อ่านใจมิโล: คาดการณ์แผนผังช้างศึกจัดทัพลุยศึกคิงส์คัพครั้งที่ 46

ทีมชาติไทย กำลังจะออกสตาร์ทในศึก คิงส์คัพครั้งที่ 46 เกมแรกกับทีมแกร่งจากกาฬทวีปอย่าง กาบอง  โดยในเกมนี้ช้างศึกจะได้ใช้งานผู้เล่นที่เดินทางกลับมาจากการค้าแข้งในต่างแดนครบ แถมมีนักเตะหน้าใหม่ที่ถูกเรียกมาติดทีมชาติไทยในยุคของกุนซือชาวเซอร์เบียเป็นครั้งแรกทั้ง ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูวัย 31 ปี และ ชินภัทร ลีเอาะ สองแข้งจากเชียงราย ยูไนเต็ด รวมไปถึง นิติพงศ์ เสนานนท์ แบ็กขวาจาก การท่าเรือ น่าสนใจว่าเกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช จะจัดทัพออกมาอย่างไร และนี่คือการคาดการณ์จากเรา

กด NEXT  เพื่อร่วมติดตามไปกับเรา

4-2-3-1  Default

เชื่อว่าในการแข่งขันครั้งนี้ มิโลวาน ราเยวัช ยังคงจะยึดระบบการเล่นเดิมคือแผน 4-2-3-1 เอาไว้ ทำให้มีโอกาสสูงที่แฟนบอลไทยจะได้เห็นทีมชาติไทยลงเล่นด้วยแผนนี้ โดยที่มี นายทวารอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่โอเอช ลูเวิน ยอมปล่อยตัวมาร่วมทัพลงเฝ้าเสาเป็นมือถือ แนวรับ แบ็กขวา เมื่อ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ตัวเลือกแรกถอนตัวออกไป แถมตัวเลือกที่สองอย่าง ทริสตอง โด ก็ขอถอนตัวเนื่องจากบาดเจ็บ แม้จะเพิ่งช่วยเมืองทอง ยูไนเต็ด 90 นาทีเต็มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตำแหน่งนี้มีโอกาสที่ ฟิลิป โรลเลอร์  จะได้ลงสนามเป็นตัวจริง

ในส่วนของคู่เซนเตอร์ในยุคของ ราเยวัช ค่อนข้างจะลงตัวที่การใช้งาน พรรษา เหมวิบูลย์ กับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ส่วนแบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา จะได้ลงเล่น แดนกลาง คีย์แมนที่กุนซือเลือดเซิร์บชอบใช้งานคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ จะได้รับโอกาส โดยจะเล่นร่วมกับ จักรพันธ์ แก้วพรม

แนวรุกมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตัวจิ๊ดจาก คอนซาโดเล ซัปโปโร เป็นตัวปั้นเกม ขนาบข้างด้วย มงคล ทศไกร ปีกจอมขยัน อยู่ทางขวา และทรงซ้ายดันเอาธีราทร บุญมาทัน จากวิสเซลโกเบ มาเล่นส่วนกองหน้าตัวเป้าจะใช้ ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกจาก ซานเฟรชเซ ฮิโรชิมา

4-3-3 Offense

การลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองในถ้วยของพระราชา แน่นอนว่าแฟนบอลอยากจะเห็นทีมชาติไทยเดินหน้าเอาชนะคู่แข่ง โดยที่เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกรุกเข้าใส่ ซึ่งการวางระบบ 4-3-3 โดยเพิ่มมิดฟิลด์ตัวรุกอีก 2 คนที่พร้อมจะทะลุทะลวงจากตรงกลาง ในแผนการเล่นนี้แน่นอนว่า ผู้รักษาประตูมือหนึ่งยังจะเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ไปเก็บประสบการณ์ในลีกเบลเยียมมา แนวรับ แบ็กขวาใช้งาน ฟิลิป โรลเลอร์ แบ็กลูกครึ่งที่เติมเกมรุกได้ดี ส่วนแบ็กซ้ายก็ใช้ ธีราทร บุญมาทัน จากวิสเซล โกเบ ที่เล่นเกมรุกได้ดีเช่นกัน และคู่เซนเตอร์ยังเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ กับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว  

แดนกลางใช้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เป็น ห้องเครื่องโดยมี ปกเกล้า อนันต์ กับ จักรพันธ์ แก้วพรม สองมิดฟิลด์เชิงรุกที่มีจุดเด่นในการสอดขึ้นไปทำประตูคอยปั้นเกม แนวรุกสามประสานในแดนหน้า ธีรศิลป์ แดงดา จะรับบทกองหน้าตัวเป้า โดยมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ ขนาบข้างเหมือนบทบาทใหม่ของเขาในทีม คอนซาโดเล ซัปโปโร โดยมี นูรูล ศรียานเก็ม อยู่อีกฝั่งซึ่งสามารถสลับตำแหน่งกันได้ตลอดเวลาสำหรับตัวรุกทั้งสามคน

3-4-3 Defensive

จากทุกทีมที่เข้าร่วมแข่งขันในศึกคิงส์คัพครั้งนี้ ทุกทีมล้วนแต่มีอันดับโลกที่สูงกว่าไทยทั้งนั้น ซึ่งต้องยอมรับว่าคู่แข่งขันที่เชิญมาครั้งนี้เป็นทีมที่แข็งแกร่งกว่าถือเป็นการเตรียมทีมที่ดี ของทีมช้างศึก ซึ่ง มิโลวาน ราเยวัช อาจจะปรับเกมมาเล่นแบบเน้นความรัดกุมเอาไว้ก่อน ในระบบ 3-4-1-2 ที่เคยใช้งานและได้ผลที่น่าพอใจในเกมเยือนออสเตรเลีย ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่แม้จะพ่ายแต่ก็ทำเอาเจ้าถิ่นถึงกับหืดจับ  

สำหรับผู้รักษาประตูมือหนึ่งยังคงเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ลงเฝ้าแนวรับ ในระบบเซนเตอร์ฮาล์ฟสามคนมี พรรษา เหมวิบูลย์ กับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว  สองเซนเตอร์ตัวหลักลงเล่น อีกราย ชินภัทร์ ลีเอาะ อาจจะมีโอกาสได้ลงเป็นตัวจริง ตำแหน่งวิงแบ็ก เมื่อไม่มี ทริสตอง โด ที่ถอนตัวเพราะอาการบาดเจ็บแม้เพิ่งลงเล่นให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด 90 นาทีเต็ม รวมไปถึง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แบ็กจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถอนตัวไปอีกราย ทำให้โอกาสอาจจะเป็นของ นิติพงษ์ เสลานนท์ จาก การท่าเรือ ส่วนกราบซ้ายต้องเป็น ธีราทร บุญมาทัน ที่ถนัดการเล่นในตำแหน่งนี้

แดนกลาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยังคงเป็นตัวยืน โดยจะปั้นเกมร่วมกับ จักรพันธ์ แก้วพรม จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวฟรีที่อยู่ข้างหลังคู่กองหน้าที่จะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา กับ สิโรจน์ ฉัตรทอง หัวหอกร่างใหญ่จากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด