เอเชีย ฟุตบอลญี่ปุ่น

น่าประทับใจ/มีของ/ต้องได้โอกาส: ความเห็นสื่อต่างชาติหลังเกมเปิดเจลีก ของ “บุญจัง”

ธีราทร บุญมาทัน กลายเป็นนักเตะไทยคนที่สองที่ได้ลงสนามในเจลีก หลังจากได้โอกาสลงมาเป็นตัวสำรองให้กับ วิสเซล โกเบ  ในนาที 75 เขาจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน โซ ฟูจิทานิ ซึ่งหลังจากเปลี่ยนลงมาไม่กี่นาทีเจ้าตัวมีโอกาสยิงฟรีคิกระยะ 30 หลา แต่ถูกผู้รักษาประตูของซางัน โทซุ บินปัดออกไปได้อย่างน่าเสียดาย กับอีกหลายจังหวะสร้างโอกาสให้ทีม จนทีมกลับมาตามตีเสมอได้ด้วยสกอร์ 1-1 

หลังจากเกมเปิดสนามฟุตบอลเจลีกในคู่ฟรายเดย์ไนท์ ที่ซางัน โทซุ เปอดสนามพบกับ วิสโซล โกเบ ซึ่งธีราทร บุญมาทัน  ยังมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น ก่อนได้โอกาสลงสนามมาในนาทีที่ 75 ซึ่ง อิปเปอิ ซึชิยะ ผู้สื่อข่าวจากฟุตบอลไทรบ์ญี่ปุ่น ที่ได้ชมเกมนี้ได้กล่าวถึงดาวเตะจากไทยว่า  “ผมให้คะแนนความสามารถของ ธีราทร เกมนี้ 6.5 คะแนน เขาเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพและได้แสดงให้เห็นโดยเฉพาะการเล่นลูกตั้งเตะ อย่างไรก็ตาม เขายังต้องเรียนรู้ทักษะในการยืนตำแหน่ง” 

ส่วนทางด้านเซซาเร โปเลงกีผู้สื่อข่าวชาวอิตาเลี่ยน ที่มีประสบการณ์กับฟุตบอลญี่ปุ่น ไม่น้อย ปัจจุบัน ทำหน้าที่อยู่กับฟุตบอลไทรบ์ญี่ปุ่น ยอมรับว่าประทับใจอดีตแข้ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด “มันเป็นการเปิดตัวที่น่าประทับใจมากๆ เขาลงมาในตอนที่ทีมต้องการประตูตีเสมอ และพวกเขาก้ทำได้ เขานำเอาจังหวะการขับเคลื่อนทีมลงมาด้วย และเห็นได้ชัดว่าเขาเล่นในระดับเจลีก 1 ได้อย่างสบายๆ หลังจากที่ ชนาธิป เราเห็นแล้วว่ามีนักเตะไทยคนที่สองที่เล่นในเจลีกได้แล้ว ผมคิดว่า โยชิดะ (โค้ช วิสเซล โกเบ) จะให้โอกาสเขามากกว่านี้ในอนาคต” 

นอกจากนี้เบน แม็กเวล ผู้สื่อข่าวชาว ออสเตรเลีย ที่ทำรายการ เจทอล์ค พูดคุยเกี่ยวกับฟุตบอล เจลีก ผ่านทาง พอดแคสต์  กล่าวว่า “ผมประทับใจในความมั่นอกมั่นใจของเขา มันน่าสนใจมากๆที่เขาตรงดิ่งไปเล่นลูกฟรีคิกเลย และลูกยิงฟรีคิกของเขาเกือบจะเล่นงาน กอนดะ (ผู้รักษาประตู ซางัน โทสุ) จนทำประตูตีเสมอให้กับ โกเบได้” 

ปิดท้ายกันที่ มาริโอะ คาวาตะ ผู้สื่อข่าของ ฟุตบอลไทรบ์ญี่ปุ่น ที่ประจำการอยู่ในเยอรมันได้แสดงความคิดเห็นไปในเชิงบวกว่า “เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเราเล่นลูกฟรีคิกได้ดี และเราทั้งหมดได้เห็นว่าเขารับมือกับเกมได้ เขาไม่ค่อยมีเวลามากนักในสนามแต่ผมก็คิดว่าเขาสร้างความแตกต่างได้ เราคงต้องตามดูกันต่อไปว่าอะไรที่เขาสามารถแสดงให้เราเห็นได้อีกในอนาคต”