ฟุตบอลไทย ไทยลีก

ผิดคาด: 5 ทีมไทยลีกออกสตาร์ทน่าผิดหวัง

ศึกโตโยต้า ไทยลีก ประจำฤดูกาล 2018 ผ่านการแข่งขันมาแล้ว 5 เกมด้วยกัน ซึ่งการความคาดหวังของทั้ง 18 สโมสรมีทั้งทีมที่ทำผลงานได้ตามเป้า บ้างก็ผลงานเด่นเกินคาด รวมถึงความล้มเหลวของหลายสโมสร ที่เมื่อผ่านการแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับทำผลงานได้ไม่ดีดั่งที่วางไว้ และนี่คือผลงานของ 5 สโมสรจากลีกสูงสุดที่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2018 ด้วยผลงานน่าผิดหวัง

กด NEXT เพื่ออ่าน

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ก่อนเปิดฤดูกาล 2018 ทัพราชันมังกรตั้งเป้าผลงานในฤดูกาล 2018 ด้วยการจบอันดับที่ดีกว่าเดิม (ซีซัน 2017 จบอันดับ 6) พร้อมงบการทำทีมที่ตั้งต้นไว้ถึง 120 ล้านบาท และทำการแต่งตั้งให้ คริสเตรียน ซีเก้ อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมันคุมทีม ทั้งยังเสริมตัวผู้เล่นหน้าใหม่ที่คุ้นเคยลีกไทยเป็นอย่างดีทั้ง จอนาตา แวร์ซูรา, ประทุม ชูทอง หรือแม้แต่การดึงแข้งนอกโปรไฟล์ดีทั้ง คัง ซู อิล จากเธสปา คูซัทซึ กุนมะ รวมถึง เฟลิเป้ เมเนเซส จากพัลไมรัส ฯลฯ มาร่วมทีมพร้อมหน้า

อย่างไรก็ดี เมื่อออกสตาร์ท 5 เกมแรก พวกเขากลับเก็บชัยชนะได้เพียง 1 จาก 5 เกมเท่านั้น (เปิดบ้านนัดแรกเอาชนะแอร์ฟอร์ซ 1-0) นอกนั้นเป็นการพ่ายแพ้คู่แข่งทั้งหมด แถมยังโดนยิงรวมแล้วถึง 8 ประตู รั้งอยู่อันดับที่ 16 ของตาราง มิหนำซ้ำยังเกิดปัญหาภายในทีมเอง หลังซีเก้ เผยกับสื่อบ้านเกิดว่าถูกแทรกแซงการทำงาน และตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งกุนซือหลังคุมทีมเพียง 2 นัดเท่านั้น ก่อนจะเป็นเรเน เดอซาเยีย อดีตกุนซือเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เข้ามาคุมทีมหวังกอบกู้สถานการณ์แทน

ชลบุรี เอฟซี

อีกหนึ่งทีมใหญ่ที่ก่อนเปิดฤดูกาลหลายฝ่ายตั้งเป้าว่าจะกลับมาเกาะกลุ่มหัวตารางอีกครั้ง หลังจากที่ซีซันก่อนจบอันดับ 7 แบบไม่ได้ลุ้นอะไร สำหรับฤดูกาล 2018 นี้ ทัพฉลามชลอิมพอร์ต โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช เทรนเนอร์ชาวเยอรมันเข้ามาเป็นกุนซือใหญ่ พร้อมแต่งตั้งเทิดศักดิ์ ใจมั่น เข้ามานั่งเป็นมือขวา พร้อมกับเสริมผู้เล่นประสบการณ์สูงในลีกไทย ทั้งคมกริช คำโสกเชือก, วัฒนศัพท์ เจริญศรี, ณภัทร ธำรงศุภกร และดีลต่างชาติดีกรีไม่ธรรมดาทั้ง ซูฟาห์มี อารีฟิน (ทีมชาติสิงคโปร์), มาร์เคลย์ ซานโตส (รองดาวซัลโวลีกอินโดนีเซีย 2017) รวมถึงซีโร อัลเวส อดีตแข้งทีมชาติบราซิลชุดเยาวชนมาเสริมแกร่ง

แต่เมื่อประเดิมซีซัน 2018 ดูเหมือนผลงานของทีมจะสวนทางกับเป้าที่วางไว้ ตลอดจนความคาดหวังของแฟนบอลที่ต้องดีกว่าเดิม หลังพลพรรคบลูชาร์คเริ่ม 5 เกมแรกด้วยผลงานชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ไปถึง 3 นัด รั้งอยู่ที่ 15 ของตาราง ซึ่งเป็นพื้นที่ตกชั้น ทั้งยังเจอปัญหาทั้งการหา 11 ผู้เล่นตัวจริงไม่ลงตัว การสื่อสารระหว่างโค้ชใหม่กับผู้เล่น ฯลฯ ถือเป็นโจทย์สำคัญที่ชลบุรีจำเป็นจะต้องเรียกศรัทธาของแฟนบอลตัวเองกลับมาให้ได้

