธิ์ที่จะป้องกันให้กับทีม แต่ในจังหวะอื่นๆถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน
ฟิลิป โรลเลอร์ 5 :ช่วงแรกยังไม่กล้าเติมเกมบุกเหมือนเดิม เจอความแข็งแกร่งของ โรเบิร์ต มัค แล้วเอาไม่อยู่ทำให้ทีมเสียประตูแรก รวมไปถึงประตูที่สองด้วย
พรรษา เหมวิบูลย์ 6 :เจอกับงานหนักกว่าเกมแรกในการรับมือลูกกลางอากาศกับผู้เล่นของ สโลวาเกีย ที่แข็งแกร่งกว่า และมาเสียท่ากับบอลตามช่องของสโลวาเกีย ท้ายเกมเติมขึ้นไปยิงประตูให้ทีมช้างศึกได้ด้วย
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว 6 : เจอกับแนวรุกที่คุณภาพเหนือกว่าเกมแรกทำให้เผยให้เห็นความผิดพลาดในการคุมพื้นที่และยืนตำแหน่ง ครึ่งหลังเล่นได้อย่างดุดัน และตื่นตัวมากขึ้น ถือว่าเป็นเกมที่ดีที่ได้เรียนรู้กับทีมที่แข็งแกร่งกว่า
พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา 5 :มีบทบาทกับเกมค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเพราะในช่วงต้นเกมสโลวาเกีย ขึ้นเกมทางขวาเป็นหลักและโอกาสเติมเกมยังไม่ค่อยมี และถูกเปลี่ยนออกในช่วงท้ายเกม
จักรพันธ์ แก้วพรม 6 :ถูกขยับให้ดันสูงกว่าเกมแรกและออกไปอยู่ทางซ้ายมากกว่าเดิม เพื่อให้ความสามารถในการเล่นเกมบุกมากขึ้น ช่วงแรกจังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบขาด แต่เมื่อได้จังหวะสกอร์ก็ทำได้แบบไม่ผิดพลาด ครึ่งหลังเมื่อมงคล ถูกเปลี่ยนตัวออกก็ขยับไปยืนทางขวาด้วย ก่อนจะได้เล่นประมาณ 1 ชั่วโมงเต็มก่อนถูกเปลี่ยนออก
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 8 : ยังคงใช้พลังในการวิ่งไล่ทำลายเกมของทางสโลวาเกีย มีความขยันและมุ่งมั่น ไม่ปล่อยให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามผ่านได้ง่ายๆ มีจังหวะทะลวงตรงกลางเป็นทางเลือกในแนวรุกเพิ่มด้วย เข้าปะทะกับผู้เล่นของสโลวาเกีย อย่างไม่กลัวตลอดทั้งเกม
ชนาธิป สรงกระสินธ์ 7 :แนวรุกจากคอนซาโดเล ซัปโปโร ดูเป็นผู้เล่นที่วูบวาบที่สุดของไทยในช่วงต้นเกม ทุกครั้งที่ได้บอล แม้จะตัวเล็กแต่มีความเร็วและเเข็งแกร่ง และสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับคู่แข่งตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอลหรือพาบอลไปข้างหน้าจนผู้เล่นสโลวาเกียต้องหยุดด้วยการฟาวล์
ธีราทร บุญมาทัน 6 :เกมแรกเขาออกสตาร์ทได้ไม่ดี แต่เกมนี้แบ็กซ้ายจาก วิสเซล โกเบ เน้นความแน่นอนในการออกบอลที่มากขึ้น ขยับมารับผิดชอบพื้นที่ตรงกลาง ช่วงท้ายเกมบทบาทหายไป
มงคล ทศไกร 5 : ยังได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง หลังจากไทยเสียประตู คู่หูด้านกราบขวา ก็มีคนมาซัพพอร์ตด้วย แต่จังหวะประสานงานยังขัดๆ หาพื้นที่และตำแหน่งดีเหมือนเดิม แต่จังหวะสุดท้ายทำได้ไม่ดี ก่อนที่ตะถูกถอดออกตั้งแต่จบครึ่งแรก
ธีรศิลป์ แดงดา 6:มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้นกว่านัดแรกในช่วงต้นเกม พักบอลและเอาตัวรอดได้ตลอด มีความเก๋าพอ พยายามลงมาล้วงบอลค่อนข้างต่ำ ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดได้ดี จนทำให้ไทยได้ประตูตีไข่แตก ครึ่งหลังก็ยังลงมาเชื่อมเกมต่ำ และสร้างโอกาสให้เพื่อนได้
ตัวสำรอง
บดินทร์ ผาลา 6 : ตัวสำรองคนแรกของ มิโลวาน ราเยวัช ในเกมนี้ ถือว่าสร้างมิติใหม่ๆในเกมรุกได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะการยิงไกล แต่น่าเสียดายที่ขาดความแม่นยำ
นูรูล ศรียานเก็ม 6: ตัวสำรองคนที่สองถูกส่งมาแทนจักรพันธ์ แก้วพรม พยายามใช้จุดเด่นเรื่องความเร็ว โจมตีแนวรับสโลวาเกีย เป็นคนเปิดลูกฟรีคิกให้ไทยได้ประตูไล่มา
สิโรจน์ ฉัตรทอง 6: ตัวสำรองคนสุดท้าย ที่ได้ลงสนามมา แต่ว่ามีเวลาน้อนเกินไปที่จะพลิกเกม แต่ก็ยังแสดงให้เห็นจังหวะที่ทีมต้องการจากเขาคือการใช้ความแข็งแกร่งเก็บบอลในแดนหน้า