โปลิศ เทโร เอฟซี

หลังจบอันดับที่ 14 เมื่อซีซันที่แล้ว มาในปีนี้เทโรได้รับการคาดหมายว่าผลงานจะต้องดีกว่าเดิม ก่อนเปิดฤดูกาล ยอดทีมจากบุนยะจินดาตัดสินใจดึงเทรนเนอร์ประสบการณ์สูงอย่าง สก๊อต คูเปอร์ คุมทีม พร้อมแข้งหน้าใหม่ดีกรีดังอย่าง อ่อง ธู , ปาเป้ อับดุลลาย, มาร์กอส วินิซิอุส, ภิญโญ อินพินิจ และ มงคล ทศไกร มาร่วมทีม

สำหรับการแข่งขัน 5 เกมแรก ทัพมังกรโล่เงินประสบปัญหาผลการแข่งขันที่ไม่เป็นใจ ไล่ตั้งแต่ประเดิมพ่ายพีที ประจวบ น้องใหม่ในนัดเปิดฤดูกาล แพ้ต่อแบงค็อก ยูไนเต็ด ในนัดสอง และแม้นัดที่สามจะบุกไปแบ่งแต้มเชียงราย ยูไนเต็ด ถึงถิ่น แต่เกมต่อมาก็ยังเปิดรังพ่ายนครราชสีมาแบบหวุดหวิด อย่างไรก็ตาม โอกาสนับหนึ่งกับการประเดิม 3 แต้มแรกในฤดูกาล 2018 เกิดขึ้นแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (เกมที่ 5) หลังพวกเขาบุกไปชนะชัยนาท ฮอร์นบิล ได้ถึงถิ่น

สุพรรณบุรี เอฟซี

ทีมฉายา “ช้างศึกยุทธหัตถี” ยังคงวางใจให้ อเดบาโย กาเดโบ อยู่คุมทีมต่อในฤดูกาล 2018 พร้อมกับการเปิดตัวทีมสู้ศึกฤดูกาลใหม่ด้วยการคว้าทั้งแข้งไทยและแข้งนอกฝีเท้าเด่นไม่แพ้กัน ทั้ง นฤพน ไวลด์(พุฒซ้อน), ทาคาฟูมิ อกาโฮชิ, อันแดร์สัน ดอส ซานโตส รวมถึงสองกองหน้าอิมพอร์ตอย่าง ซิลวาโน กอมฟาลิอุส และ โรมูโล คาบราล มาเสริมความเฉียบคม

ทว่าเมือยอดทีมจากภาคกลางออกสตาร์ท 5 เกมแรกในไทยลีก พวกเขากลับประสบปัญหากองหน้าฟอร์มฝืด ยิงคู่แข่งได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่เก็บชัยชนะได้เพียง 1 เสมอ 3 และแพ้ 1 นัด ทำให้อันดับในตารางรั้งอยู่ที่ 11 ในขณะนี้

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

หลังจากกิเลนผยองต้องเสียสามนักเตะแกนหลักที่ออกไปค้าแข้งต่างแดน ไม่ว่าจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา), ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซล โกเบ) และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (โอเอช ลูเวิน) ทำให้ขุมกำลังในทีมดูลดความแกร่งไปบ้าง อย่างไรก็ตาม อดีตแชมป์ไทยลีก 4 สมัยไม่รีรอที่จะดึงผู้เล่นหน้าใหม่มาเสริมทัพ ไม่ว่าจะเป็น กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, ชาชา โคเอลโญ รวมถึงเจนรบ สำเภาดี มาทดแทน

แต่พอเริ่มฤดูกาล 2018 ผลงาน 5 เกมแรกของเมืองทองกลับลุ่มๆลอนๆ ไม่ได้คว้าสามแต้มสม่ำเสมอเฉกเช่นกับคู่แข่งหัวตารางทั้งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด หรือแม้แต่การท่าเรือ หลังจากที่ลูกทีมของธชตวัน ศรีปาน เก็บชัยชนะได้เพียง 2 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ไปแล้ว 2 เกม หล่นไปอยู่ที่ 10 ของตาราง มีแต้มตามปราสาทสายฟ้าอยู่ถึง 6 คะแนน หนึ่งในนั้นคือความปราชัยต่อพีที ประจวบ น้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาในการแข่งขันนัดที่ 5 มากถึง 1-6 ก่อนจะกลายเป็นวิกฤติทีมถึงขั้นที่โค้ชแบนขอวางมือจากการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน